เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

[ตัวเล็ก]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพฝ่าฝนพรำออกบิณฑบาต การขาดบิณฑบาตหลาย ๆ วัน บางทีญาติโยมซึ่งยึดติดในตัวบุคคล พอเห็นว่าหลวงพ่อวัดท่าขนุนมาก็ดีอกดีใจ บางคนเกิดปีติ ถึงขนาดสั่นไปทั้งตัวเลยก็มี..!

จะว่าไปแล้ว ในเรื่องของการบิณฑบาตในเบื้องต้นนั้น สิ่งที่ญาติโยมจะได้เลยก็คือสังฆานุสติ เพราะว่าถ้าถือตามบาลีก็คือ สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง อีกส่วนหนึ่งก็คือ ท่านที่ใส่บาตรเป็นประจำก็จะได้ในจาคานุสติ และทานบารมีด้วย

เมื่อกลับมาแล้ว กระผม/อาตมภาพไม่ได้ร่วมฉันเช้ากับคณะพระภิกษุสงฆ์วัดท่าขนุน คว้าข้าวกล่องได้ก็กลับไปยังสำนักงานเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ฉันเสร็จก็แต่งตัว แล้วให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พาวิ่งไปยังโรงเรียนบ้านอูล่อง หมู่ที่ ๔ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมการประเมินนักเรียนเพื่อรับรางวัลพระราชทาน โดยเด็กหญิงณัฐณิชา สุดแสวง หรือว่าน้องเคท เด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ ๖ ของโรงเรียนบ้านอูล่อง ซึ่งเป็นเด็กที่เคยทำกิจกรรมร่วมกับทางสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิมาตั้งแต่ต้น เป็นผู้ได้รับการประเมินในระดับประถมศึกษาขนาดกลางของปีนี้

คณะกรรมการตรวจประเมิน ซึ่งนำโดยท่านสมควร รัชตวิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต ๒ เมื่อเจอหน้าก็ยังอุทานว่า "พบกันอีกแล้ว" เหตุเพราะว่าในช่วง ๓ - ๔ ปีที่ผ่านมานั้น มีการตรวจประเมินนักเรียนเพื่อรับรางวัลพระราชทาน ตลอดจนกระทั่งการตรวจประเมินสถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทานมา ๔ ปีต่อเนื่องกัน คณะกรรมการจึงมีการซ้ำหน้ากันบ้าง

โดยเฉพาะทางด้านโรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น ได้รางวัลนักเรียนพระราชทานระดับโรงเรียนมัธยมขนาดกลาง ๒ ปีติดกัน โดยน้องเอิ๊ก (นางสาวสุคนธา อินนะสถิต) และน้องบัว (นางสาวอัจฉรานันท์ วงศรีรัตนชัย) ปีต่อมายังได้รางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทานอีกด้วย..!

ปีนี้กระผม/อาตมภาพก็มาให้กำลังใจน้องเคท ซึ่งถ้าหากว่าได้รับรางวัลก็จะเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก เพราะว่าเท่ากับรางวัลพระราชทานจะตกอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีถึง ๔ ปีติดต่อกัน..!

[เถรี]

เมื่อได้กล่าวคำนิยมให้แก่ทางคณะกรรมการและผู้เข้าร่วมการตรวจประเมินแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องขอตัว ให้น้องเล็กพาวิ่งไปยังวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร เนื่องเพราะวันนี้มีการเปิดฝึกซ้อมอบรมผู้เข้าสอบความรู้เพื่อเป็นพระอุปัชฌาย์ ประจำปี ๒๕๖๘ ของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี และสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ ประจำปี ๒๕๖๘ ของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทางวัดท่าขนุนได้ส่งผู้เข้าสอบความรู้เป็นพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ ๔ รายด้วยกัน ปรากฏว่าวิ่งไปกลางทางก็เพลเสียก่อน จึงได้แวะสถานบริการน้ำมันเจ้าประจำ สั่งอาหารกล่องจากร้านสะดวกซื้อมาฉันตามปกติ

ญาติโยมอาจจะคิดว่าหลวงพ่อเล็กท่านจะต้องนั่งร้านหรู จะต้องสั่งอาหารประมาณว่า "เชลล์ไม่เคยชิม" อะไรประมาณนั้น ขอให้ทราบว่าทุกท่านคิดผิด โดยเฉพาะถ้าไปนึกถึงคำพูดของคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ประธานกรรมการบริษัทเอ็นซีทัวร์ ที่บอกว่า "หลวงพ่อเล็กเป็นพระที่ฉันง่ายที่สุดในโลก" แล้วท่านทั้งหลายก็คงจะนึกภาพออก คำว่าร้านหรู อาหารแพง อาหารอร่อย สำหรับกระผม/อาตมภาพแล้วไม่ต้องคำนึงถึง ฉันไปก็เพื่อรักษาธาตุขันธ์เอาไว้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพระพุทธศาสนาเท่านั้น..!

เสร็จแล้วก็ตรงไปยังวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร พอดีได้เวลาในการเรียกรวมบรรดาผู้เข้าฝึกซ้อมอบรมเพื่อสอบความรู้เป็นพระอุปัชฌาย์ และผู้เข้าสอบเป็นพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ เข้าสู่ห้องเรียน

กระผม/อาตมภาพเข้าไปให้กำลังใจ "ว่าที่พระอุปัชฌาย์" เสียก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ออกมาบรรยายถวายความรู้ ให้ข้อคิดแก่ผู้เข้ารับการสอบเป็นพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าพระคู่สวด ซึ่งต้องบอกว่าเป็นกำลังสำคัญของพระอุปัชฌาย์ ในการที่จะช่วยอบรมตลอดจนกระทั่งดูแลผู้เข้ามาอุปสมบท เมื่อให้ข้อคิดเสร็จเรียบร้อย พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านก็ได้มอบตราตั้งพระคู่สวดให้กับผู้เข้าสอบในปีนี้ ซึ่งสอบตกไปหลายราย..!

แต่ว่าของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิในส่วนของวัดท่าขนุน ไม่ว่าจะเป็นพระมหาอินทรปกรณ์ ฐิตสุโภ ป.ธ. ๔ เลขานุการเจ้าคณะตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ พระยุทธพิชัย กลฺยาโณ เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ พระมหาพัฒน์ ฐิตาจาโร ป.ธ. ๓ เลขานุการเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน และพระอัศนีย์ โฆสทินฺโน พระฝ่ายสาธารณูปการของวัดท่าขนุน ล้วนแล้วแต่สอบผ่านทั้งสิ้น

รวมทั้งพระอธิการวิชัย ปภสฺสโร เจ้าอาวาสวัดสะพานลาวประชาสรรค์ ที่เพิ่มขึ้นมาอีก ๑ รูปด้วย จนกระทั่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. ยังกล่าวสัมโมทนียกถาว่า "ถ้าชื่อว่าวัดท่าขนุนแล้ว ก็รับประกันได้ว่าพระภิกษุสามเณรมีคุณภาพอย่างแน่นอน"

[เถรี]

เมื่อถ่ายรูปหมู่รวมกันแล้ว ยังมีการถ่ายรูปหมู่รวมกับผู้เข้าฝึกซ้อมอบรมความรู้เพื่อเข้าสอบเป็นพระอุปัชฌาย์ด้วย หลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็ต้องเป็นตัวแทนหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีที่ท่านติดศาสนกิจ ไปบรรยายถวายความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับการบรรพชาอุปสมบทที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมฝึกซ้อมเพื่อสอบเป็นพระอุปัชฌาย์ประจำปีนี้

กระผม/อาตมภาพยืนบรรยายอยู่ ๒ ชั่วโมงทั้ง ๆ ที่เป็นไข้..! แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ในเมื่อเราทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ หรือว่าเพื่อคณะสงฆ์อย่างหนึ่ง เราได้ถวายความรู้อันเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระธรรมวินัยที่ถูกต้องอีกอย่างหนึ่ง กำลังของพระ ของพรหม ของเทวดา ของครูบาอาจารย์ท่านก็แผ่ลงมาช่วยเหลือ ทำให้กระผม/อาตมภาพมีเรี่ยวมีแรงและสุ้มเสียงคึกคักเข้มแข็ง สามารถทำการสวดเป็นตัวอย่างให้ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมกับอธิบายประกอบอยู่ตลอดทั้ง ๒ ชั่วโมง โดยเฉพาะปล่อยให้ทุกท่านซักถามเป็นระยะ ๆ ไป และตอบคำถามทุกอย่างที่เขาข้องใจอย่างกระจ่างแจ้ง

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าน้องเล็กที่กรำงานมาหลายวันและเป็นไข้เช่นกัน เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้ว ก็หลบไปนอนพัก ส่วนบรรดาผู้เข้ารับการฝึกซ้อมอบรมเพื่อสอบเป็นพระอุปัชฌาย์ก็ประมาท ไม่มีใครบันทึกเสียงเอาไว้แม้แต่คนเดียว ไม่เช่นนั้นจะมีตัวอย่างของการสวดกรรมวาจาอุปสมบทที่ถูกต้อง ซึ่งกระผม/อาตมภาพศึกษาและรับการถ่ายทอดมาพระเดชพระคุณหลวงปู่ชุ้น - พระธรรมเสนานี (ชุณห์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะกู อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ซึ่งถือว่าเป็นแบบอย่างที่บรรดาครูบาอาจารย์ทุกรูปใช้ในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ และมั่นใจว่ากระผม/อาตมภาพรับการถ่ายทอดมาอย่างครบถ้วนที่สุด..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อไรกระผม/อาตมภาพถึงจะมีโอกาสเช่นนี้อีก ประการแรกก็คือร่างกายเฒ่าชะแรแก่ชราลงไปทุกวัน จะมีกำลังในการยืนบรรยายจนครบ ๒ ชั่วโมงแบบนี้อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ประการที่สอง สุ้มเสียงจะได้รับการช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์ ให้ทำในเรื่องการสวดเหล่านี้โดยถูกต้องอักขระฐานกรณ์ และความชัดเจนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นกรรมวาจาวิบัติอีกหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ..?!

[เถรี]

เมื่อจบการบรรยายและตอบข้อซักถามแล้ว กระผม/อาตมภาพเกือบจะเดินออกจากห้องบรรยายไม่ไหว..! เนื่องเพราะว่าความแก่ชรา ทำให้รู้สึกว่าแข้งขาแข็งไปหมด ส่วนบรรดาผู้เข้ารับการฝึกซ้อมอบรมงวดนี้ทั้งหมด ก็ฟังกันเพลิดเพลินเจริญใจ ลืมเรื่องของการฉันน้ำปานะ หรือว่าเข้าห้องน้ำห้องส้วมไปเลย..!

กระผม/อาตมภาพกราบลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณทองดำ - พระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ. ๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร ซึ่งเป็นเจ้าของงานในวันนี้ แล้วให้น้องเล็กพาวิ่งกลับไปยังวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (ท่ามะขาม) เพื่อบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเสียก่อน เสร็จแล้วก็คงจะต้องฉันยาและสลบไสลไม่ได้สติ เนื่องเพราะว่าเป็นการใช้กำลังจนเกินไป ในระหว่างที่ทรงสมาธิอยู่ก็จะไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ถ้าคลายสมาธิออกเมื่อไร บางทีก็อาจจะถึงกับล้มทั้งยืน..!

จึงเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ดังนั้น..สิ่งแรกเลยก็คือต้องยึดภาพพระเป็นหลักเอาไว้ ตายเมื่อไรขอไปอยู่ที่พระนิพพานกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งเดียวเท่านั้น..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)