การผูกหุ่นพยนต์

[วาโยรัตนะ]

การผูกหุ่นพยนต์
พระคาถาผูกหุ่นพยนต์นี้ เป็นของ"หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า" ใช้ผูกหุ่นพยนต์ด้วยหญ้าคา หญ้าแพรก ผ้าที่ท่านชักบังสุกุลหรือสายสิญจน์ที่ท่านใช้ถือสวดมนต์ นำมาผูกทำเป็นรูปหุ่นขึ้น หรือจะใช้ขี้ผึ้งปั้นทำเป็นรูปคน แล้วปลุกให้ขึ้นจนมีรูปร่างใหญ่โตก็ได้ ให้หัดทำในที่ลับตาคน เมื่อทำเป็นแล้วจึงทำที่ใดก็ได้ ขณะที่จะเริ่มเป็นหุ่นนั้น จะกลิ้งโคลงเคลงเสียงดังโครมครามเสียก่อน จึงจะเป็น
โสสะอะนิ
พระคาถานี้ใช้บริกรรมผูกหุ่น จนกว่าจะเป็นขึ้นมา
สะอะนิโส
พระคาถานี้ ใช้บริกรรมเรียกหุ่นให้มาหาเรา เมื่อจะไปในที่ใด ให้ขี่คอหุ่นนั้นไปเถิด
อะนิโสสะ
พระคาถานี้ เมื่อผูกหุ่นให้เป็นขึ้นมาแล้ว จะให้อยู่ในที่ใดก็ดี ให้เสกเอาสายสิญจน์คล้องคอหุ่นไว้ เมื่อจะใช้ไปไหนค่อยถอดออก
นิโสสะอะ
เมื่อจะใช้หุ่นไปไหนให้ บริกรรมคาถานี้ขับออกให้ไป แล้วเอาสายสิญจน์ออก
เมื่อจะทำให้จัดเครื่องกระยาบวช ๑ สำหรับบูชาครู เทียนเล่มหนัก ๑ บาท ผ้าขาว ๑ ผืน เงิน ๑ บาท เอาแป้งปั้นเป็นควายดำ ๑ ตัว ท่องคำบูชาครูแล้วจึงทำเถิด จบสูตร

คาถาไหว้ครู
ตะมัตถัง ปะกาเสนโต สัตถาอาหะ อิมะอะวิ ตะอุอะมิ มะสะนะโม
สิบนิ้วของข้าขอน้อมนมัสการ แด่คุณครูบาอาจารย์ ผู้ประสาทวิทย์ อันเป็นมิ่งมิตรทั่วโลกา ข้าพเจ้าขอไหว้เทพยดาผู้ศักดิ์สิทธ์ ทั้งพระองค์พรหมศรี ผู้เรืองฤทธิไกร อีกทั้งครูผู้รู้ไสยศาสตร์โหราจารย์ จงมาอภิบาลปกเกศ ทั้งบิตุเรศชนนี หลวงพ่อกวยก็ดีจงมาเป็นสักขีพยานให้ข้า ซึ่งจะท่องว่าคาถาอาคม ให้บรรจุสิ้นและศักดิ์สิทธิ์ เป็นนิมิตดีแก่ข้า ณ บัดนี้เทอญ

[วาโยรัตนะ]

มาดูเรื่องหุ่นพยนต์กันต่อครับ เท่าที่สืบหาข้อมูลมา ไปประทับใจหุ่นพยนต์ อ.ลอย อยุธยา เครื่องรางอันดับ ๑ ด้านหุ่นพยนต์ ท่านเป็นฆราวาสเรืองวิชาอยุธยา หุ่นพยนต์ที่ท่านสร้าง เกิดจากธาตุทั้ง ๔ ปลุกเสกโดยใช้โองการต่าง ๆ ตามที่ท่านได้เล่าเรียนมา ไม่ได้เกิดจากวิญญาณหรือภูติผีต่าง ๆ ตามที่บางท่านเข้าใจ

เรื่องหุ่นพยนต์นี้ของท่านนี่ละครับอันดับหนึ่ง อุปเท่ห์การใช้ ๑๐๘ เป็นทั้งเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี มหาอุตม์ ป้องกันคุณไสยกันกระทำ คุ้มครองป้องกันภัยด้วย คติการสร้างที่เชื่อว่า นำติดตัวหุ่นจะรองรับสิ่งที่ไม่ดีแทนตัวเราครับ เรียกว่าพุทธคุณครอบจักรวาล มีแต่คุณไม่มีโทษ บูชาติดตัวไปได้ทุกที่ไม่มีข้อห้าม ถือว่าเป็นศาสตร์โบราณที่มีมานาน

ท่านปลุกเสกหุ่นขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ให้ไว้เป็นเพื่อนเพื่อคุ้มครองเจ้าของ ตลอดจนคุ้มครองดูแลทรัพย์สินหรือบ้านเรือน สามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่เหมือนมีเพื่อนติดตัวตลอดเวลา
วิธีใช้ ธรรมดาให้ท่อง “โอม ปลุกมหาปลุก กูจะปลุกพ่อหุ่นพยนต์ ด้วยอะหังทุกัง” ถ้าเข้าที่คับขัน ให้เติมท้ายด้วย “นะมะพะทะ” เพื่อหนุนธาตุ เวลาปกติเซ่นด้วยน้ำ ถ้าจะให้ดุต้องเซ่นด้วยเหล้าขาว
อันนี้หาข้อมูลมานะครับ ยังไม่เคยเห็นของจริงครับผม

[เด็กเมื่อวานซืน]

อ่านแล้ว นึกถึง เรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ตอน พลายชุมพล ผูกหุ่นพยนต์เพื่อมาสู้กับ กองทัพจมื่นไวยวรนาถ (พลายงาม) ผู้เป็นพี่ชายครับ

[เถรี]

เถรีนึกถึงหุ่นพยนต์ที่พระมหากัสสปะสร้าง สำหรับเฝ้าพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเฝ้ากรุมหาสมบัติ รอจะถวายพระเจ้าอโศกมหาราช

[วาโยรัตนะ]

หุ่นพยนต์ของท่านนั้น ท่านใช้วัตถุอาถรรพ์ใส่ไว้ในท้อง ท่านใช้ "ก้านลาน" (ไม้ที่ใช้เขี่ยศพตอนเผาแล้วในสมัยโบราณ) แล้วเขาว่าท่านต้องเอามือไขว้หลังผูก พร้อมบริกรรมคาถา ท่านมีทำไว้หลายขนาด ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ บางตัวมีถืออาวุธ มีทั้งนั่งและยืน ตามแต่ท่านจะผูกขึ้นมา ตัวใหญ่ ส่วนมากไว้เฝ้าบ้าน ร้านค้า ตัวเล็กพกติดตัวไปเป็นเพื่อน

ยุคแรกจะลงด้วยยางมะเกลือสีดำ และไม่ลงยางก็มี ยุคหลังสุดจะใช้ไหมญี่ปุ่นหลากสีสวยงามพัน ตัวเล็กที่มีอัดกรอบพลาสติกเดิม จะมีโค้ดตัวอุลงด้านหน้า สังเกตโค้ดเป็นเสี้ยนบนพลาสติกบริเวณตัวอุ เพราะใช้บล็อกไม้ในการแกะทำโค้ดนั่นเอง

นอกจากนี้จะมีการเจาะรูไว้ โดยใช้เข็มลนไฟจี้เข้าไปในพลาสติก เป็นเคล็ดว่าให้ช่องเขาออกมาได้ วิธีใช้ธรรมดา ให้ท่องเพื่อหนุนธาตุ เวลาปกติเซ่นด้วยน้ำ ถ้าจะให้ดุต้องเซ่นด้วยเหล้าขาว

หุ่นพยนต์ อ. ลอย อยุธยา อ. ลอย โพธิ์เงิน ท่านเป็นผู้ที่ผูกทำหุ่นพยนต์ขึ้นมา ท่านเองนั้น คนเฒ่าคนแก่แถวนั้นบอกว่าท่านลอยเรืออยู่ใกล้วัดสุวรรณาราม ท่านมีอาคมแก่กล้ามาก ท่านสามารถเสกผ้าขาวม้าให้เป็นงูได้ ลูกศิษย์ท่าน (เมื่อตอนคุยให้ฟังหลายปีก่อนก็แก่แล้ว) เล่าให้ฟังว่า สมัยนั้นมีผีตายทั้งกลมมานั่งร้องไห้ตอนกลางคืน ให้ชาวบ้านหวาดกลัว ท่านเลยไปนั่งคุยกับผีตัวนั้น เพื่อจะช่วยหาทางปลดปล่อย ให้วิญญาณนั้นไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน ลูกศิษย์ท่านคนเดียวกันนี้ เล่าว่า ท่านเคยหยอกเล่นด้วยการทำผ้าขาวม้าตกน้ำแล้วให้ลูกศิษย์ไปหยิบ พอเข้าไปจะหยิบ กลับกลายเป็นงูเหลือมตัวเขื่อง ลูกศิษย์ตกใจวิ่งมาหาท่าน ท่านดุเอาว่า เอ็งตาฝาด แล้วก็เดินไปหยิบ ก็เป็นผ้าขาวม้าธรรมดา

[วาโยรัตนะ]

มีหลายแบบครับ เห็นแล้วชอบบอกไม่ถูกนะครับ

[เด็กเมื่อวานซืน]

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ wonderisland

คนเฒ่าคนแก่แถวนั้นบอกว่าท่านลอยเรืออยู่ใกล้ วัดสุวรรณาราม

วิธีการพักอาศัยเหมือนกับ อ.เฮง ไพรวัลย์ ฆราวาสที่โด่งดังของ จ.อยุธยา อีกท่านหนึ่งครับ อ.เฮง พักอาศัยบนเรือที่จอดอยู่ท่าน้ำ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา (วัดเดียวกับ หลวงปู่ดู่ ครับ แต่จะเป็นยุค หลวงปู่สี เจ้าอาวาสรูปก่อน หลวงปู่ดู่ ครับ )

[วาโยรัตนะ]

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เด็กเมื่อวานซืน

วิธีการพักอาศัยเหมือนกับ อ.เฮง ไพรวัลย์ ฆราวาสที่โด่งดังของ จ.อยุธยา อีกท่านหนึ่งครับ อ.เฮง พักอาศัยบนเรือที่จอดอยู่ท่าน้ำ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา (วัดเดียวกับ หลวงปู่ดู่ ครับ แต่จะเป็นยุค หลวงปู่สี เจ้าอาวาสรูปก่อน หลวงปู่ดู่ ครับ )

ยังมีฆราวาสที่คงแก่เรียนในสมัยนี้ ที่ไม่เปิดตัวหลาย ๆ ท่านเช่นกันครับ ได้อ่านแล้วมันยินดี ดีใจ แบบบอกไม่ถูกครับ

มี เคล็ดเกี่ยวกับควายธนูบ้างไหมครับ ท่านรัตน์
เห็นทางภาคใต้โดดเด่นเรื่องควายธนู
เพียงหนึ่งเดียวก็ พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ

ควายธนู ก็จัดเป็นหุ่้นพยนต์ รูปแบบหนึ่ง

[กบตรัง]

ที่บ้านผมก็มี หุ่นพยนต์ อยู่ ๔ องค์ครับ
ของพระอาจารย์ประสูติ แห่งวัดในเตา (วัดพระพุทธโกษีย์)
ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่แสง สายเขาอ้อ ครับ
อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อก่อนผมบูชามา องค์ละ ๑,๐๐๐ บาท
เพื่อนำเงินไปสร้างพระอุโบสถ์ แต่เดี๋ยวนี้น่าจะอยู่ที่ องค์ละ ๕,๐๐๐ บาท
หลาย ๆ เดือนท่านจึงจะผูกขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง
บางคืนถ้าผมไม่อยู่ที่บ้านไฟหน้าบ้านเปิดให้เอง...

[วาโยรัตนะ]

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กบตรัง

ที่บ้านผมก็มี หุ่นพยนต์ อยู่ ๔ องค์ครับ
ของพระอาจารย์ประสูติ แห่งวัดในเตา (วัดพระพุทธโกษีย์)
ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่แสง สายเขาอ้อ ครับ
อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อก่อนผมบูชามา องค์ละ ๑,๐๐๐ บาท
เพื่อนำเงินไปสร้างพระอุโบสถ์ แต่เดี๋ยวนี้น่าจะอยู่ที่ องค์ละ ๕,๐๐๐ บาท
หลาย ๆ เดือนท่านจึงจะผูกขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง
บางคืนถ้าผมไม่อยู่ที่บ้านไฟหน้าบ้านเปิดให้เอง...

ขอดูรูปหน่อยได้หรือไม่ครับคุณกบ ผมเองเพิ่งทราบเหมือนกันว่าทางใต้เรายังมีผู้สืบทอดวิชาเหล่านี้เอาไว้ครับ น่าสนใจและน่าเรียนรู้เป็นอย่างยิ่งครับ

การใช้หุ่นพยนต์ เท่าที่ทราบมา

สามารถใช้ในการศึก เป็นสายลับ แบบภูตพราย ก็ได้นะครับ

ส่งไปสอดแนมข้าศึก

แต่จะใช้ในขั้นนั้นได้ เรื่องจิต นี่ต้องฝึกพอสมควรทีเดียว