กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-06-2024, 17:17
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-06-2024, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทย คือเป็นวันสุนทรภู่ สุนทรภู่นั้นถือว่าเป็นสุดยอดกวีสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ท่านหนึ่ง โดยเฉพาะกลอน ๘ หรือว่า "กลอนตลาด" ของท่านนั้นเป็นที่เลื่องลืออย่างยิ่ง

ในพวกเราทั้งหลายรุ่นเก่า ๆ อย่างกระผม/อาตมภาพได้ร่ำเรียนมานั้น ก็มักจะมีการท่องอาขยานในวรรณคดีเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะ "พระอภัยมณี" ซึ่งต่างประเทศประทับใจมาก ถึงขนาดนำไปแปลเป็นภาษาของตนเพื่อสอนใจคน อย่างเช่นที่พระฤๅษีได้สอนสุดสาครว่า

"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์.........มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด........ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน"

แต่ว่าในวันนี้กระผม/อาตมภาพไม่ได้กล่าวถึงสุนทรภู่ หากแต่กล่าวถึงเรื่องร้อนในวงการลูกศิษย์สายวัดท่าขนุน ก็คือการที่เดียร์ (กิตติภูมิ เอี่ยมสุข) ลูกชายของพ่อโหน่งสามช่า ทำตะกรุดมหาสะท้อน รุ่น ๕ เนื้อทองคำหล่นในร้านบะหมี่ แล้วมีผู้เก็บเอาไปได้ ทำให้ต้องลงสื่อโซเชียลเพื่อขอให้ผู้เก็บได้นำเอาตะกรุดหาสะท้อนมาคืน โดยให้รางวัลถึง ๑๐,๐๐๐ บาท แต่โอกาสที่จะได้คืนนั้นกระผม/อาตมภาพคาดว่ายากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะไปลงว่ามีราคาประมาณ ๑๘๐,๐๐๐ บาท คนได้ยินก็คงจะไม่เอา ๑๘๐,๐๐๐๐ บาทมาแลกกับ ๑๐,๐๐๐ บาทค่อนข้างจะแน่..!

แต่ที่น่าเกลียดกว่านั้นก็คือ มีผู้ฉวยโอกาสในการประกาศจำหน่ายตะกรุดมหาสะท้อน โดยมีทั้งตะกรุดทองคำ ตะกรุดเงิน ตะกรุดเนื้อตะกั่ว และตะกรุดเนื้อทองแดงด้วย กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็แทบจะเป็นลม เนื่องเพราะว่า
ความจริงตะกรุดมหาสะท้อนนั้นไม่มีอยู่ในโลก..!

ครั้งแรกที่กระผม/อาตมภาพได้ยินในเรื่องของตะกรุดมหาสะท้อนนั้น เป็นกระดอนสะท้อนของหลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ ซึ่งหลวงปู่รุ่งนั้นจะให้ลูกศิษย์นำเอาไม้กระโดน ซึ่งใช้แทนคำพ้องว่ากระดอน และนำไม้กระท้อนหรือว่าไม้สะท้อน ทั้งสองอย่างมากลึงเป็นลูกสะกด หรือบางรายไม่มีเครื่องมือเครื่องไม้ในการกลึง ก็จะใช้มีดถากเกลาเอาแบบหยาบ ๆ แล้วนำไปให้หลวงปู่ท่านปลุกเสก มีอำนาจในการสะท้อนกลับ โดยที่มีวลีระบุผลการใช้งานว่า "คนทำมาสะท้อนตัวตาย สัตว์ทำมาสะท้อนสูญหาย ผีทำมาสะท้อนมลาย" เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2024 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-06-2024, 23:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วมาได้ยินอีกครั้งหนึ่งจากหลวงปู่ครูบาชุ่ม วัดวังมุย สหธรรมิกรูปสำคัญของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านกล่าวถึงตะกรุดกาสะท้อน คำนี้ต้องออกเสียงภาษาเหนือ "ก่าสะต้อน" คำว่า "ก่า" นี้ก็มีจากคำว่า "กั้งก่า" ที่แปลว่าปิดบัง ป้องกัน และ "สะต้อน" ก็คือสะท้อน ก็คือกระดอนกลับ ย้อนกลับ ซึ่งจะมีอานุภาพในลักษณะของการที่ผู้ใดกระทำมา ก็จะย้อนกลับไปหาเจ้าของเขาเช่นกัน

แล้วตะกรุดมหาสะท้อนของสายวัดท่าซุงมีที่มาอย่างไร ? ก็มาจากการที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเล่าถึงเรื่องที่ไปช่วยเหลือโยมคนหนึ่ง ซึ่งบ้านอยู่จังหวัดสมุทรสงคราม หลวงพ่อท่านไปบอกบุญให้ไปร่วมบุญในงานประจำปีวัดบางนมโค ส่วนใหญ่แล้วชาวสมุทรสงคราม - สมุทรสาครนั้น ก็มักจะนำเอาน้ำปลา หรือว่าปลาแห้งไปถวายในสมัยหลวงปู่ปานยังอยู่ยงดำรงขันธ์ ขนกันไปทีเป็นลำเรือ ๆ หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านจดจำได้ว่า บ้านไหนมีศรัทธาในวัดบางนมโค เมื่อสิ้นหลวงปู่ปานไปแล้ว ท่านก็ยังคงไปบอกบุญเวลามีงานประจำปีเป็นปกติ

แต่ปรากฏว่าครั้งนั้นไปถึง ลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งอยู่ช่วงวัยรุ่น รูปร่างหน้าตางดงาม โดนคนทำไสยศาสตร์มา หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเห็นดังนั้นก็ไม่สามารถที่จะปล่อยวางได้ จึงได้บอกกับท่านเจ้าของบ้านว่า
ท่านศึกษาวิชามาอย่างหนึ่ง เป็นการทำตะกรุด แต่จำกัดด้วยวัสดุ ก็คือต้องเป็นวัสดุมีราคา มีค่า เช่นทองคำ นาก หรือว่าเงิน และน้ำหนักอย่างต่ำสุด ๑ บาท

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าของบ้านได้ยินว่ามีวิธีแก้ไขจึงได้รีบไปหาแผ่นทองคำมาให้หลวงพ่อท่านจารตะกรุด แล้วก็เอาไปแขวนคอให้ลูกสาว พยายามบอกลูกสาวให้ตั้งสติ ภาวนาคาถาย้อนกลับ ก็คือ "เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา"

ปรากฏว่าได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าสิ่งที่เขาทำมานั้น ย้อนกลับไปหาชายหนุ่มผู้ตั้งใจกระทำไสยศาสตร์ครอบงำจิตใจของเด็กสาวผู้นี้ ทำให้ครอบครัวของเขาต้องเดือดร้อน เพราะว่าอยู่ ๆ ลูกชายก็มีอันเป็นไป จึงต้องนำลูกมากราบขอขมาให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ขอให้ท่านช่วยถอนของให้

พวกกระผม/อาตมภาพในสมัยนั้นได้ยินก็เกิดอาการ "หูผึ่ง" ขึ้นมา คืออยากได้ แต่ด้วยความที่ว่าตอนช่วงนั้น เรื่องของการงานการเงินก็ไม่ได้คล่องตัวมากนัก จึงได้แต่รอระยะเวลาที่เหมาะสม รุ่นพี่ ๆ อย่างท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ท่านจึงได้ไปก่อน ซึ่งยังคงติดองค์ท่านมาอยู่จนทุกวันนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2024 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-06-2024, 23:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถึงวาระสำคัญ กระผม/อาตมภาพไปช่วยดูแลพระเดชพระคุณหลวงปู่มหาอำพัน - พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ที่กุฏิ ต.๓ คณะเหนือ ปรากฏว่าตอนที่ไปรื้อบรรดาตู้โต๊ะต่าง ๆ เพื่อเก็บกวาดทำความสะอาดนั้นก็ไปเจอที่ใต้ตู้
ปรากฏว่ามีแผ่นทองคำน้ำหนัก ๓ บาทหรือ ๔ บาทโดยประมาณ แล้วก็มีลายมือเขียนไว้ว่าบาทละ ๔๐๐..!

ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีผู้ใดถวายหลวงปู่ท่านมาตั้งแต่ยุคนั้น ท่านเองเนื่องจากเป็นพระธรรมยุต ไม่สามารถที่จะจับต้องเงินทองได้ เมื่อไวยาวัจกรใส่ตู้เอาไว้ก็ทิ้งอยู่นั่นมา ไม่ทราบเหมือนกันว่านานกี่สิบปี เนื่องเพราะว่าตอนที่กระผม/อาตมภาพไปเจอเข้านั้น ทองคำบาทละ ๔,๒๐๐ บาทเข้าไปแล้ว..!

เมื่อเห็นดังนั้น กระผม/อาตมภาพจึงนำไปกราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงปู่มหาอำพันว่า "ทองคำแบบนี้แหละครับ ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำตะกรุดมหาสะท้อน"
ซึ่งคำว่า "มหาสะท้อน" นี้ กระผม/อาตมภาพเป็นผู้คิดขึ้นมาเอง เพื่อความเข้าใจทันทีของผู้รับฟัง พูดง่าย ๆ ว่าเป็นต้นบัญญัติคำว่ามหาสะท้อนเอง เพราะว่าสมัยนั้น ทางวัดท่าซุงเรียกว่าตะกรุดเม ฯ เพราะว่าเป็นตะกรุดที่ใช้ควบกับพระคาถาย้อนกลับ คือเมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พระเดชพระคุณหลวงปู่มหาอำพันจึงให้ตัดแบ่งออกเป็น ๔ ชิ้น จึงคาดว่าน่าจะเป็นทองคำน้ำหนัก ๔ บาท แล้วก็ให้กระผม/อาตมภาพนำใส่พานไปกราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ว่าต้องการตะกรุดมหาสะท้อน เมื่อกระผม/อาตมภาพนำไปกราบเรียน พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็เมตตาจารตะกรุดให้
บอกวิธีวางกำลังใจในการจารตะกรุด บอกวิธีในการจารยันต์องค์พระ แล้วสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสอนกระผม/อาตมภาพจารมา ก็ไม่เหมือนกับของคนอื่น

ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าพระระดับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงนั้น ท่านคิดอะไรก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ดังนั้น..ตะกรุดมหาสะท้อนที่ท่านจารให้เจ้าคุณหลวงตาวัชรชัยนั้น เป็นรูปยันต์องค์พระพร้อมอุณาโลม แต่ที่ท่านจารให้กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นยันต์สี่ ก็คือยันต์ที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีกากบาทไขว้กลาง ซึ่งต้องบังคับว่าเส้นไหนไขว้ขึ้น เส้นไหนไขว้ลง ต้องจารเส้นไหนก่อน แล้วก็มีองค์พระอยู่ในพื้นที่ว่างที่เหลือจากกากบาทแล้ว ๔ องค์ ปิดท้ายด้วยองค์พระองค์สุดท้ายองค์ที่ ๕ ตรงกลาง

เมื่อกระผม/อาตมภาพนำไปเผยแพร่นั้นก็มีการถกเถียงกันกันดุเดือดมาก เนื่องเพราะว่าจากที่เขาเคยเห็นกัน ก็คือจารยันต์องค์พระองค์เดียว แบบที่ท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัยได้ไป หรือว่าจารยันต์องค์พระแค่ ๔ องค์ ตามช่องว่างระหว่างเส้นกากบาทเท่านั้น แต่กระผม/อาตมภาพกลับได้ยันต์องค์พระมา ๕ องค์ และโดนพระครูสมุห์ธรรพ์ณธร ธมฺมทินโน อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนในยุคนั้นทักท้วง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2024 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-06-2024, 23:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงต้องนำภาพที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อจารยันต์เอาไว้ให้ด้วยลายมือของท่านเองมาให้ดู ท่านถึงได้ยอมรับว่าตะกรุดมหาสะท้อนที่กระผม/อาตมภาพเรียนมานั้นมีพระพุทธรูปอยู่ ๕ องค์จริง ๆ ซึ่งก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของกระผม/อาตมภาพมากเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่ายึดพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เป็นหลักมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

เมื่อศึกษาเรียนรู้แล้วก็ต้องทดลองทำดูว่าจะเกิดผลหรือไม่ ? กระผม/อาตมภาพทำตะกรุดมหาสะท้อน ครั้งแรกในปี ๒๕๓๒ เป็นจำนวน ๖๐ ดอกด้วยกัน เนื่องเพราะว่าตอนช่วงนั้นไปจ้างเขารีดแผ่นเงิน ก็ตกบาทละ ๒๕๐ บาท คือเขาคิดทั้งค่าเม็ดเงินและทั้งค่าแรงงานด้วย กระผม/อาตมภาพหาเงินได้แค่นั้น จึงไม่มีปัญญาที่จะทำมากมายไปกว่านั้น

เมื่อจารมา ๖๐ ดอกแล้ว อยากจะเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวให้ญาติโยมทราบว่า ถ้าเราวางกำลังใจและภาวนาคาถานี้ได้ถูกต้อง ตะกรุดนี้เมื่อจารเสร็จ ม้วนแล้วสามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องปลุกเสกซ้ำ แต่กระผม/อาตมภาพด้วยความที่ตอนนั้นเป็น "มือใหม่หัดขับ" จึงนำไปเข้าพิธีพร ๓๐ ประการ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านปลุกเสกวัตถุมงคลที่พระมหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรอีกรอบหนึ่ง แล้วค่อยแจกจ่ายให้กับบุคคลต่าง ๆ นำไปทดลองใช้งาน

ปรากฏว่าหายเงียบไปเกือบทั้งหมด มีหลวงพ่อสมคิด (พระครูบวรกาญจนธรรม) ซึ่งตอนนั้นก็คือพระอธิการสมคิด อคฺควโรเท่านั้น ที่มารายงานผลว่าไล่ผีเด็ดขาดมาก ก็คือทำน้ำมนต์ไล่ผีแล้วพรมครั้งเดียว ผู้ที่โดนผีเข้าร้องกรี๊ด..หงายผลึ่ง..ผีออกเรียบร้อย..! แต่ตอนที่ญาติโยมเห็นแล้วศรัทธาแย่งน้ำมนต์กัน ไม่ทราบว่าโดนใคร "จิ๊ก" เอาตะกรุดมหาสะท้อนไปด้วย..!

เมื่อเห็นว่ามีผลจริงดังนั้น เมื่อครั้งที่ออกจากวัดท่าซุงมาอยู่ที่วัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) ปี ๒๕๔๗ กระผม/อาตมภาพต้องการปัจจัยเพื่อนำมาบูรณปฏิสังขรณ์วัดท่ามะขามยุคนั้น จึงได้ทำตะกรุดมหาสะท้อนขึ้นมา ๕๐๐ ดอก เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นรุ่นที่ ๒ และเป็น ๕๐๐ ดอกที่ไม่สามารถจะม้วนให้เรียบร้อยได้ เพราะว่าสั่งรีดแผ่นเงินไปขนาด ๒ X ๕ นิ้ว แต่ว่าทางด้านร้านที่ทำนั้น ทำมาให้แค่ขนาด ๒ X ๓ นิ้วเท่านั้น จึงหนามาก จนไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งสามารถม้วนเป็นดอกตะกรุดได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2024 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 26-06-2024, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้แต่ขอให้พระครูน้อย (พระครูสังฆรักษ์วิฑูรย์ จนฺทวํโส) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ปัจจุบันคือเจ้าอาวาสวัดหนองบัว เมืองจะอีน ประเทศพม่า ซึ่งต้องถือว่าเป็นกรรมกร ใช้แรงงานมาหนักทั้งชีวิตก่อนที่จะบวช ปรากฏว่าพระครูน้อยสามารถที่จะม้วนให้บุบไปได้นิดเดียวเท่านั้น กระผม/อาตมภาพจึงต้องจารเองม้วนเอง ทำให้เป็นดอกที่ค่อนข้างจะอ้วน เพราะว่าไม่สามารถที่จะม้วนรีดให้เรียบลงไปได้ แล้วก็หมดไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว

เมื่อมาเป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดท่าขนุนอย่างขนานใหญ่ ทำให้ต้องหาปัจจัยในการบูรณปฏิสังขรณ์ ปี ๒๕๔๘ จึงได้สร้างตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๓ ขึ้นมา ด้วยความไว้วางใจญาติโยมที่อาสาทำว่า เป็นเจ้าของโรงงานเอง แต่เมื่อสั่งทำไป ๑,๐๐๐ ดอก ปรากฏว่าออกมาหน้าตาดูไม่ได้ เป็นดอกตะกรุดที่ยาวประมาณ ๔ นิ้ว มีห่วงในตัว หน้าตายับเยินชนิดที่ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเอง ก็ขว้างใส่หัวคนทำไปแล้ว..!

แต่นี่เขามาถึงในลักษณะ "ผีถึงป่าช้า" คือจะปลุกเสกวัตถุมงคลตอน ๗ โมงครึ่ง เขามาถึงตอน ๖ โมงครึ่งโดยประมาณ มัดจำก็จ่ายไปเกินครึ่ง จึงต้องรับขึ้นมา ทำให้มีตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นเดียวที่มีห่วงในตัว ใครก็ตามถ้าหากว่าจะใช้ตะกรุดรุ่นนี้ กรุณาติดห่วงเอาไว้ด้วย เพราะว่าน้ำหนัก ๑ บาทนั้นรวมห่วงด้วย ขอให้ทราบว่าตะกรุดรุ่น ๓ นี้ ถ้าหากว่าสวยงามแปลว่าของปลอม ต้องหน้าตาเฮงซวยห่วยแตกถึงจะเป็นของแท้..!

ครั้นต่อมาเมื่อปี ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ กระผม/อาตมภาพเป็นประธานในการจัดทอดกฐินให้กับสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี จึงได้ทำตะกรุดมหาสะท้อนทั้งเนื้อทองคำและเนื้อเงินขึ้นมาอีกรุ่น เพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพกองกฐิน ทั้ง ๓ ปีรวมกันแล้วได้ตะกรุดเนื้อทองคำ ๕๑ ดอก ตะกรุดเนื้อเงินรวม ๕๐๐ ดอก ก็เป็นอันว่าหมดเกลี้ยงเช่นกัน ถือว่าตะกรุดที่ทำใน ๓ ปีนี้เป็นรุ่นที่ ๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2024 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 26-06-2024, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นมาถึงปี ๒๕๕๗ กระผม/อาตมภาพสร้างมีดหมอฝังตะกรุดเป็นรุ่นแรกและรุ่นสุดท้าย คือมีดหมอเพชรวุธ นอกจากจะฝังตะกรุดทองคำ นาก เงิน เพื่อที่จะทำลายอาถรรพ์แล้ว ที่ด้ามมีดยังมีการฝังตะกรุดมหาสะท้อนเอาไว้ด้วย ซึ่งในจำนวนมีดที่ทำทั้งหมดนั้นมีจำนวน ๑๒๐ เล่ม แต่ว่ามีพิเศษที่ฝังตะกรุดทองคำอยู่แค่ ๙ เล่มเท่านั้น มี ๑๑๑ เล่มฝังตะกรุดเนื้อเงิน

เรียกได้ว่าตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษ เหตุที่เรียกว่าตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษ ไม่เรียกว่ารุ่นที่ ๕ ก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพจารโค้ดพิเศษไปต่างหาก เพื่อแยกให้ออกเผื่อว่ามีใครแคะตะกรุดออกจากด้ามมีดมาใช้งาน ถ้าแกะออกมาดูจะได้เห็นว่าเป็นรุ่นไหน

แล้วมาปี ๒๕๕๘ กระผม/อาตมภาพสั่งให้ปั๊มตะกรุดมหาสะท้อนเนื้อทองคำจำนวน ๓๒๓ ดอก เนื้อเงิน ๑,๕๐๐ ดอก นำไปเข้าพิธีที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ถือว่าเป็นตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นที่ ๕ ซึ่งที่ทิดเดียร์ หรือว่านายกิตติภูมิได้ไปนั้น เป็น ๑ ใน ๓๒๓ ดอก
หลังจากนั้นแล้วการทำตะกรุดมหาสะท้อน กระผม/อาตมภาพก็โดนสั่งระงับ เพราะว่ามีผู้เอาไปใช้ในทางที่ผิด..!

อันดับแรกเลยก็คือมีบุคคลจำนวนหนึ่ง ซึ่งไปหลงเชื่อผู้ที่เล่นไสยศาสตร์ นำเอาวันเดือนปีเกิดของตนเองไปให้ท่านเสริมดวง มารู้ทีหลังว่าเขาเล่นไสยศาสตร์อย่างเต็มระดับ ด้วยความที่กลัวว่าตนเองจะ "โดน" ก็เลยนัดหมายเพื่อนฝูงรวม ๕ คน ต่างคนต่างพกตะกรุดมหาสะท้อน แล้วภาวนาคาถาสะท้อนกลับ ผลปรากฏว่าหมอไสยศาสตร์ท่านนั้น ตายคาผ้าเหลืองไปเลย..!

แล้วพอมาอีกระยะหนึ่ง ก็มีในลักษณะของบุคคลในผ้าเหลืองที่มุ่งร้ายต่อผู้อื่น แต่บุคคลที่ถูกมุ่งร้ายนั้นพอดีมีความสัมพันธ์กับกระผม/อาตมภาพอยู่บ้าง ลูกศิษย์ของท่านจึงนำเอาตะกรุดมหาสะท้อนไปให้ แล้วปรากฏว่าท่านภาวนาอย่างไรก็ไม่ทราบ ผู้ที่มุ่งร้ายนั้นก็เสียชีวิตทั้งผ้าเหลือง เป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2024 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 26-06-2024, 23:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเองจึงคิดว่า ถ้าหากว่าลูกศิษย์เอาไปใช้ผิดแบบนี้ ตัวกระผม/อาตมภาพจะมีโทษด้วยหรือไม่ ? เมื่อไปกราบเรียนถามครูบาอาจารย์ ตลอดจนพระท่าน ท่านบอกแล้วว่า เราไม่ได้ตั้งใจให้เขาเอาไปฆ่าคนอื่น ไม่ถือว่าเป็นโทษ

แต่เนื่องจากว่าลูกศิษย์มีแล้วเอาไปใช้ในทางที่ผิด เพราะฉะนั้น..ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปให้เลิกทำตะกรุดมหาสะท้อน หลังจากนั้นไม่นานมา เมื่อตอนที่เข้ากรรมฐาน ๓ วันอยู่ระยะหนึ่ง ท่านก็เห็นว่ามีผู้ต้องการตะกรุดมหาสะท้อนกันมาก จึงอนุญาตให้ว่าวัตถุมงคลที่เป็นเนื้อเงินและน้ำหนักถึง ๑ บาทในพิธีนั้นให้มีอานุภาพเป็นมหาสะท้อนด้วย

เมื่อกระผม/อาตมภาพเองพอเห็นว่า ระยะนี้มีตะกรุดมหาสะท้อนออกมามากมาย น้ำหนักไม่ถึงบ้าง วัสดุไม่ใช่ของมีค่าตามที่ศึกษามาจากครูบาอาจารย์ คือไม่ใช่ทองคำ ไม่ใช่นาก ไม่ใช่เงินบ้าง แล้วนำไปขายกันครึกครื้น โดยที่เอารูปจากเว็บไซต์วัดท่าขนุน ซึ่งกระผม/อาตมภาพลงรูปตะกรุดมหาสะท้อนไว้ไปอ้างอิง จึงต้องเดือดร้อนมาบอกกล่าวให้ทุกท่านได้ทราบว่า
ถ้าตามสายพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงอย่างแท้จริงนั้น ไม่มีตะกรุดมหาสะท้อน มีแต่ตะกรุดเมฯ กับพระคาถาย้อนกลับ

แต่กระผม/อาตมภาพเมื่อได้ยินเรื่องของวิชากระดอนสะท้อน ของหลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ และวิชาตะกรุดกาสะต้อน ของหลวงปู่ครูบาชุ่ม วัดวังมุย จึงบัญญัติศัพท์ให้เรียกง่าย ๆ ด้วยตนเองว่า
"ตะกรุดมหาสะท้อน" และเป็นวัตถุมงคลที่กระผม/อาตมภาพทำมากรุ่นที่สุด ถ้าหากว่าไม่โดนระงับเสียก่อนก็น่าจะมีรุ่นที่ ๖ ที่ ๗ ที่ ๘ ออกมาอีก แต่ว่าโดนระงับไม่ให้สร้างไปแล้ว

เมื่อเห็นว่ามีบุคคลเอาชื่อของกระผม/อาตมภาพไปหากินในลักษณะหลอกลวง ถ้าได้ของปลอมไป หรือว่าของที่น้ำหนักไม่ถึงไป ไม่มีอานุภาพในการสะท้อนกลับ แล้วท่านไปมั่นใจตนเอง ไปท้าทายให้หมอไสยศาสตร์ทำเข้า อาจจะเดือดร้อนมากกว่าที่คิด จึงต้องมาชี้แจงกันในวันนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2024 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว