กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-04-2024, 21:15
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,557 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-04-2024, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,642 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ญาติโยมทั้งหลายอาจจะได้ฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนช้าไปหน่อย เหตุเพราะว่ากระผม/อาตมภาพติดอยู่ในงานประจำปีและฉลองพระอุโบสถเก่าที่บูรณะใหม่ ของวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) โดยเฉพาะอยู่ในส่วนของการร่วมอธิษฐานจิต ปลุกเสกวัตถุมงคลในงาน

ด้วยความที่วัดใต้ หรือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) นั้น สถานที่ค่อนข้างจะคับแคบมาก แล้วเสียงเครื่องเสียงต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งดนตรีก็เสียงดังอยู่รอบไปหมด ทำให้หาที่แอบบันทึกเสียงไม่ได้ จึงต้องรอจนกระทั่งปลุกเสกวัตถุมงคลเสร็จเรียบร้อย เดินทางเข้าถึงที่พักแล้ว จึงได้มาบันทึกเสียงอยู่ในขณะนี้

ในเรื่องของงานวัดต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีบรรดางานรื่นเริงต่าง ๆ ภาพยนตร์ ตลอดจนกระทั่งมหรสพอื่น ๆ อย่างเช่นลิเก ดนตรี ลำตัด หรือถ้าเป็นทางเหนือก็มีพวกฟ้อนเล็บ ลอยโคม เหล่านี้เป็นต้น ในเมื่อสารพัดงานสารพัดเสียงประเดประดังกันอยู่ งานนี้จึงเป็นเครื่องวัดอย่างชัดเจนว่า พระเกจิอาจารย์รูปใดที่สมาธิดี ก็สามารถที่จะเข้าสมาธิ ตัดเสียงรบกวนภายนอกไปได้เลย ถ้าหากว่าใครสมาธิไม่ดี ก็จะโดนเสียงภายนอกรบกวนอยู่ค่อนข้างจะมาก

สำหรับพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์ให้อธิษฐานจิตในวันนี้ประกอบด้วย

๑) หลวงพ่อเจ้าคุณประสงค์ - พระเดชพระคุณพระเทพเมธาภรณ์ (ประสงค์ วราสโย ป.ธ.๘) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีฝ่ายธรรมยุต

๒) หลวงปู๋แอ๋ม - พระครูนิโครธโยคาภิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดน้ำตก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔

๓) พระครูสุภัทรกาญจนกิจ - หลวงพ่อสนองชาติ เจ้าอาวาสวัดเย็นสนิทธรรมาราม ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลลาดหญ้า

แล้วก็กระผม/อาตมภาพ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒)

ต้องบอกว่าอายุ ๖๕ ย่าง ๖๖ ปี อย่างกระผม/อาตมภาพนั้น ถือว่าเด็กที่สุดในจำนวนพระเกจิอาจารย์ทั้ง ๔ รูป แต่ว่าพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ก็โทรไปย้ำนักย้ำหนาว่า "ต้องมาให้ได้" จึงทำให้ต้องวางมือจากสามเณรภาคฤดูร้อน ให้บรรดาพระพี่เลี้ยงทำการดูแลอบรม แล้วก็วิ่งมาเพื่อที่จะร่วมงานในครั้งนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2024 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-04-2024, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,642 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของงานวัดที่มีแต่เสียงวุ่นวายดังสนั่นหวั่นไหวไปหมดนั้น ตอนประมาณพรรษาที่ ๓ กระผม/อาตมภาพติดตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ไปยังวัดโพธิ์เมืองปัก ของหลวงพี่พระมหาถวัลย์ ฐิติโก ที่จังหวัดนครราชสีมา วัดโพธิ์เมืองปักนั้นอเนจอนาถยิ่งกว่าวัดใต้อีก เพราะว่ามีที่อยู่แค่นิดเดียวเท่านั้น สิ่งก่อสร้างเต็มแน่นไปหมด แล้วลำโพงก็หันไปทุกทิศ เสียงดังจนไม่มีที่ให้ไป สมัยนั้นก็ไม่มีปลั๊กอุดหูให้เสียด้วย..!

