กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-11-2025, 17:17
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,382
ได้ให้อนุโมทนา: 227,359
ได้รับอนุโมทนา 821,708 ครั้ง ใน 40,623 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-11-2025, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,498
ได้ให้อนุโมทนา: 160,650
ได้รับอนุโมทนา 4,519,194 ครั้ง ใน 37,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจตั้งแต่เช้า คือต้องไปทำบวงสรวงขออนุญาตในการบูรณปฏิสังขรณ์กุฏิหลวงพ่อศรี - พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์, ดร. (ศรี โอภาโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน จากนั้นก็นำญาติโยมทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ พร้อมกับอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลไปด้วย

ครั้นครบ ๑๐๘ จบแล้ว นำอุทิศส่วนกุศล ปรากฏว่าเห็นท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ ใส่ชุดสีทองคำสว่างเจิดจ้า ยืนตระหง่านอยู่กลางวัด ก็เลยเรียนถามท่านว่า "ทำไมถึงมาชุดนี้ ?" เพราะปกติของท่านก็คือเป็นกายแก้วที่เหลือบางมากสุด ๆ พูดง่าย ๆ ว่าเป็น "อรหัตมรรค" ไปแล้ว..!

ท่านบอกว่า "ในเมื่อภาวนาพระคาถาเงินล้าน ก็ต้องแสดงความรวยให้เห็น" กระผม/อาตมภาพจึงท้วงว่า "เพชรราคาแพงกว่าทองนะครับ" ท่านจึงเปลี่ยนกลับไปเป็นกายแก้วแบบพระนิพพานตามเดิม แต่ว่าด้วยความที่นำอุทิศส่วนกุศลไปด้วย คุยกับท่านไปด้วย ก็เลย "ทิ่มผิด" แทนที่จะอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรก่อน กลายเป็นอุทิศให้กับเทพเจ้าทั้งหลายเสียก่อน จนเลี้ยวกลับมาแทบไม่ทัน..!

สำหรับการภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้น กระผม/อาตมภาพก็สงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า "กูเป็นอะไรวะ ?" พูดง่าย ๆ ก็คือตั้งแต่ปฏิบัติธรรมอย่างมอบกายถวายชีวิตตอนอายุ ๑๖ ปีเป็นต้นมา ต้องบอกว่าถึงตอนนี้ครบ ๕๐ ปีถ้วน ย่างปีที่ ๕๑ แล้ว แทบจะไม่มีคำถามต่อครูบาอาจารย์มาก่อนเลย..!

แต่ท่านทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้านแค่นี้ ก็มีสารพัดคำถาม อย่างเช่นว่า "ทำไมหลวงพ่อถึงสวดว่าพรัม-มา ขณะที่ตัวหนังสือเขียนว่าพรหมา ?" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่เกากบาล เนื่องเพราะว่าพรัม-มา เป็นการอ่านออกเสียงแบบบาลี พูดง่าย ๆ ก็คือออกเสียงถูก แต่ท่านทั้งหลายอ่านออกเสียงผิดเป็นพรม-มา แล้วก็คิดว่ากระผม/อาตมภาพออกเสียงผิด มิน่า..ว่าหลวงพ่อวัดท่าขนุนทำแล้วรวยเอารวยเอา แต่ว่าท่านทั้งหลายทำเท่าไรก็ไม่ค่อยจะขึ้น เนื่องเพราะว่ามัวแต่สงสัยอยู่นั่นเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2025 เมื่อ 01:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-11-2025, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,498
ได้ให้อนุโมทนา: 160,650
ได้รับอนุโมทนา 4,519,194 ครั้ง ใน 37,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ เราต้องตั้งใจภาวนาเป็นพุทธบูชาก็ดี เป็นสังฆบูชาก็ได้ ก็คือภาวนาถวายพระพุทธเจ้าก็ได้ ถวายหลวงพ่อผู้เป็นครูบาอาจารย์ก็ได้ ไม่ใช่ภาวนาเพื่อให้รวย เนื่องเพราะว่าการตั้งใจภาวนาให้รวยนั้น ถ้าเป็นภาษาของผู้เรียนอภิธรรม เขาจะบอกว่า "จิตประกอบไปด้วยโลภเจตนา" ทำให้ตัวโลภนี้มาบังหน้า กลายเป็นว่าลาภผลไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้..!

ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพนั้น ก็จะใช้วิธีภาวนาไป จับภาพพระพุทธเจ้าไปด้วย หรือถ้าใครมีความสามารถมากก็ทำอย่างกระผม/อาตมภาพก็ได้ ก็คือตั้งใจนึกถึงวิมานองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ภาวนาไปก็ให้ลมหายใจเข้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่บนวิมาน พอลมหายใจออก ก็เอาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลื่อนมาในอก เอาองค์พระปัจเจกพุทธเจ้าเลื่อนขึ้นไปบนพระนิพพาน ถ้าคิดว่าสนุกสนานไม่พอ จะเพิ่มองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าไปกี่พระองค์ก็ได้ เป็นการเล่นกีฬาสมาธิไปด้วย ทำให้ไม่เบื่อไม่หน่ายในการภาวนา แต่ว่าสติต้องดี ไม่เช่นนั้นการนับจำนวนอาจจะมีการผิดพลาดได้..!

วิธีแก้ไขการนับจำนวนไม่ให้ผิดพลาดก็คือ ถ้าพลาดเมื่อไร ให้เริ่มต้นใหม่นับหนึ่งทันที ก็แปลว่าถ้าท่านตั้งใจภาวนา ๑๐๘ จบ วันทั้งวันอาจจะได้ไม่ครบก็ได้ แต่เป็นการดัดสันดานตัวเอง พอนาน ๆ ไป ไม่อยากจะพลาดแล้วไปเริ่มต้นใหม่อีก สติสมาธิก็จะจดจ่ออยู่กับการภาวนาตรงนั้น ถ้าหากว่าท่านทำแบบนี้ ก็จะทำให้สามารถที่จะภาวนาแล้วก็นับจำนวนไปได้ถูกต้องด้วย

กรุณาอย่าไปเชื่อใจ "เครื่องนับ" เนื่องเพราะว่าเวลาสมาธิท่านลึก บางทีนิ้วก็ไม่ขยับ แล้วขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าฟุ้งซ่านคิดเรื่องอื่น บางทีก็ลืมกดนับ ดังนั้น..
การใช้เครื่องนับเป็นการทำลายสมรรถภาพของเราไปโดยปริยาย เนื่องเพราะว่าท่านอาศัยเครื่องมือมากจนเกินไป..!

หากว่าใช้ลูกประคำ เรานับจำนวนไปตามที่เราภาวนา ยังจะได้อะไรมากกว่า เนื่องเพราะว่าอันดับแรกเลยก็คือ จิตจดจ่ออยู่กับภาพพระ อันดับที่สองก็คือ ปากภาวนาหรือใจภาวนา อันดับที่สามก็คือ ตั้งใจจดจำว่าได้กี่จบแล้ว พร้อมกับเลื่อนมือไปตามจำนวนเม็ดประคำนั้น ๆ เหล่านี้เป็นต้น แต่ว่าการใช้เครื่องนับ ทำให้สมรรถภาพของเราลดลง เพราะว่าไปฝากสติเอาไว้กับเครื่องมือมากกว่า..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2025 เมื่อ 01:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-11-2025, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,498
ได้ให้อนุโมทนา: 160,650
ได้รับอนุโมทนา 4,519,194 ครั้ง ใน 37,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าใครคิดว่าทำสิ่งไหนแล้วดีต่อการภาวนาของตนเองก็ทำแบบนั้นเถิด แต่สำคัญที่สุดก็คือความจริงจังและสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็จะได้มากได้น้อยสลับกันไป ดังนั้น..ความจริงจังสม่ำเสมอเป็นเคล็ดลับสำคัญอีกข้อหนึ่งในการภาวนาพระคาถาเงินล้านที่จะขาดเสียไม่ได้

ส่วนข้อสุดท้ายนั้น ทุกท่านทำอยู่แล้ว ก็คือในเรื่องของ
ทานบารมี โดยเฉพาะวันนี้ ท่านทั้งหลายพอภาวนาจบแล้ว อุทิศส่วนกุศลเสร็จสรรพ ก็ได้ร่วมถวายสังฆทานกับกระผม/อาตมภาพ หลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร และพระครูโก้ (พระครูสังฆรักษ์ฬัสวัชร์ ฐิตสีโล) เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพาราม จังหวัดชลบุรี

ในส่วนของกระผม/อาตมภาพนั้นจะมอบให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน เพื่อไปสร้างพระพุทธรูปมอบให้กับโรงเรียนวัดบางไกรนอก เนื่องเพราะว่าพระพุทธรูปประจำโรงเรียนที่หล่อด้วยปูนนั้น โดนเด็ก ๆ เตะฟุตบอลอัดเสียจนกระทั่งนิ้วพระหัตถ์หักหายไป แล้วก็พระพาหา ตลอดจนกระทั่งพระอังสะหักกระจายไปแล้ว..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จำนวนเงินและทองคำที่คิดรวมกันแล้วอยู่ที่ ๙๔,๕๐๐ บาท กระผม/อาตมภาพมอบให้กับพระครูสมุห์ต้นไม้ (พระครูสมุห์กรณ์พัฒน์ กนฺตวณฺโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอุทยาน ซึ่งวันนี้รับบทบาทหนัก เนื่องเพราะว่าท่าน ผศ.ดร.พระครูโรจน์ของเรา ยังพาเพื่อนปริญญาเอกดูงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงต้องมอบหมายให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสจัดงานครั้งนี้แทน

ส่วนญาติโยมบางท่านนั้นเมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วก็อุตส่าห์เดินตามมา บอกว่าหลวงพ่อสมปอง (พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ สุธมฺมสนฺตจิตฺโต) ให้เอาพระพุทธรูปมาถวาย ต้องให้หลวงพ่อเล็กรับกับมือเท่านั้น..! ทำเอากระผม/อาตมภาพเกือบจะยันหงายท้องไปแล้ว เนื่องเพราะว่า "ถ้าหากว่าเป็นหลวงพ่อสมปองของคุณจริง ๆ ต้องรู้ว่าผมนิสัยเป็นอย่างไร จะไม่มีทางสั่งอะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนั้นอย่างเด็ดขาด..!" ขนาดบอกให้ไปถวายหลวงพ่อนิลข้างบน เพราะกระผม/อาตมภาพลุกออกจากที่รับแล้วก็ยังไม่ฟัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2025 เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-11-2025, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,498
ได้ให้อนุโมทนา: 160,650
ได้รับอนุโมทนา 4,519,194 ครั้ง ใน 37,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อันดับแรกเลยก็คือ ถ้าเป็นของจริง ต้องรู้นิสัยของกระผม/อาตมภาพ ว่าเป็นอย่างไร ?

อันดับที่สอง เอ็งเป็นลูกศิษย์ที่ห่วยแตกมาก เพราะว่ามาไม่ทันเวลา ถ้าหากว่าเป็นหลวงพ่อสมปองจะต้องกำชับเรื่องเวลาอย่างมาก เพราะรู้นิสัยว่ากระผม/อาตมภาพเป็นคนตรงเวลาอย่างไร

ดังนั้น..ในเรื่องของมโนมยิทธินั้น จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายจะเชื่ออย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่า
เรื่องของมโนมยิทธินั้นจะมีการทดสอบอยู่ตลอดเวลา ครั้งที่ ๑ ถูก เรารับรู้ไว้ด้วยความเคารพ แต่ไม่ได้หมายความว่าครั้งที่ ๒ จะถูกต้องไปด้วย

ครั้งที่ ๑ ถูกต้อง ครั้งที่ ๒ ถูกต้อง รับทราบด้วยความเคารพ ไม่ได้แปลว่าครั้งที่ ๓ จะถูกต้องไปด้วย

เราต้องระมัดระวังการทดสอบอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นก็จะโดนหลอกให้ทำสิ่งโน้น สิ่งนี้ สิ่งนั้น ที่คิดว่าดีไปเรื่อย ๆ โดยสิ่งที่เราไม่ได้รับการสั่งให้ทำเลยก็คือ การปฏิบัติเพื่อมรรคผลของตนเอง..!

กระผม/อาตมภาพเจอคนที่โดนหลอกในลักษณะนี้มาเป็นร้อย ๆ รายแล้ว..! และที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ พยายามที่จะบอกความจริงให้ทราบ แต่เจ้าพวกนี้ดันทะลึ่งเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ฟังกระผม/อาตมภาพเสียด้วย ประมาณว่า
"กูรู้ กูเห็น กูจึงเชื่อ..!" โดยที่กระผม/อาตมภาพเคยบอกอยู่เสมอว่า "ตัวเรานั้นรู้เห็นจริง ๆ แต่สิ่งที่เราเห็นนั้นไม่แน่ว่าจะจริง..!" อย่างเช่นที่ยกตัวอย่างอยู่เสมอก็คือ เราเห็นคนไล่ฆ่าไล่ฟันกันมา เราก็ลากมีดลากปืนเข้าไปช่วยเขา แทบจะโดนเขากระทืบตาย เพราะว่าเขากำลังถ่ายหนังกันอยู่..! เราเห็นคนไล่ฆ่าไล่ฟันกันมาจริงไหม ? นั่นคือการเห็นจริง แต่เรื่องที่เราเห็นนั้นจริงไหม ? ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะว่าเป็นการถ่ายภาพยนตร์..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2025 เมื่อ 01:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 23-11-2025, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,498
ได้ให้อนุโมทนา: 160,650
ได้รับอนุโมทนา 4,519,194 ครั้ง ใน 37,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จึงเป็นเรื่องของบุคคลที่ใช้มโนมยิทธิก็ดี หรือว่าได้รับนิมิตต่าง ๆ ก็ตาม จะต้องระมัดระวังเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด เหมือนกับเดินบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ ต้องระวังไม่ให้น้ำแข็งแตก แล้วเราตกลงไปตายอยู่ภายใต้ความเย็นเยือกข้างล่าง..! เพราะว่าการทดสอบทั้งหลายเหล่านี้จะมีมาทุกเวลา ทุกนาที ทุกวินาที ยิ่งท่านทั้งหลายมีทีท่าว่าจะเดินทางถูก เข้าสู่เส้นของมรรค ๘ เมื่อไร ก็จะโดนหลอกให้เดินวนออกนอกทางทุกครั้งไป จนกว่าท่านทั้งหลายจะได้สติ รู้ตัวขึ้นมาว่า "กูเสียเวลามามากเกินไปแล้ว..!"

ดังที่กระผม/อาตมภาพเองโดนหลอกให้ไปขุดสมบัติที่นั่น ขุดทองคำที่นี่ ครั้งที่ ๑ ไปถึงแล้วไม่สามารถที่จะขุดได้ เพราะเขาบอกว่าต้องไปบวงสรวงหน้าสถานที่ เราทำบวงสรวงตั้งแต่ที่วัดนั้นไม่ถูกต้อง..!

ครั้งที่ ๒ ก็มีลูกศิษย์ที่บ้าพอ ช่วยหอบเครื่องบวงสรวงเข้าไปให้ในป่า แต่ปรากฏว่าพอทำบวงสรวงแล้วก็ยังขุดอะไรไม่ได้ เขาบอกว่าเวลาไม่ถูกต้อง..!

ครั้งที่ ๓ พอมา กระผม/อาตมภาพบอกว่า
"มึงพอเลย ถ้าจะให้จริง ๆ มึงจัดแจงเอาสมบัตินั้นไปขาย แล้วโอนเงินเข้าบัญชีมา ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กูจะไม่ไปขุดอะไรให้มึงได้สร้างกุศลอีกแล้ว..!"

ในเมื่ออยู่ในลักษณะนี้ เขาก็เลิกหลอกเราไปโดยปริยาย เพราะรู้ว่าเราเข็ดและไม่ทำตามแล้วอย่างแน่นอน
ไม่เช่นนั้นก็ต้องเสียเวลาไปหาโน่น ไปหานี่ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่วิเศษเลิศลอยทั้งสิ้น แต่ว่าสิ่งที่เขาไม่ได้สอนให้เราหาเลยก็คือ การปฏิบัติเพื่อมรรคผลของตนเอง..!

ดังนั้น..จึงขอพูดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งว่า อันดับแรกเลย มโนมยิทธินั้นเราเห็นจริง แต่เรื่องที่เราเห็นนั้นไม่แน่ว่าจะจริง อย่าได้ปักใจเชื่อเป็นอันขาด เพราะว่าสิ่งนี้เป็นมีดสองคมที่อันตรายสุด ๆ ถ้าหากว่าเราใช้ผิดเมื่อไร โอกาสจะเข้าถึงมรรคผลจะหายไปทันที เพราะว่าจะโดนหลอกให้วนเป็นปูขาเก ไม่ได้ไปไหนอยู่ตรงนั้นเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2025 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว