ยุคต้นกัป
			 
			 
			
		
		
		
			
			ช่วงต้นกัปที่ อาภัสราพรหมท่านลงมาโลกมนุษย์ โดยเฉพาะท่านที่หมดบุญ  พอไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก แล้วฝนตก กลิ่นดินหอม ท่านจะลงมากินดิน  พอกินของหยาบเข้าไป กายหนัก..เหาะกลับไม่ได้ คราวนี้รัศมีกายท่านยังมีอยู่  ไม่มีพระอาทิตย์ พระจันทร์ ไม่มีอะไร ก็กินง้วนดินไปเรื่อย   
 
คราวนี้พอกินมากเข้า ความหยาบมีมากขึ้น จากกายทิพย์ก็กลายเป็นกายหยาบ  รัศมีกายก็หมดไป เมื่อรัศมีกายหมดไปก็ต้องมีพระอาทิตย์ พระจันทร์  เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นการรองรับ คราวนี้พืชพรรณธัญญาหารก็เกิดขึ้นเพื่อรองรับ  คนก็ปรากฏเพศขึ้น ก็แบ่งเป็นเพศหญิงเพศชาย ก็เริ่มมีลูกหลานไปเรื่อย ๆ   
 
คราวนี้คนที่อยู่ต้นกัปนี้ บารมีเขาคือ พรหมลงมาเกิด อายุก็เลยมาก  อายุจะได้อสงไขยปี คือตั้งตัวเลข ๑ แล้วเขียนเลขศูนย์ไป ๑๔๐ ตัว กลายเป็น  ๑๔๑ หลัก คืออายุขัยตอนนั้น พออยู่ไปเรื่อย ๆ กิเลสเริ่มเข้า รัก โลภ  โกรธ หลง เริ่มมีทีละน้อย ๆ อายุขัยก็จะลดลง ผ่านไป ๑๐๐ ปี  อายุขัยก็จะลดลงปีหนึ่งไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ จากอสงไขยปีหนึ่ง  ลดลงเหลือจนเหลือ ๑๐ ปี  
 
อย่างสมัยของเรานี้ เกณฑ์อายุสมัยพุทธกาล ๑๐๐ ปีเป็นประมาณ ผ่านไป ๑๐๐ ปี ลดลงปี คราวนี้ผ่านไป ๒,๕๐๐ ปีเศษ ลดลง ๒๕ ปีเศษ ๆ  เพราะฉะนั้น คนในช่วงนี้จะเหลืออายุ ๗๔ ปีเศษ ๆ เท่านั้น จนกระทั่งถึงอายุ  ๑๐ ปี จะเป็นจุดต่ำสุด แล้วลองคิดดูว่านานแค่ไหน ๑๐๐ ปี ลดหนึ่ง จากเลข  ๑๔๑ ตัวมา นานจนประมาณเป็นตัวเลขได้ยาก  
 
แล้วพอถึงเวลานั้นก็จะเกิดที่เรียกว่า มิคสัญญี ประเภทที่ว่าพี่น้องก็ฆ่ากันเอง  ครอบครัวก็ฆ่ากันเอง เพราะจำหน้ากันไม่ได้  คนที่เกิดสลดใจเพราะเริ่มระลึกถึงความดีได้ ก็เริ่มตั้งใจให้ทาน  รักษาศีล เจริญภาวนาใหม่ คุณความดีที่ทำก็จะส่งให้อายุสูงขึ้นเรื่อย ๆ ก็  ๑๐๐ ปี เพิ่มปีไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน 
 
 
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ 
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
		 
		
		
		
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2016 เมื่อ 19:51
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |