กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-11-2024, 17:28
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,923
ได้ให้อนุโมทนา: 225,199
ได้รับอนุโมทนา 800,146 ครั้ง ใน 39,342 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 11-11-2024, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงวันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังวัดหนองโพ ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ ๙ ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อร่วมอนุโมทนาในงานทอดกฐินสามัคคีของทางวัดหนองโพ ซึ่งทางพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ ท่านได้นิมนต์ให้กระผม/อาตมภาพและหลวงพ่อเจ้าคุณเชาวลิตร - พระวชิรปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) มาร่วมงานในวันนี้ด้วย

เมื่อไปถึงปรากฏว่า สถานที่จอดรถแทบจะไม่มีแล้ว ต้องไปจอดเลยหน้าโบสถ์ไปอีกค่อนข้างจะไกล เนื่องเพราะว่าลานจอดรถที่เคยมีอยู่นั้น ตอนนี้กลายเป็นโรงทานไปเรียบร้อยแล้ว และมีประชาชนจำนวนมากมายมหาศาล กำลังรับประทานอาหารกันอยู่ ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นมื้อที่เท่าไร แต่ก็ต้องบอกว่าในเมื่อตั้งใจที่จะเปิดโรงทานแล้ว ใครเขาจะมากินก็เป็นเรื่องของเขา เรามีหน้าที่ให้ก็แล้วกัน ถ้าทำใจแบบนี้ได้ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปคิดว่า "คนนี้เดินวนมา ๕ รอบแล้ว..!" อะไรเหล่านี้เป็นต้น

ท่านพระมหาสมคิดมาต้อนรับ แล้วก็เล่าให้ฟังว่า ได้ให้ลูกศิษย์ทำการตัดต่อภาพเคลื่อนไหว ในการเดินทางไปยังศรีลังกาเอาไว้ด้วย ก่อนที่จะทอดกฐินจะเปิดให้ญาติโยมทุกคนได้ดู สำหรับการเดินทางไปฉลองหลวงพ่อโต วัดศรีธรรโมทยะ เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกาในปีหน้านั้น ก็ได้ทยอยเปิดให้ญาติโยมได้จองร่วมขบวนไปแล้ว โดยใช้คำว่า "งวดนี้ดาราเยอะมาก" ซึ่งเรื่องนี้กระผม/อาตมภาพต้องขออภัย เพราะว่าหย่าขาดจากโทรทัศน์มาเป็นระยะเวลามาราว ๆ ๔๐ ปีแล้ว จึงทำให้ไม่รู้จักบรรดาดาราในสมัยนี้เลย

การไปศรีลังกาในงวดที่ผ่านมาก็มีผู้บอกว่านี่คือ "หลิว อาจารียา" แต่ขออภัย..หลวงตาเล็กไม่รู้จัก ไม่ใช่ว่าเขาดังไม่พอ หากแต่ว่าไม่เคยได้ดูเลยว่า บุคคลผู้นี้นั้นเป็นนักร้องหรือว่าเป็นดารา ? ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะทำให้ปลอดภัยจากเรื่องของการยั่วยุ ของสิ่งที่จะเสพเสวยเข้าไปทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ก็จริง แต่ว่าก็ทำให้กลายเป็นคน "หูป่าตาเถื่อน" ไม่ทันโลกไปเสียอย่างนั้น..!

ญาติโยมส่วนหนึ่งคงไม่ทราบว่า ตัวกระผม/อาตมภาพเองนั้น ไม่เล่นเฟซบุ๊ก ไม่เล่นอินสตาแกรม ไม่เล่นแม้กระทั่งไลน์ จนกระทั่งมาภายหลังโดนผู้บังคับบัญชาตำหนิติเตียนเอา ถึงได้ขอยืมไลน์จากน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) มา เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาท่านได้แอดไลน์เป็นเพื่อนกัน แล้วจะได้ส่งงานหรือว่าส่งคำสั่งเข้ามาได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2024 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-11-2024, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มาภายหลังกระผม/อาตมภาพลองกดดู เห็นว่าสามารถเปลี่ยนชื่อได้ จึงเปลี่ยนชื่อของน้องเล็กมาเป็น "ท่าขนุน ๑" ซึ่งคนจะทราบดีว่าเป็นชื่อที่กระผม/อาตมภาพใช้รับงานเข้า แล้วก็ทดลองกดโน่นกดนี่ไปเรื่อย จนสามารถเปลี่ยนรูปพื้นหลังจากน้องเล็กมาเป็นรูปตัวเองได้ ทำเอาบุคคลเฮกันลั่น เพราะไม่นึกว่า "คนหลังเขา" อย่างกระผม/อาตมภาพ จะสามารถทำเรื่องพวกนี้ได้เช่นกัน..!

ดังนั้น..นอกจากอีเมล์ที่มีเอาไว้สำหรับให้ลูกศิษย์ส่งการบ้าน ในช่วงที่ยังทำหน้าที่อาจารย์สอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวาราวดีก็ดี วิทยาลัยสุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิก็ดี หรือวิทยาลัยกาญจนบุรีศรีไพบูลย์ก็ตาม ก็จะมีแค่ไลน์ที่แอบดึงเอาของน้องเล็กมาใช้งานเท่านั้น เรื่องอื่น ๆ นั้นใช้ไม่เป็นดูไม่เป็นเอาเสียเลย..!

แต่ว่าถ้าหากท่านทั้งหลายเห็นเฟซบุ๊กชื่อพระครูวิลาศกาญจนธรรม หรือว่าอินสตาแกรมชื่อพระครูวิลาศกาญจนธรรมก็ไม่ต้องตกใจ เนื่องเพราะว่าลูกศิษย์เขาหวังดี เกรงว่าถ้าปล่อยเอาไว้อาจจะมีคนเอาชื่อไปใช้ ก็เลยสมัครเอาไว้ให้ แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นผู้ดูแล แม้กระทั่งเว็บไซต์วัดท่าขนุนก็ดี เว็บ palungjit.org ก็ตาม กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ?

เนื่องเพราะว่าได้มอบหมายให้คณะศิษย์ไปทำหน้าที่แทน จนกระทั่งอาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้แซวว่า "หลวงพ่อเล็กเป็นพระที่ไม่เล่นเฟซบุ๊ก แต่มีรูปลงเฟซบุ๊กมากที่สุดในโลก..!" เหล่านี้เป็นต้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงค่อนข้างที่จะเป็น "คนหลังเขา" ยกเว้นเวลาที่จะต้องนำเอาวัตถุมงคลไปลงในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ก็จะมีไอ้ตัวเล็กมาเปิดรูปให้ดูว่าตอนนี้อะไรลงไปแล้วบ้าง อย่างล่าสุดนี้กระผม/อาตมภาพให้เปิดกระทู้ของชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทย ในการช่วยสร้างห้องน้ำให้กับโรงเรียนบ้านไร่ป้า หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี แล้วก็ไปขนเอาวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ของทางวัด ซึ่งหมดไปแล้วจากการจำหน่ายมาลงในกระทู้

แต่ว่ากุฏิของกระผม/อาตมภาพนั้นต้องบอกว่าเป็น "กุฏิมหาสมบัติ" เนื่องเพราะว่าจะคุ้ยไปซอกไหนมุมไหน ก็ล้วนแต่มีของโน่นของนี่หลงอยู่เสมอ แม้กระทั่งการเก็บกวาดทำความสะอาดกุฏิทุกครั้ง ก็พาให้ตนเองดีใจเพราะว่าเจอเงินเป็นหมื่น ๆ ก็มี..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เมื่อรับกิจนิมนต์กลับมาเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ทิ้งซองปัจจัย ตลอดจนกระทั่งไทยธรรมต่าง ๆ กองอีเหละเขะขละไว้ ถ้าหากว่าทางแม่ชีชื่น ศรีสองแควก็ดี ลูกปุ๊ก (นางสาวสุมาลี ตีรเลิศพานิช) ก็ดี หรือว่าน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ก็ตาม ยังไม่มาทำการรื้อ ทำการขนไปลงกองกลาง เพื่อที่ให้พระภิกษุสามเณรทั้งวัดได้ใช้ร่วมกัน ของบางอย่างก็ทั้งเน่าทั้งเสียไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2024 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 11-11-2024, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อคุ้ยไปตรงไหนก็มีแต่สมบัติซ่อนอยู่ ของบางอย่างมีผู้ถวายมาบ้าง ตนเองบูชาเอาไว้บ้าง ทั้ง ๆ ที่เป็นวัตถุมงคลวัดท่าขนุนนั่นแหละ เมื่อคุ้ยเจอเข้าก็นำมาลงในเว็บไซต์วัดท่าขนุนให้ท่านทั้งหลายได้บูชากัน โดยเฉพาะงวดนี้มีพระนาคปรกฉลอง ๒,๖๐๐ ปี พุทธชยันตี ซึ่งสร้างขึ้นมาในความหมายว่า "ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา" แล้วพระท่านยังบอกว่า "สามารถใช้แทนพระกริ่งพิชัยสงครามได้" อีกด้วย

อีกส่วนหนึ่งก็คือท่านใดที่อยากจะทราบว่า กระผม/อาตมภาพนั้น "ดวงอริเป็นมรณะ" เป็นอย่างไร ? ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะหาตะกรุดมหาสะท้อนได้ ก็ลองบูชาพระไพรีพินาศวัดท่าขนุนไปดูว่า บุคคลที่อริเป็นมรณะนั้น ใครตั้งตนเป็นศัตรูจะถึงแก่ความพินาศอย่างไร ?

เนื่องเพราะว่าชื่อของ "พระไพรีพินาศ" นั้น ก็เป็นนามพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ ๔ ซึ่งในสมัยที่อุปสมบทอยู่และลาสิกขาออกมาครองราชย์นั้น เมื่อได้พระไพรีพินาศมา ท่านก็บอกว่า "บรรดาศัตรูหมู่มารต่าง ๆ ถึงแก่พ่ายแพ้ย่อยยับไปตาม ๆ กัน"

ท่านทั้งหลายอย่าเพิ่งเชื่อ หากแต่ว่าลองบูชาดูก่อน ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือต้องมีการอาราธนาเอาไว้ทุกวัน ซึ่งก็คือการภาวนานั่นเอง ถ้าไม่รู้จะใช้คาถาอาราธนาอย่างไร จะใช้แบบโบราณว่า "พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง" ก็ได้ หรือจะใช้แบบที่หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคแนะนำก็คือ "อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้เถิด" ก็ได้

ขอเพียงแต่ท่านทั้งหลายนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพยึดมั่นจริง ๆ ขอท่านเป็นที่พึ่งที่ระลึกตลอดชีวิต ส่วนอานุภาพจะเป็นอย่างไร เราไม่ต้องไปคิดถึง ไม่ต้องไปคิดร้ายใคร ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ก็คือ "ใครทำอะไรก็ย่อมได้อย่างนั้น" ถ้าท่านทั้งหลายวางกำลังใจเป็นอุเบกขาแบบนี้ ไม่ว่าจะการภาวนาก็ดี การใช้วัตถุมงคลก็ตาม ท่านทั้งหลายก็สามารถที่จะเข้าถึงอานุภาพอย่างสูงสุด หรือว่าเข้าถึงกำลังใจอย่างสูงสุดได้ภายในเวลาอันไม่นาน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2024 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว