|
#1
|
||||
|
||||
|
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๘
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
| สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#2
|
||||
|
||||
|
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศทางด้านทองผาภูมิอยู่ที่ ๒๑ องศาเซลเซียส แต่ว่ามีฝนปรอยลงมาเป็นระยะ ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยกันได้ง่าย ถ้าบ้านใครอากาศเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ก็ขอให้รักษาสุขภาพให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วเจ็บไข้ได้ป่วยไปก็จะรักษายาก เพราะว่าอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว หาความแน่นอนไม่ได้
สำหรับวันนี้ขอกล่าวถึงสงครามไทย - เขมรรอบนี้อีกวาระหนึ่ง อันดับแรกเลย บรรดาท่านทั้งหลายที่เรียกร้องให้ไทยและเขมรหยุดยิงนั้น ขอให้เลิกเรียกร้องประเทศไทยได้แล้ว ถ้าท่านทั้งหลายจะเรียกร้อง โปรดเรียกร้องให้ทางเขมรหยุดยิง เพราะอีกฝ่ายกระสันอยากจะทำสงครามเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะรักษาสถานภาพของตนเอง และเพื่อเอาใจลูกพี่ใหญ่ของตนเอง ส่วนลูกพี่ใหญ่ที่ออกมาพูดชุ่ย ๆ ว่าการเหยียบกับระเบิดของทหารไทยเป็นอุบัติเหตุนั้น กระผม/อาตมภาพเห็นว่าการที่เครื่องบินบินชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เป็นอุบัติเหตุมากกว่า..! เนื่องเพราะว่ามีโอกาสที่เครื่องบินจะบินชนได้ ส่วนการเหยียบกับระเบิดนั้น ถ้าฝ่ายเขมรไม่เข้ามาฝังเอาไว้ แล้วทหารไทยจะไปเหยียบได้อย่างไร ? ตรงส่วนนี้ต้องบอกว่าอยากจะถือหางใคร กระผม/อาตมภาพก็ไม่ว่า แต่พูดจาอะไร โปรดระมัดระวังคำพูดด้วย ถ้าท่านถือว่าเป็นมหาอำนาจของโลก ชีวิตของชนชาติอื่นไม่มีความหมายในสายตาของท่าน ก็โปรดระมัดระวัง "บุคคลที่ซุ่มรอจังหวะอยู่" จะเห็นว่าชีวิตพลเมืองอเมริกันก็ไม่มีความหมายเช่นกัน ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุเช่นกัน ถ้าถึงเวลานั้นแล้ว ท่านโปรดอย่าเปลี่ยนคำพูดนี้เป็นอันขาด..! สำหรับกองเชียร์ชาวไทยที่เห็นว่าทหารของเราปฏิบัติการไม่สะใจ ทำไมไม่บุกไปถล่มหัวหน้าเขมรที่บ้านของเขาเลย ?! เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่ท่านคิด แม้กระทั่งจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ที่เขาสาดกระสุนเปะปะมา ทำให้ชาวบ้านของเราบาดเจ็บล้มตาย โดยเฉพาะแถวอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษนั้น บางทีเขาตั้งใจล่อให้เครื่องบินของเราเข้าไปทำลาย เนื่องเพราะว่าเตรียมจรวดต่อต้านอากาศยานไว้แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่เราจะผลีผลามเข้าไป โดยที่ไม่ได้ "ดูตาม้าตาเรือ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:13 |
| สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#3
|
||||
|
||||
|
ในการรบครั้งนี้ ทหารไทยของเราประกาศไว้ชัดเจนแล้วว่า "จะทำลายเขมรให้สิ้นสภาพ ไม่สามารถที่จะก่อกวนบ้านเราอีก" จึงใช้วิธีรุกคืบหน้าแบบช้า ๆ ค่อย ๆ เก็บรายละเอียดไปทีละเล็กทีละน้อย กลยุทธ์นี้เป็นยุทธวิธีในการรบแบบที่เรียกว่า "ม้ากินสวน" ก็คือค่อย ๆ เล็มไป ไม่ใช่ว่าเสียเวลาทำให้ทหารของเราบาดเจ็บล้มตาย ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้มือเปล่า หรือว่าถือก้อนหินมาขว้างใส่เรา แม้ว่าอาวุธของเขาจะเก่าหรือว่าด้อยประสิทธิภาพกว่าเราเล็กน้อย แต่ถ้าโดนเข้า คนของเราก็มีเจ็บมีตายได้เช่นกัน..!
โดยเฉพาะการที่เขาให้ชาวต่างชาติบังคับโดรนพลีชีพ หรือว่าสอนการโจมตีเป้าหมายต่าง ๆ ในประเทศไทย เราก็จะเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้สนใจเลยว่าจะใช้ใคร หากแต่ต้องการความสะใจ ในการที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นจะทำให้ประเทศของเราบ้าคลั่งขึ้นมา แล้วบุกเข้าไปตกหลุมพรางที่เขากางรออยู่ จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป เก็บรายละเอียดไปทีละเล็ก ทีละน้อย จุดไหนที่สำคัญก็ถล่มให้ราบ กองกำลังไหนที่ยังต่อต้านได้ก็จัดการทำลายสมรรถภาพเสีย ค่อย ๆ รุกคืบหน้าในลักษณะนี้ ประมาณว่าหลังสงครามแล้ว จะให้อีกฝ่ายไม่สามารถ "กวนตีน" บ้านเราได้อีกหลายปีทีเดียว ก็คือสั่งสอนให้เข็ดหลาบ ไม่คิดที่จะทำสงครามกับเราอีกเลย โดยเฉพาะเครื่องบินรบที่มีค่าของเรา ใครจะบอกว่าเก่า ใครจะบอกว่าตกรุ่น กระผม/อาตมภาพยืนยันว่าช่างไทยเราเป็นสุดยอดฝีมือ สามารถที่จะ "โมดิฟาย" ได้ทุกรุ่น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่คนอื่นเห็นว่าเก่า เห็นว่าตกรุ่น แต่มีราคาแพงในบ้านเรา จึงไม่ใช่สิ่งที่จะเอาไปให้คนอื่นเขาทำลายได้ง่าย ๆ เราจำเป็นที่จะต้องหวงแหน และต้องมั่นใจในปฏิบัติการก่อน ถึงได้ลงมือ ส่วนบรรดากองเชียร์ทั้งหลายที่ลงภาพการยิงทำลายกระเช้าขึ้นปราสาทตาควายก็ดี การยิงทำลายสะพานเชื่อมระหว่างเกาะกงก็ตาม ตรงจุดนั้นกระผม/อาตมภาพในฐานะที่เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน ไม่เคยสงสัยในสมรรถภาพของทหารไทยเลย เนื่องเพราะว่าถ้าเราแจ้งพิกัดได้ถูกต้อง ทหารฝ่ายเราสามารถที่จะหย่อน "รางวัล" ลงไปแจกบรรดาชาวเขมรได้ทุกที่ เพียงแต่ว่าถึงจะได้พิกัดที่ถูกต้องแล้ว ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ เราก็ยังมีการประกาศให้ประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้อง อพยพออกไปให้พ้นพื้นที่ก่อน ไม่ได้ยิงเปะปะแบบเขาทำกับเรา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:16 |
| สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#4
|
||||
|
||||
|
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายจะต้องใจเย็น ยุทธวิธีม้ากินสวนต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง เป็นการถ่วงให้ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธหนักของตนออกมาให้หมด ถ้าถึงเวลานั้นแล้ว ต่อให้เขาร้องขอชีวิต ก็น่าจะไม่ได้รับการให้อภัยเหมือนกัน..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทุกท่านจึงต้องใจเย็น ๆ ไม่ใช่เร่งรัดว่า "เราจะกลับบ้านวันนี้ ให้ทหารรีบจบภารกิจโดยเร็ว" ถ้าอย่างนั้นเราก็จะกลายเป็นเขมร ก็คือต้องเอาชีวิตทหารมาถมที่หน้าแนว ตายไปมากมายจนนับไม่ถ้วน..! ชีวิตลูกหลานทหารไทยเราที่สูญเสียไป ตอนนี้ก็เกิน ๑๐ ศพแล้ว ยังบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ทุกชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นบุคคลที่เราต้องให้เกียรติยกย่อง เนื่องเพราะว่าเอาชีวิตตนเองมาเป็นรั้ว ป้องกันให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้นอนตาหลับ ได้อยู่สุขอยู่เย็น โดยที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้เสียดายชีวิตเลย พร้อมที่จะแลกเป็นชาติพลี ให้เราทั้งหลายได้อยู่ดีกินดีทางแนวหลัง จึงควรที่จะเอาใจช่วย และปล่อยให้ทหารดำเนินการของตนเองไปอย่างเต็มที่ เราเป็นแค่กองสนับสนุนเท่านั้น จึงอย่าเผลอเปิดเผยที่ตั้งศูนย์อพยพ อย่าเผลอเปิดเผยจุดที่ระเบิดหรือว่าปืนใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามลง เนื่องเพราะว่าถ้าเปิดเผยเมื่อไร เขาสามารถที่จะหาจุดที่ต้องการทำลายได้ทันที จึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องระมัดระวังกันเป็นอย่างสูง อย่าได้เอาแต่ความสะใจอย่างเดียว หากแต่ว่าถ้าต้องการความสะใจ เราก็ไปรอสะใจหลังจากที่ชนะสงครามก่อนก็แล้วกัน..! ขณะเดียวกัน ก็อย่าให้เลือดสิทธิมนุษยชน หรือว่าเลือดของมนุษยธรรมขึ้นหน้า จนกระทั่งไปกระทำการอันเป็นการบ่อนทำลายการรบของทหารแนวหน้าเป็นอันขาด หน้าศึกหน้าสงครามนั้น คำว่า "สิทธิมนุษยชน" หรือว่า "มนุษยธรรม" ท่านทั้งหลายต้องไปบอกกับข้าศึกของเราให้เขาปฏิบัติ ไม่ใช่มาบอกกับทหารของเราให้ปฏิบัติ เนื่องเพราะว่าเขาต้องการสงคราม..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:20 |
| สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#5
|
||||
|
||||
|
กระผม/อาตมภาพยังนึกถึงคำพูดของจอมจักรพรรดิเจงกิสข่าน ที่ส่งทูตไปเจรจากับอาณาจักรคอเรซ ชาห์แห่งคอเรซไม่ยอมสวามิภักดิ์ บรรดานักการทูตพยายามที่จะเขียนสาส์นที่ไพเราะเพราะพริ้ง แต่เจงกิสข่านบอกว่าเสียเวลา เขียนไปสั้น ๆ ว่า "เจ้าต้องการรบ เจ้าก็จะได้รบ"..!
สำหรับเขมรนั้น กระผม/อาตมภาพขอยืมคำของเจงกิสข่านมาพูดแทนญาติโยมทั้งหลายว่า "เมื่อมันอยากจะรบ มันก็จะได้รบ" รบแล้วรู้สึกอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะได้จดจำไปถึงลูกถึงหลานเลยว่า คราวหน้าอย่ามาแหย่เสือข้างบ้านแบบนี้อีก อยากจะเอาใจลูกพี่ก็ดี อยากที่จะรักษาสถานภาพของตนเองก็ตาม กรุณาไปแหย่ทางด้านอื่น เพราะว่าความอดทนของคนนั้นย่อมมีจุดสิ้นสุดลง สำหรับญาติโยมทั้งหลายก็ขอให้ตั้งใจปฏิบัติอยู่ใน ทาน ศีล ภาวนา ให้เป็นปกติ พยายามที่จะแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้แก่เทวดาที่ปกปักรักษาประเทศไทยของเรา ซึ่งในด้านทางลับนั้น ทุกท่านทำหน้าที่หนักไม่แพ้กับทหารในแนวหน้า เนื่องเพราะว่าอีกฝ่ายเล่นทุกวิถีทาง ทั้งด้านลับและด้านแจ้ง ท่านทั้งหลายเหล่านี้อยู่ในสภาพของบุคคลผู้ประเสริฐ ถ้าไม่มีการขอร้อง ท่านก็จะวางฉาย ไม่อยากจะไปยุ่งกับกฎของกรรม พวกเราจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เมื่ออุทิศส่วนกุศลให้ท่านทั้งหลายแล้ว ก็ขอความปลอดภัยให้กับพี่น้องทหารหาญ และญาติพี่น้องชาวไทยที่อยู่บริเวณศึกสงครามด้วย สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่เราควรกระทำ ก็คือรักษากำลังใจของเราให้มั่นคง อย่ายินดียินร้ายกับข่าวที่เกิดขึ้น เนื่องเพราะว่าถ้าท่านกำลังยินร้ายกับเรื่องนั้นอยู่ จิตประกอบไปด้วยโทสะ โมหะ เกิดเสียชีวิตตอนนั้น แล้วต้องตกสู่อบายภูมิ ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:22 |
| สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|