กระผม/อาตมภาพจึงต้องเดินหาที่เงียบ ๆ เพื่อที่จะได้จำวัด ไม่เช่นนั้นก็เป็นอันว่าจะต้องดูหนังฟังเพลงไปทั้งคืน เพราะว่าถึงไม่อยากดูไม่อยากฟัง ก็จะโดนกรอกหูกรอกเข้าตามาเอง เมื่อเดินไปถึงป่าช้า ปรากฏว่าเขามี "คอนโดผี" อยู่ คำว่า "คอนโดผี" นี่ กระผม/อาตมภาพเรียกเอง ก็คือซองซีเมนต์ที่เขาเอาไว้บรรจุโลงที่ทางเจ้าภาพฝากเอาไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเผาหรือว่าจะฝัง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพเห็น "คอนโดผี" ที่เขาทำเป็นซองซีเมนต์ พอที่จะสอดโลงเข้าไปจนสุดได้ แล้วก็สร้างซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อยู่ประมาณ ๔ ชั้น ก็ไปเที่ยวเดินส่องหาว่าห้องไหนที่ว่างบ้าง เมื่อเจอก็ตะกายปีนขึ้นไป เอาหัวซุกเข้าไปด้านใน เอาเท้ายื่นมาด้านนอก ช่วยให้ลดเสียงดังสนั่นภายในวัดลงไปได้ สามารถที่จะจำวัดได้อย่างสบาย

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายกลัวผี ก็คงไม่สามารถที่จะหลับลงเหมือนกระผม/อาตมภาพเป็นแน่ แต่เนื่องจากว่ากระผม/อาตมภาพนั้น โดนผีหลอกมาตั้งแต่เด็ก เคยชินเสียแล้ว จึงไม่คิดว่าจะมีการโดนผีหลอกที่ไหนน่ากลัวไปกว่านั้นอีก เพราะมารู้ทีหลังว่าบรรดาผีที่หลอกกระผม/อาตมภาพนั้น เป็นเทวดาที่ท่านท้าวมหาราชส่งมาให้รักษากระผม/อาตมภาพเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2024 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-04-2024, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,642 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้กระผม/อาตมภาพอยากจะกล่าวถึงเรื่องของตลกรายหนึ่ง ซึ่งโดนติดป้ายทวงหนี้กลางห้าง แล้วก็บอกว่าจะไปบวช เพื่อที่จะอยู่ในลักษณะของการเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า ถ้าในลักษณะอย่างนั้น ไม่สามารถที่จะบวชได้ เนื่องเพราะว่าไม่ผ่านอันตรายิกธรรม ของบุคคลผู้ที่มีสิทธิ์จะบวชได้

เนื่องเพราะว่าพระคู่สวดท่านจะต้องถามว่า

กุฏฐัง เป็นโรคเรื้อนหรือเปล่า ?

คัณโฑ เป็นฝีหนองน่ารังเกียจหรือเปล่า ?

กิลาโส เป็นกลากเกลื้อนที่ติดต่อได้ง่ายหรือเปล่า ?

โสโส เป็นโรคหอบหืดหรือวัณโรคหรือเปล่า ?

อะปะมาโร เป็นโรคลมชักหรือไม่ ?
เหล่านี้เป็นต้น

ตรงนี้ยังเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้น แต่ว่าในส่วนที่สำคัญก็คือ

มนุสโสสิ เป็นมนุษย์ใช่ไหม ?

ปุริโสสิ เป็นบุรุษใช่ไหม ?

ภุชชิสโสสิ ไม่เป็นทาสใช่ไหม ? คือไม่ใช่ทาสใช่ไหม ?

อะณะโนสิ ไม่เป็นหนี้ใช่ไหม ?

นะสิราชะภะโฏ ไม่ใช่ข้าราชการหนีมาบวชใช่ไหม ?

อนุญญาโตสิ มาตาปิตูหิ พ่อแม่อนุญาตแล้วใช่ไหม ?

ปริปุณณะวีสะติวัสโสสิ อายุครบ ๒๐ ปีถ้วนแล้วใช่ไหม ?

ปริปุณันเตปัตตะจีวะรัง มีบาตรจีวรครบถ้วนแล้วใช่ไหม ?
เหล่านี้เป็นต้น

ดังนั้น..บุคคลที่เป็นหนี้จึงไม่สามารถที่จะบวชได้ ถ้าหากว่ายังเป็นหนี้อยู่แล้วจะบวชได้ มีวิธีเดียวก็คือ หาบุคคลอื่นมารับสภาพหนี้นั้นแทน ถ้าหากว่าเจ้าหนี้มาทวง จะได้ไปทวงกับบุคคลผู้รับสภาพหนี้นั้น ไม่ใช่มาทวงกับเรา เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2024 เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-04-2024, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,642 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องไผ่แดง ซึ่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชได้เขียนเอาไว้นั้น ในงานบวชปรากฏว่ามีผู้ร้องคัดค้านขึ้นมาว่า "บุคคลที่เข้าบวชนั้นไม่บริสุทธิ์ ไม่สามารถที่จะบวชได้" สรุปว่าเป็นหนี้ร้านค้าอยู่ แล้วบรรดาผู้ร่วมงานก็พากันด่าเจ้าของร้านค้าอย่างสาดเสียเทเสีย ในลักษณะว่าเป็นมารมาขัดขวางงานบวช แล้วสอบถามว่าหนี้สินเท่าไร ? จากนั้นก็ช่วยกันเรี่ยไรกันใช้หนี้ร้านค้าไป

เมื่อทางเจ้าของร้านรับมาเรียบร้อยแล้ว ก็ใส่ซองอนุโมทนา ขอร่วมเป็นเจ้าภาพบวชด้วย บอกว่าอยากให้นาคบวชโดยบริสุทธิ์จริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ หักมุมชนิดเอวเคล็ด ทำให้บุคคลมีอารมณ์ร่วม แทบจะด่าเจ้าของร้านจมดินไปแล้ว..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ในเรื่องของการบวชพระจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างชนิดที่ว่าอยากจะบวชเมื่อไรก็บวช กระผม/อาตมภาพก็รอดูอยู่ว่า พระอุปัชฌาย์อาจารย์จะแนะนำให้ว่ามีผู้รับสภาพหนี้นั้นแทนหรือเปล่า ? เกรงอยู่อย่างเดียวว่า ถ้ามีผู้รับสภาพหนี้แทน ฝ่ายที่ไปบวชอาจจะสึกหาลาเพศออกมาแล้ว ไม่รับรู้ในหนี้สินส่วนนั้น โดยอ้างว่าบุคคลนั้นรับสภาพหนี้แทนไปตั้งแต่ก่อนบวชแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เป็นเรื่องเป็นราว เป็นข่าวกันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ พระพุทธศาสนาของเรานั้น อันดับแรกเลยก็คือ ไม่ต้องการให้บุคคลที่เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคติดต่อน่ารังเกียจ เข้ามาบวชกันเป็นจำนวนมาก เพราะว่าจะทำให้คนที่เห็นนั้นเกลียดและกลัว ตลอดจนกระทั่งไม่กล้าเข้าใกล้ อาจจะมองว่าพระพุทธศาสนาเป็นแหล่งรวมคนป่วย หรือแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดชั้นดี

ไม่ต้องการให้บุคคลที่หนีหนี้มาบวช ไม่ต้องการให้ข้าราชการหนีมาบวช เหล่านี้เป็นต้น แม้กระทั่งบุคคลกึ่งราชการ อย่างเช่นผู้ที่ทำงานในการไฟฟ้า การประปา ไปรษณีย์ การรถไฟ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งเรียกกันว่ารัฐวิสาหกิจ เป็นส่วนของกึ่งราชการ ก็ยังต้องให้บรรดาผู้บังคับบัญชาทำหนังสือยินยอมให้บวชเสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วพระอุปัชฌาย์อาจารย์อาจจะโดนฟ้องร้อง
โดยเฉพาะพระอุปัชฌาย์อาจจะมีโทษถึงขนาดโดนถอดถอนจากความเป็นพระอุปัชฌาย์ไปเลยก็ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2024 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 05-04-2024, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,642 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ผู้ที่เป็นพระอุปัชฌาย์จึงควรที่จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง ยกเว้นบางพวกที่เก็บอาการไว้ได้ ก่อนที่จะผ่านการอบรม เมื่อผ่านการอบรมไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นระยะเวลาในการ "เมคมันนี่" ก็คือทำเงินจากการบวช ถ้าพระอุปัชฌาย์ประเภทนี้ก็จะบวชทิ้งบวชขว้าง ไม่ได้สนใจว่าลูกศิษย์ของตนเองจะมีสภาพเช่นไร หรือว่าเป็นบุคคลที่มีข้อห้ามอย่างไรมาบ้าง พูดง่าย ๆ ว่า "ใครมีเงินใส่ซองถวายก็บวชให้ทั้งสิ้น..!"

สิ่งนี้แหละที่ทำให้พระพุทธศาสนาของเราส่วนหนึ่งต้องเศร้าหมองลงไป เนื่องเพราะว่าผู้เป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์นั้น ต้องเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ที่มาบวช จะต้องอบรมสั่งสอนให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นละอายชั่วกลัวบาป รักศีลของตน มีสมณสารูปที่น่าเลื่อมใส ช่วยกันยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป ไม่ใช่มาอาศัยพระพุทธศาสนาหากิน

ดังนั้น..เรื่องนี้ท่านทั้งหลายสามารถที่จะติดตามจากข่าวคราวต่าง ๆ ว่าบุคคลผู้นั้นสามารถที่จะบวชได้หรือไม่ ? แล้วผู้ใดกันที่จะยอมเป็นเป้ากระสุนตก ทำตัวเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราก็จะสามารถที่จะเห็นได้ในระยะเวลาอันสั้น หรือไม่ก็บุคคลผู้นั้นก็แค่เพียงโพสต์ลงโซเชียล ในลักษณะเรียกร้องขอความเห็นใจเท่านั้น ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็อาจะจะเจอ "ทัวร์ลง" ชนิดที่รุมถล่มยับเยินไปอีกรอบหนึ่งเป็นแน่

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2024 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว