กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

กระทู้ถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-09-2016, 11:10
เก้าช่อง's Avatar
เก้าช่อง เก้าช่อง is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Nov 2012
สถานที่: กรุงเทพมหานคร
ข้อความ: 1
ได้ให้อนุโมทนา: 316
ได้รับอนุโมทนา 1,942 ครั้ง ใน 62 โพสต์
เก้าช่อง is on a distinguished road
Default สภาวะอาการขณะการปฏิบัติ

เมื่อเช้าตรู่ของวันหนึ่งผมตื่นขึ้นมาปฏิบัติ สวดมนต์ ไหว้พระ แล้วนั่งสมาธิเป็นเวลา ๓๐ นาที จึงลุกขึ้นออกจากสมาธิเพราะมีอาการเหน็บชา และมีอาการปวดท้องเข้าห้องน้ำ ขณะที่เข้าห้องน้ำก็ทำจิตภาวนา น้อมนำคำสอนของท่านธัมมวิตักโก แห่งวัดเทพศิรินทราวาส ที่ว่า "ร่างกายเป็นรังของโรค" ก้มมองดูสิ่งปฏิกูลที่ขับถ่ายออกมา จิตยังมีความตั้งมั่นอยู่ในสมาธิพอสมควร แต่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจกองปฏิกูลแต่อย่างใด เห็นร่างกายไม่ใช่เรา เห็นแขนแต่ไม่ใช่เรา เห็นขาแต่ไม่ใช่เรา เห็นสิ่งปฏิกูล ( อุจจาระ, ปัสสวะ ) ไม่ใช่ของเรา มีความรู้สึกตัวอยู่

เมื่อเสร็จกิจในห้องน้ำ จึงออกมาเดินจงกรมต่อ เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง เห็นความเจ็บเกิดขึ้นที่นิ้วโป้งเท้า ความเจ็บนี้เป็นเพียงกอง เป็นส่วนของมัน จิตใจไม่เป็นทุกข์ กระสับกระส่ายกับความเจ็บนี้เลย เห็นมันตั้งอยู่ รู้อยู่ที่ความเจ็บอยู่สักระยะ แล้วผมก็กล่าวเป็นภาษาบาลีโดยทันที อย่างมิได้เจตนาว่า

"สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา สัพเพ สังขารา อนัตตา"

เมื่อพูดจบก็เกิดความปีติขึ้นมา เมื่อความปีติปรากฏ ขึ้นมา ประมาณ ๓ ถึง ๕ วินาที ก็เห็นว่าปีตินั้นเอ่อล้นขึ้นมา จิตรู้เท่าทันอาการ จึงวางความปีติ จิตกลับมีสภาวะสงบตั้งมั่น ไม่ยินดีในความปีติอีกเลย มีความสงบตั้งมั่น มีความเข้าใจในขณะนั้นว่า สิ่งนี้คืออุเบกขารมณ์ จึงก้มกราบพระพุทธเจ้าในเช้าวันนั้นไปหลายครั้ง ซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับมีน้ำตาซึมออกมา จิตใจผมก็นึกสรรเสริญพระพุทธเจ้า อย่างสุดหัวใจ "พระองค์มีพระปรีชาอย่างมาก" จากนั้นก็อาบน้ำ แต่งตัวไปทำงานตามปกติ ด้วยจิตใจที่นิ่มนวลตั้งมั่นทั้งวันเลยครับ จากการปฏิบัติครั้งนี้

มีคำถามเกี่ยวกับการบัญญัติถึงสภาวะที่ผมเจอดังต่อไปนี้
๑. การเปล่งวาจาออกเป็นภาษาบาลีออกมานั้นโดยมิได้ตั้งใจ เรียกอาการประเภทนี้ว่าอะไรครับ ?
๒. การปฏิบัติในครั้งนี้ เข้าถึงฌาณหรือไม่ ? และไปถึงฌาณ ๒ ไหมครับ ?
๓. การปฏิบัติผ่านการวิปัสสนาบ้างไหมครับ ?

กราบเท้าหลวงพ่อเล็ก ด้วยความเคารพครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เก้าช่อง : 07-09-2016 เมื่อ 09:10
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เก้าช่อง ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-12-2017, 13:04
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,959
ได้ให้อนุโมทนา: 225,557
ได้รับอนุโมทนา 804,539 ครั้ง ใน 39,576 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อเช้าตรู่ของวันหนึ่งผมตื่นขึ้นมาปฏิบัตินั่งสมาธิเป็นเวลา ๓๐ นาที จึงลุกขึ้นออกจากสมาธิเพราะมีอาการเหน็บชา และมีอาการปวดท้องเข้าห้องน้ำ ขณะที่เข้าห้องน้ำก็ทำจิตภาวนา น้อมนำคำสอนของท่านธมฺมวิตกฺโก แห่งวัดเทพศิรินทราวาส ที่ว่า "ร่างกายเป็นรังของโรค" ก้มมองดูสิ่งปฏิกูลที่ขับถ่ายออกมา จิตยังมีความตั้งมั่นอยู่ในสมาธิพอสมควร แต่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจกองปฏิกูลแต่อย่างใด เห็นร่างกายไม่ใช่เรา เห็นแขนแต่ไม่ใช่เรา เห็นขาแต่ไม่ใช่เรา เห็นสิ่งปฏิกูล (อุจจาระ, ปัสสวะ) ไม่ใช่ของเรา มีความรู้สึกตัวอยู่

เมื่อเสร็จกิจในห้องน้ำ จึงออกมาเดินจงกรมต่อ เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง เห็นความเจ็บเกิดขึ้นที่นิ้วโป้งเท้า ความเจ็บนี้เป็นเพียงกอง เป็นส่วนของมัน จิตใจไม่เป็นทุกข์ กระสับกระส่ายกับความเจ็บนี้เลย เห็นมันตั้งอยู่ รู้อยู่ที่ความเจ็บอยู่สักระยะ แล้วผมก็กล่าวเป็นภาษาบาลีโดยทันที อย่างมิได้เจตนาว่า "สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา สัพเพ สังขารา อนัตตา"

เมื่อพูดจบก็เกิดความปีติขึ้นมา เมื่อความปีติปรากฏขึ้นมาประมาณ ๓ ถึง ๕ วินาที ก็เห็นว่าปีตินั้นเอ่อล้นขึ้นมา จิตรู้เท่าทันอาการ จึงวางความปีติ จิตกลับมีสภาวะสงบตั้งมั่น ไม่ยินดีในความปีติอีกเลย มีความสงบตั้งมั่น มีความเข้าใจในขณะนั้นว่า สิ่งนี้คืออุเบกขารมณ์ จึงก้มกราบพระพุทธเจ้าในเช้าวันนั้นไปหลายครั้ง ซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับมีน้ำตาซึมออกมา จิตใจผมก็นึกสรรเสริญพระพุทธเจ้า อย่างสุดหัวใจ "พระองค์มีพระปรีชาอย่างมาก" จากนั้นก็อาบน้ำ แต่งตัวไปทำงานตามปกติ ด้วยจิตใจที่นิ่มนวลตั้งมั่นทั้งวันเลยครับ จากการปฏิบัติครั้งนี้

การเปล่งวาจาออกเป็นภาษาบาลีออกมานั้นโดยมิได้ตั้งใจ เรียกอาการประเภทนี้ว่าอะไรครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าอุทานธรรม

ถาม : การปฏิบัติในครั้งนี้ เข้าถึงฌาณหรือไม่ ? และไปถึงฌาณ ๒ ไหมครับ ?
ตอบ : ได้แค่ปีติเท่านั้น

ถาม : การปฏิบัติผ่านการวิปัสสนาบ้างไหมครับ ?
ตอบ : เกือบจะผ่าน...อารมณ์ใจที่เกิดปีติจะเข้าถึงฌานไม่ได้ จำให้แม่น ๆ อย่ามั่ว...! การที่เราเห็นว่าทุกอย่างไม่เที่ยง ทุกอย่างเป็นทุกข์ ทุกอย่างไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นส่วนของวิปัสสนาอยู่แล้ว แต่ต้องพิจารณาทบทวนอย่างจริงจัง ไม่ใช่สักแต่ว่าอุทานออกมา
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
กระทู้ถูกปิด


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:39



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว