กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-05-2025, 17:37
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,996
ได้ให้อนุโมทนา: 225,467
ได้รับอนุโมทนา 803,964 ครั้ง ใน 39,535 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-05-2025, 23:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,570
ได้ให้อนุโมทนา: 158,391
ได้รับอนุโมทนา 4,485,863 ครั้ง ใน 36,179 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพฝ่าฝนที่ตกเป็นฟ้ารั่วไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรับรางวัลพระเกี้ยวธรรมจักร ของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งสมาคมนี้จัดตั้งมาแล้ว ๓๗ ปี เพิ่งมีการมอบรางวัลกันเป็นครั้งแรก

กระผม/อาตมภาพได้รับการติดต่อจาก รศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช ซึ่งเป็นอาจารย์ที่สอนกระผม/อาตมภาพมา ตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท มาจนถึงปริญญาเอก ท่านเมตตาทำประวัติและมอบรางวัลให้ โดยที่กระผม/อาตมภาพเองไม่ต้องเหนื่อยยากอะไรเลย นอกจากส่งรูปไปให้ท่านรูปเดียวเท่านั้นเพื่อประกอบประวัติ

ทางด้านสมาคมศิษย์เก่ายังได้รับพระเมตตาจากพลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึก ยุคล มาเป็นองค์ประธานในพิธี โดยมีพระเถรานุเถระซึ่งได้เข้ารับรางวัลด้วยกันในครั้งนี้จำนวน ๖๘ รูป ที่เหลือเป็นฆราวาส รวมแล้วทั้งสิ้น ๒๒๓ รูป/คน

ในเรื่องของการรับรางวัลนั้น ถ้าเป็นไปได้ กระผม/อาตมภาพจะเดินทางไปรับด้วยตนเองทุกครั้ง เนื่องเพราะถือว่าทางผู้มอบให้เกียรติเรา ทางเราก็ควรที่จะให้เกียรติแก่ผู้มอบรางวัลด้วย ส่วนนี้เป็นการถือปฏิบัติส่วนตัวของกระผม/อาตมภาพเอง ท่านใดที่สบายใจในการมอบให้ตัวแทนไปรับก็แล้วแต่ท่าน แต่กระผม/อาตมภาพถือมารยาทที่ว่า ผู้ให้ย่อมได้รับการให้ตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2025 เมื่อ 00:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-05-2025, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,570
ได้ให้อนุโมทนา: 158,391
ได้รับอนุโมทนา 4,485,863 ครั้ง ใน 36,179 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าในงานนั้นมีเพื่อนฝูงจำนวนมากที่คุ้นเคยกันได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย ถ้านับในองค์กรพระอุปัชฌาย์ ๕๑ ที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานอยู่ ก็มีหลวงพ่อเจ้าคุณเชาวลิต (พระวชิรปัญญากร) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) พระครูสิทธิวัฒนคุณ (พรพรหม ฐิตคุโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตตลิ่งชัน เจ้าอาวาสวัดกระจัง เป็นต้น

ส่วนในระดับครูบาอาจารย์นั้น ปรากฏว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิต - พระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ., รศ.ดร. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ. ๙) ผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านนั่งรถเข็นมา กระผม/อาตมภาพเข้าไปกราบเรียนถามสุขภาพว่าเป็นอย่างไรบ้าง ? ท่านบอกว่า "ใช้ไปซ่อมไป" ซึ่งท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิตท่านออกบิณฑบาตทุกวัน และฉันอาหารมื้อเดียว

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่ออายุกาลผ่านวัยมากขึ้น สารอาหารน่าจะไม่พอเพียง ร่างกายก็เลยออกอาการประท้วงแบบนี้ กระผม/อาตมภาพจึงเรียนบอกท่านว่า "ใช้ร่างกายแบบเดียวกับผมเลยครับ" เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองไม่เคยนึกว่าจะมีวันพรุ่งนี้ ดังนั้น..จึงทำหน้าที่วันนี้ให้ดีที่สุดอยู่เสมอ ท่านเจ้าคุณอาจารย์ไม่พูดอะไร แต่จับมือแล้วบีบกลับชนิดที่ว่าแรงมาก..!

เมื่อรับรางวัลเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวกับทุกคนเดินทางกลับวัดท่าขนุน ซึ่งระยะทางนอกจากจะไกลแล้ว ยังมีการซ่อมถนนในทุกเส้นทาง แถมฝนฟ้าก็ตกกระหน่ำอย่างชนิดไม่เกรงใจคนเดินทาง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะถึงวัดกี่โมงกี่ยามกันแน่ ?!

วันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคมนี้ทางวัดท่าขนุนจะมีงานใหญ่ คือการบวงสรวงไหว้ครูประจำปี และเป่ายันต์เกราะเพชร
ซึ่งจะมีญาติโยมเดินทางไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ได้บอกกับทุกคนไปจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า
การรับยันต์เกราะเพชรนั้น ถ้าเรามีจิตศรัทธา จะรับในบริเวณไหนของโลกนี้ก็ได้

แต่ก็เป็นเรื่องแปลกว่า ญาติโยมบางท่านรับยันต์ที่บ้านแล้ว ปรากฏอาการอย่างชัดเจนว่ารับได้ ครั้งต่อไปก็ไปรับที่วัดท่าขนุน..! เป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพ "หัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก" ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าท่านอยู่ในอารมณ์ไหน ในเมื่อสามารถที่จะรับได้ แล้วทำไมถึงยังอุตส่าห์เดินทางไกลไปถึงวัดท่าขนุน ? พูดง่าย ๆ ว่าถ้าท่านอยู่แค่กรุงเทพมหานคร การเดินทางไปวัดท่าขนุน ก็ต้องใช้เวลาประมาณ ๔ ชั่วโมง แล้วท่านรับที่บ้านได้อย่างนั้น กลับต้องการจะไปรับที่วัด เพื่อความแน่ใจหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2025 เมื่อ 00:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-05-2025, 23:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,570
ได้ให้อนุโมทนา: 158,391
ได้รับอนุโมทนา 4,485,863 ครั้ง ใน 36,179 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของยันต์เกราะเพชรนั้น ความจริงก็คือบารมีของพระพุทธเจ้า ท่านใดที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน แล้วกระผม/อาตมภาพเคยนำท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมช่วงเช้า ลักษณะของการรับยันต์เกราะเพชร กระผม/อาตมภาพก็อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าท่าน ช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ ลักษณะคล้ายคลึงกับการแผ่เมตตาในกรรมฐานช่วงเช้านั่นเอง

ก็คือแผ่จิตคลุมไปทั้งโลก ในกรรมฐานช่วงเช้ายังแผ่จิตคลุมไปทั่วสากลจักรวาลด้วย ดังนั้น..ถ้าใครซักซ้อมเอาไว้บ่อย ๆ ท่านสามารถที่จะใช้ในการปลุกเสกวัตถุมงคลต่าง ๆ ได้ เพียงแต่ว่าอาราธนาบารมีพระให้เป็นเท่านั้น


บางเรื่องท่านทั้งหลายต้องรู้จักสังเกตเอง ไม่ใช่รอให้ครูบาอาจารย์มาคอยบอกอย่างเดียว กระผม/อาตมภาพเองนั้น มักจะออกนอกลู่นอกทางของครูบาอาจารย์อยู่เสมอ อย่างเช่นว่าการฝึกมโนมยิทธิ เมื่อมีความคล่องตัวแล้ว หลังจากที่แวะจุฬามณีเจดียสถานก็ดี แวะกราบท่านผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น ในพรหมทั้ง ๑๖ ชั้นก็ตาม เมื่อถึงเวลานานไป ๆ สภาพจิตก็ไม่อยากจะแวะที่ไหน นอกจากพระนิพพานแห่งเดียว

กระผม/อาตมภาพจึงใช้วิธีขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน แล้วน้อมจิตอัญเชิญพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณในอดีตชาติทั้งหมด ซึ่งอยู่ในสุคติภูมิ ขึ้นมารับการกราบที่บริเวณเบื้องหน้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมกัน

กระผม/อาตมภาพทำแบบนี้อยู่หลายปี แล้วเกิดความรู้สึกว่า "กูเพี้ยนไปหรือเปล่า ? มีใครทำแบบนี้บ้าง ? แล้วเทวดา นางฟ้า พรหม ท่านสามารถไปพระนิพพานได้ด้วยหรือ ?" จนกระทั่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านมาเล่าในวาระท้าย ๆ ของชีวิต ในเรื่องของการชวนเทวดา นางฟ้า พรหม ไปพระนิพพาน กระผม/อาตมภาพจึงได้รู้ว่าตนเองนั้น "ขี้ตรงร่อง" ตามสำนวนโบราณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2025 เมื่อ 00:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-05-2025, 23:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,570
ได้ให้อนุโมทนา: 158,391
ได้รับอนุโมทนา 4,485,863 ครั้ง ใน 36,179 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อไปสอบถามท่านปู่พระอินทร์ ท่านบอกว่า "เทวดา นางฟ้า พรหม ท่านมีความเป็นทิพย์ สามารถที่จะไปยังเขตแดนไหนก็ได้ แต่ถ้าเป็นเขตแดนที่สูงกว่าสภาพภพภูมิของท่าน ต้องได้รับการเชิญหรือว่าได้รับการอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็ไม่สามารถที่จะไปได้" กระผม/อาตมภาพทำในลักษณะแบบนี้ เรียกง่าย ๆ ว่า "ออกนอกลู่นอกทาง" อยู่เสมอ แต่ก็มักจะออกนอกลู่นอกทางแล้วไปได้ดีภายหลัง

แม้กระทั่งเรื่องของพระคาถาเงินล้าน กระผม/อาตมภาพภาวนาพระคาถา "สัมปฏิจฉามิ สัมปะจิตฉามิ" ต่อเนื่องกันมาหลายปี เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกพระคาถาเงินล้าน มี "สัมปฏิจฉามิ" อยู่ด้วย กระผม/อาตมภาพก็เพิ่ม "สัมปะจิตฉามิ" เข้าไปด้วย ในเมื่อทำเช่นนั้นมาหลายปี แล้วพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็มาเพิ่ม "สัมปะจิตฉามิ" ให้ทีหลัง กลายเป็น "ขี้ตรงร่อง" ไปตามเดิม..!

จึงอยากจะเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายว่า การฝึกกรรมฐาน อะไรที่เราคิดว่าเป็นของดีทำไปเถอะ อย่ากลัวผิด อย่ากลัวพลาด ถ้าหากว่าผิดหรือพลาด เดี๋ยวครูบาอาจารย์ท่านก็ฟาดกบาลเราเอง..! เพียงแต่ท่านทั้งหลายต้องหัดเป็นเด็กสู้ครูแบบกระผม/อาตมภาพบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่กล้าทำอะไร มัวแต่รอครูบาอาจารย์บอกอยู่อย่างเดียว ในลักษณะแบบนั้น กระผม/อาตมภาพถือว่ายังเอาตัวไม่รอด ต้องรู้จัก "แหกคอก" "ออกนอกลู่นอกทาง" ไปบ้าง โดยที่เท้าข้างหนึ่งเหยียบเส้นเอาไว้ก็พอ ถ้าอยู่ในลักษณะแบบนี้ โอกาสที่ท่านจะทำแล้วได้ดีก็มีสูง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2025 เมื่อ 00:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว