 
| 
			 
			#1  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|  เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๘ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๘ 
				__________________ มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) | 
| สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#2  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๙ ตุลาคม พุทธศักราช  ๒๕๖๘ เมื่อคืนช่วง ๕ ทุ่มเศษ มีฝนตกลงมาทั้ง ๆ ที่เป็นฤดูหนาว ส่วนตัวกระผม/อาตมภาพนั้นป่วยล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว..! เนื่องเพราะว่าร่างกายมีเชื้อมาลาเรียอยู่ ทำให้ไวต่อการเปลี่ยนแปลงจากสภาพอากาศมากกว่าคนอื่น รู้สึกล่วงหน้าก่อนถึง ๒ - ๓ วัน ครั้นเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้าแล้ว ก็ออกบิณฑบาตตามปกติ ญาติโยมหลายท่านบ่นว่า "หายหน้าไปนานมาก..!" กระผม/อาตมภาพแจ้งว่า "แค่ไปภูฏานมา ๕ วันเท่านั้น" ก็ยังมีเสียงต่อว่ามาอีกว่า "รู้สึกว่านานกว่านั้นมาก..!" แบบนี้กระผม/อาตมภาพก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน..! ครั้นกลับมาฉันเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เดินทางไปยังธนาคารกรุงไทย สาขาทองผาภูมิ เพื่อทำการซื้อแคชเชียร์เช็ค สำหรับทอดกฐินปลดหนี้ ที่วัดน้อย (หลวงพ่อเนียม) อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งญาติโยมทั้งหลายได้ร่วมบุญในการบูชาพระสมเด็จคำข้าวมหาลาภปลดหนี้ ๒ แผ่นดินมา เป็นจำนวน ๒,๕๖๖,๑๕๐ บาท การทอดกฐินปลดหนี้ประจำปี ๒๕๖๘ นี้ จะมีขึ้นที่วัดน้อย (หลวงพ่อเนียม) ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่เนียม ครูบาอาจารย์ใหญ่ในสายกรรมฐานของเราเคยเป็นเจ้าอาวาสมาก่อน และในปัจจุบันนี้ พระครูสามารถ - ท่านพระครูขันติวรานุสิฐ (สามารถ ขนฺติวโร) เจ้าอาวาสวัดน้อย เจ้าคณะตำบลโคกคราม เขต ๒ ท่านก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ของกระผม/อาตมภาพด้วย ต้องบอกว่าความสัมพันธ์หลายชั้นหลายเชิง ไม่ว่าจะเป็นบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์ อะไรก็ตามที เมื่อถึงวาระที่สมควรจึงต้องกลับไปสนองคุณครูบาอาจารย์ของเรากัน ญาติโยมท่านใดต้องการจะไปร่วมบุญกฐินปลดหนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ ๓๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ ในเวลาไม่เกิน ๑๐ โมงเช้า ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางไปที่วัดน้อยด้วยตนเอง กระผม/อาตมภาพจะไปนั่งรับศรัทธาญาติโยมอยู่ที่นั่น จนกระทั่งทอดกฐินและฉันเพลเสร็จถึงจะเดินทางกลับ 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:28 | 
| สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#3  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			ท่านใดที่จ้องหาโอกาสมานานก็ดี หรือว่าท่านใดที่มีศรัทธาในตัวหลวงปู่เนียมก็ตาม ถือว่าเป็นวาระที่สมควรจะไปกราบเท้าครูบาอาจารย์ของเรากันได้แล้ว ท่านใดมีความพร้อมก็เดินทางไปภายในไม่เกิน ๑๐ โมงเช้า ของวันศุกร์ที่ ๓๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เนื่องเพราะว่าถ้าช้า เมื่อทำการกรานกฐินไปแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะร่วมบุญในกองกฐินได้อีก กระผม/อาตมภาพได้รับคำถามอยู่เสมอว่า "ทำไมไม่ทอดกฐินปีละ ๗ วัด ๙ วัด ? เพราะว่าบุญกฐินนั้นเป็นสังฆทานพิเศษ มีอานิสงส์มาก" กระผม/อาตมภาพเคยเรียนถวายพระและแจ้งแก่ญาติโยมไปหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า ในปัจจุบันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างราคาแพงไปหมด อย่างเช่นงวดนี้ เราได้เงินประมาณ ๒ ล้าน ๕ แสนบาทเศษ ถ้าหากว่าแบ่งเป็นกฐิน ๙ วัดก็เหลือวัดละไม่ถึง ๓ แสนบาท จะสร้างส้วมให้สำเร็จยังยากเลย..! ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงขอทอดกฐินแค่ปีละวัดเดียว เพื่อที่ว่าเงินก้อนใหญ่ถมลงไป จะได้ "เห็นหน้าเห็นหลัง" กันไปเลย ต่อให้เขาทำงานที่ตั้งใจไว้ไม่สำเร็จ ก็เหลืออีกไม่มากนัก หรือว่าวัดไหนที่มีหนี้สินอยู่ ก็จะได้ปลดหนี้ของตนเองลงไปในครั้งเดียวไปเลย หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เพื่อเยี่ยมสนามอบรมนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) ประจำปี ๒๕๖๘ ที่ทำการอบรมก่อนสอบตั้งแต่วันที่ ๒๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ รวมเป็นเวลา ๑๐ วัน เมื่อฉันเพลร่วมกับพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙, ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) แล้ว ก็ได้ออกไปเดินดูร้านค้าต่าง ๆ เพราะว่ายังไม่ได้เวลาเข้าอบรมตอนบ่าย ปรากฏว่าเจอคุณสมชาย กล้าหาญ ที่คุ้นเคยกัน คุณสมชายบอกว่า "หลวงพ่อครับ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้วครับ..!" กระผม/อาตมภาพก็ถามว่า "ปาฏิหารย์อะไรของคุณ ?" คุณสมชายเปิดไอแพดแล้วเขี่ยรูปให้ดู จากท้องนาที่แห้งแล้งกรอบเกรียม ตอนนี้กลายเป็นต้นข้าวเขียวขจีสูงเกือบศอกแล้ว..! 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:31 | 
| สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#4  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			เรื่องนี้เกิดจากอนุสนธิที่ว่าคุณสมชายได้มาปรึกษาพูดคุยในลักษณะปรับทุกข์ว่า ที่บ้านนอกจากน้ำท่วมแล้ว ข้าวที่ปลูกไว้ยังโดนเพลี้ยลงอีกต่างหาก ดูท่าว่าความเสียหายในระดับนี้ ปีนี้คงจะไม่เหลือข้าวเอาไว้กินหรือเอาไว้ขายเลย..! กระผม/อาตมภาพนึกขึ้นมาได้จึงบอกว่า อีกไม่กี่วันทางวัดจะจัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ในงานนั้นกระผม/อาตมภาพจะกราบขอบารมีพระท่านเสก "น้ำมนต์เสาร์ ๕" เอาไว้ ถ้าคุณสมชายได้ไปร่วมงาน หรือมีพรรคพวกเพื่อนฝูงไป ก็ให้บูชาน้ำมนต์เสาร์ ๕ มา แล้วก็เอาไปผสมกับน้ำ ทำการฉีดพ่นให้ทั่วไร่นาของตนเอง กราบขอบารมีพระ พรหม เทวดา ตลอดจนครูบาอาจารย์ของเรา อนุเคราะห์สงเคราะห์ขอให้สิ่งไม่ดีไม่งามที่เกิดขึ้นนี้ หมดสิ้นลงไป แล้วให้สิ่งที่ดีงามเจริญงอกเงยขึ้นมาแทน โดยยกตัวอย่างคุณยายไล้ คชภูมิ ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี คุณยายไล้ทำไร่อ้อยประมาณ ๒๐๐ ไร่ แล้วก็โดนเพลี้ยลงไร่อ้อยเหมือนกัน เมื่อไปปรับทุกข์กับหลวงพ่อฤๅษีฯ ที่วัดท่าซุง หลวงพ่อท่านก็บอกให้บูชาน้ำมนต์เสาร์ ๕ ไป ผสมน้ำแล้วทำการฉีดพ่นให้ทั่วไร่ เมื่อหายไปไม่นาน คุณยายไล้ก็มาแจ้งว่าได้ผลดีอย่างที่ต้องการ เพลี้ยทั้งหลายหายหมดสิ้น อ้อยเจริญงอกงามดี..! เมื่อหลวงพ่อท่านถามว่า "โยมทำอย่างไร ?" กระผม/อาตมภาพได้ยินคุณยายไล้ตอบหลวงพ่อฤๅษีฯ แล้วก็ยังขำมาก คุณยายไล้บอกว่าตั้งถัง ๒๐๐ ลิตรไว้ที่หัวไร่ เสร็จแล้วก็เปิดน้ำมนต์เสาร์ ๕ เทใส่ฝาขวด หยอดลงไปในถัง ๒๐๐ ลิตรถังละ ๒ ฝา อธิษฐานขอบารมีพระ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ช่วยสงเคราะห์ดังที่เมื่อครู่นี้ได้กล่าวมา แล้วคุณยายไล้ยังทำเพิ่มเติมอีก ก็คือ เมื่อเดินฉีดน้ำมนต์ไปในไร่ ก็นึกถึงภาพหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เดินลุยเข้าไปในไร่ด้วย ปรากฏว่าได้ผลดีอย่างที่คิดไม่ถึง แต่ที่กระผม/อาตมภาพขำมากก็เพราะว่า คุณยายหวงน้ำมนต์เหลือเกิน ถังใบละ ๒๐๐ ลิตรใส่น้ำมนต์ลงไปแค่ฝาเดียว ซึ่งก็คงไม่ถึง ๑๐ ซีซีเท่านั้น แต่ว่าได้ผลมหาศาล 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:34 | 
| สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
			 
			#5  
			
			
			
			
			
		 | ||||
| 
 | ||||
|   
			
			ส่วนทางด้านคุณสมชาย กล้าหาญนั้น เมื่อนำเอาน้ำมนต์ไปให้ภรรยาทางบ้านแล้ว ก็บอกว่า "ยายหนู..เธอจัดการผสมน้ำมนต์ให้เรียบร้อย เดี๋ยวพ่อเข้าบ้านไปทำธุระหน่อยแล้วจะออกมา" เมื่อเสร็จธุระในบ้านออกมา ปรากฏว่าไม่เห็นน้ำมนต์เลย ก็ถามว่า "น้ำมนต์อยู่ไหน ?" ภรรยาตอบว่า "ขวดอยู่ในรถ" คุณสมชายก็ไปเปิดรถดู ปรากฏว่าน้ำมนต์ ๑๒ ขวด (๑ แพ็ก) เหลือแต่ขวดเปล่า ๆ..! ทำเอาคุณสมชายออกท่าจะเป็นลม บอก  "อีหนูเอ๊ย..ใช้สิ้นเปลืองขนาดนี้ หลวงพ่อท่านจะทำอีกทีก็ปีหน้า แล้วถ้าพระไม่อนุญาตก็ไม่รู้ว่าท่านจะได้ทำหรือเปล่า..!?" เล่นเอาภรรยาทำท่าตกใจ  ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ต้องเลยตามเลย ทำการฉีดพ่นน้ำมนต์จนทั่วนาของตนเอง แล้วตอนนี้นอกจากเพลี้ยจะหายแล้ว ข้าวกล้ายังงอกงามดี สูงเกือบศอกอย่างที่ถ่ายรูปมาให้ดู แล้วก็เขียวขจีน่าชื่นใจมาก เรื่องนี้จัดว่าเป็นอจินไตยอย่างหนึ่ง ซึ่งพวกเราที่ไม่มีประสบการณ์ก็ยากที่จะเชื่อถือ แต่บุคคลที่มีประสบการณ์แล้วก็จะเชื่อถือมาก และถ้ามีประสบการณ์บ่อย ๆ ก็จะเชื่อถือมากยิ่ง ๆ ขึ้นไป เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่บุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์ของแต่ละคน เนื่องเพราะว่าถ้าในอดีตไม่เคยสร้างบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์ร่วมกันมา ท่านก็ไม่ไปทางโน้นทางนี้ อย่างที่เขาเรียกกันว่า "สายหลวงพ่อนั้น" "สายหลวงพ่อนี้" แต่ถ้ามีบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์กันมา ก็จะไปตามสายบุญสายกรรมของตนเอง แต่หลายท่านก็เกิดมาก เกิดบ่อย สร้างบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์เอาไว้มาก ถึงเวลาก็สามารถที่จะไปเสียทุกสายได้เหมือนกัน..! จึงขอนำมาเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนว่า บางทีบางสิ่งบางอย่างที่เราแก้ไขด้วยวิธีปกติไม่ได้ ก็ต้องหันมาใช้ "วิธีมู" อย่างที่เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ว่ากันอยู่เหมือนกัน..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) 
				__________________ ........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:37 | 
| สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|  | 
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| 
 | 
 |