กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-02-2025, 17:07
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,945
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,458 ครั้ง ใน 39,364 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 24-02-2025, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพต้องทำหน้าที่แทนพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ซึ่งหนีไป "มู" ที่ฮ่องกง ด้วยการทำบวงสรวงขออนุญาตจัดงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ความจริง กระผม/อาตมภาพขอยกเลิกงานครั้งนี้ แต่ว่า ผศ.,ดร.พระครูโรจน์ของเราไม่ยอม ส่งทีมงานมาจัดการงานทุกอย่างเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว

ในส่วนที่เหลือก็ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพ หลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร และพระครูโก้ (พระครูสังฆรักษ์ฬัสวัชร์ ฐิตสีโล) ประธานสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพาราม จังหวัดชลบุรี รับภาระหน้าที่ในการนำญาติโยมทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ

โดยที่กระผม/อาตมภาพนั้นมาลาเรียขึ้นสมองเสียตั้งแต่เช้า เนื่องเพราะว่าอากาศเปลี่ยนรุนแรงมาก มีฝนตกด้วย หลายท่านบอกว่าเป็นฝนเทียมที่รัฐบาลทำเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ "ใคร่หัว" ตามภาษาอีสาน เนื่องเพราะว่ารัฐบาลมัวแต่ห่วงว่าจะรักษาเก้าอี้ของตัวเองอย่างไร ไหนเลยจะมีอารมณ์มาทำฝนเทียมเพื่อที่จะลดฝุ่น PM 2.5 แบบนี้..!

โดยเฉพาะบรรยากาศที่มืดมัวไปหมดแบบนี้ ก็คือพายุฝนเกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่ฝนเทียมซึ่งฟ้าใส ๆ ก็ตกลงมาได้ ดังนั้น..ถ้าหากจะ "คอมเม้นท์" อะไรก็กรุณาศึกษาให้ดีก่อน กระผม/อาตมภาพเองทำบวงสรวงเสร็จก็แทบจะมองหน้าใครไม่เห็น หูตาลายไปหมดแล้ว จำได้ว่ามีบุคคลผู้คุ้นเคยก็คือหมอเพชร (ทันตแพทย์เพชรไพฑูรย์ จันทร์ชูเชิด) เพราะว่าจำเสียงได้ ระหว่างที่มาลาเรียขึ้นสมองนี่ไม่ต้องไปจำหน้าใคร..!

เมื่อเข้าไปจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัยและกราบอัฐิของหลวงพ่อศรี (พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์, ดร.) อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยานแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็นำทุกคนสมาทานศีล ๕ แล้วก็เข้าสู่การภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ โดยที่กระผม/อาตมภาพกราบขอบารมีพระปลุกเสกวัตถุมงคลไปด้วย

ปรากฏว่าใช้เวลานานมาก ด้วยความอยากรู้ว่าของอะไรถึงปลุกเสกยากเย็นขนาดนี้ ปรากฏว่าเป็นตัวนับจำนวน ซึ่งปกติแล้วในปัจจุบันนี้มีญาติโยมส่วนหนึ่งใช้แทนลูกประคำ เพราะว่าง่ายดี ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็เห็นว่า
เป็นความมักง่ายที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพไปด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2025 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 24-02-2025, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าการนับลูกประคำนั้น อันดับแรกเลย เป็นการปฏิบัติในอิริยาบถและสัมปชัญญะในมหาสติปัฏฐานสูตร ก็คือไม่ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็มีสติกำหนดรู้ไปด้วย

ลำดับต่อไปก็คือเราภาวนาพระคาถาไปกี่จบ ก็กำหนดนับลูกประคำไปด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สติมากกว่าปกติ เพื่อจดจำในจำนวนพระคาถาที่เราภาวนาไปแล้ว

และถ้าหากว่าแยกจิต แยกกาย ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง ก็กำหนดภาพพระไปด้วย หรือว่าขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพานอย่างที่กระผม/อาตมภาพทำไปด้วยก็ได้


แต่เมื่อมาใช้เครื่องนับแบบสมัยใหม่ ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องจดจำ ทำให้ขาดสติในการภาวนาไปมาก พูดง่าย ๆ ว่าคุณภาพในการภาวนาลดลงไปมากเหลือเกิน เท่านั้นยังไม่พอ หลายคนยังห่วงการไลฟ์สด ห่วงการถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายกระผม/อาตมภาพ หรือว่าเซลฟี่ตัวเองว่ากำลังภาวนาพระคาถาเงินล้าน ซึ่งกระผม/อาตมภาพแม้ว่าจะป่วยจนหูตาลาย แต่ว่าการกำหนดดูกำหนดรู้ผู้คนจำนวนแค่นี้นั้น เป็นเรื่องที่เล็กมาก ดังนั้น..เห็นแล้วก็ได้แต่เวทนาสงสารว่า ญาติโยมอีกกี่ปีกี่ชาติ ถึงจะสามารถภาวนาพระคาถาเงินล้านให้เกิดผลอย่างจริง ๆ จัง ๆ ได้หนอ ?

เนื่องเพราะว่าการใช้พระคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ก็ดี พระคาถาเงินล้านก็ดี อันดับแรกเลย ต้องมีทานเป็นเครื่องรองรับ เนื่องเพราะว่าผลของพระคาถาเงินล้านนั้น มาจากทานเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็ต้องมีศีลบริสุทธิ์ในระหว่างที่ภาวนาอยู่ เพื่อที่จะเสริมในส่วนของสมาธิให้มั่นคงยิ่งขึ้น แล้วสมาธิยิ่งสูงเท่าไร ผลของคาถาก็มีมากเท่านั้น เนื่องเพราะว่าสภาพจิตของเราจะปล่อยวางความอยากรวยลงไปได้

การภาวนาพระคาถาเงินล้าน ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมก็หวังที่จะร่ำรวย แต่คราวนี้การที่ไปตั้งกำลังใจแบบนั้น บรรดาผู้เรียนอภิธรรมเขาใช้คำว่า "จิตประกอบไปด้วยโลภเจตนา" ทำให้มาตัดผลที่จะพึงได้ไปเสียหมด..!

เนื่องเพราะว่าผลที่จะได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องมีกำลังใจที่เป็นกลาง ๆ ถ้าใช้ภาษาอภิธรรมก็คือเป็น "อัพยากฤต" แต่คราวนี้เราไปภาวนาเพราะอยากรวย ซ้ำยังวางกำลังใจไม่ถูกอีกด้วย ก็คือไปมุ่งมั่นจะเอาความรวยเป็นใหญ่ ผลที่จะพึงเกิดจึงเกิดน้อยมาก หรือว่าไม่เกิดเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2025 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 24-02-2025, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หากแต่ว่าบุคคลใด ถ้าตอนก่อนจะภาวนาตั้งใจว่าเราทำเพื่อโภคทรัพย์ก็ดี หรือว่าทำเพื่อผลของพระคาถาจะเกิดอย่างไรก็ตาม แล้วตอนภาวนา เราสามารถที่จะลืมความต้องการนั้นได้ ก็จะทำให้ผลของพระคาถานั้นเกิดได้เร็วกว่า เพราะว่าท่านวางกำลังใจได้ถูกต้อง

คราวนี้การที่ผลของพระคาถาจะเกิดจากการวางกำลังใจที่ถูกต้องก็คือ ท่านจะต้องทรงสมาธิให้เป็นอัปปนาสมาธิ เมื่อถึงตอนนั้น กำลังของ รัก โลภ โกรธ หลง จะโดนสมาธิกดดับลงชั่วคราว สภาพจิตของท่านก็จะผ่องใสจากกิเลส ไม่ได้โลภ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้หลง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผลของพระคาถาจะเกิดได้ง่าย

กระผม/อาตมภาพที่เคยเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราก็ดี บอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายก็ตาม ว่าให้ภาวนาพระคาถาเงินล้านในช่วงนี้ให้ได้วันละ ๑๐๘ จบ ก็เพื่อหวังที่กำลังใจของท่านทั้งหลายก้าวเข้าสู่สมาธิในระดับนี้ ถ้าหากว่าท่านสามารถก้าวสู่สมาธิในระดับนี้ ก็คือจะมีอุเบกขาในอัปปนาสมาธิ ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไปจนถึงฌาน ๔ หรือว่าสมาบัติ ๘ ถ้าหากว่าไม่มีอุเบกขา ท่านไม่สามารถจะเข้าถึงตรงจุดนี้ได้..!

คำว่า "อุเบกขา" ในที่นี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "เอกัคคตารมณ์" คือ อารมณ์ที่ตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียว อยู่ในสมาธิระดับนั้น ๆ ตั้งแต่ระดับปฐมฌานขึ้นไป

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านก็จะถึงพร้อมด้วยทาน ด้วยศีล ด้วยภาวนา ก็แปลว่าท่านเป็นผู้ที่มีปัญญาในการปฏิบัติธรรม ก็คือธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม สามารถที่จะวางกำลังใจเป็นกลางในมัชฌิปมาปฏิปทาได้ ก็คือ ไม่รัก ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง แล้วในขณะเดียวกัน
ถ้าหากว่ามองเห็นทุกข์เห็นโทษของ รัก โลภ โกรธ หลง ได้อย่างแท้จริงแล้วปล่อยวางได้ นั่นจึงจะเป็นผลที่แท้จริง ที่กระผม/อาตมภาพต้องการจากการนำทุกท่านภาวนาพระคาถาเงินล้าน

เนื่องเพราะว่าถ้าถึงในระดับนั้นแล้ว ท่านทั้งหลายก็จะเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ถอนจิตของตนออกมาจากการยึดมั่นถือมั่น ก้าวเข้าสู่ความเป็นกลางอย่างแท้จริง ก็คือมีชีวิตอยู่กับโลก แต่ไม่ติดในโลก ในขณะเดียวกัน สภาพจิตทั้งหมดอยู่กับธรรม แต่ไม่ได้ทิ้งโลก ทุกอย่างทำไปตามภาระตามหน้าที่ของตนเอง ไม่มีกำลังใจปรุงแต่งไปใน รัก โลภ โกรธ หลง นี่จึงจะเป็นทางสายกลางอย่างแท้จริงขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางสายกลางตรงนี้แหละ..ที่จะนำท่านทั้งหลายเข้าสู่ความบริสุทธิ์ พ้นจากกองทุกข์อย่างสิ้นเชิง

แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายยังทำถึงตรงนี้ไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ให้มีอุเบกขาในเบื้องต้น ลืมรัก ลืมโลภ ลืมโกรธ ลืมหลง ได้ชั่วคราวก็ยังดี อานิสงส์ที่จะพึงมีพึงได้ของพระคาถาเงินล้าน ก็ยังบังเกิดความสะดวกสบายแก่ท่านทั้งหลายในการดำรงชีวิตปัจจุบัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2025 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 24-02-2025, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากเสร็จจากการภาวนาพระคาถาเงินล้าน และได้รับปัจจัยจากการถวายสังฆทานของญาติโยมทุกท่าน ยอดน่าจะอยู่ที่ ๙๓,๒๔๐ บาท โดยประมาณ กระผม/อาตมภาพมอบให้กับทางวัดอุทยาน ร่วมในการสร้างอาคารริมน้ำหลังใหม่ แล้วตนเองก็เตรียมเดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) จังหวัดกาญจนบุรี

ได้ยินเสียงบุคคลที่คุ้นเคยก็คือหมอหนุ่ม ซึ่งมาขอกราบเพราะว่าไปผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ หรือว่าไปทำบอลลูนมาก็ไม่ทราบ ? น้ำหนักตัวแค่ประมาณ ๑๐๐ กิโลกรัมเท่านั้น ทำเอาเส้นเลือดหัวใจตีบตันไปหมด บอกว่าเจ็บจนกระทั่งอยากจะฆ่าตัวตาย ขอกราบหลวงพ่อหน่อย เพราะว่าตอนที่หมอให้ดมยาสลบนั้น หลวงพ่อมานั่งอยู่บนอก ก็เลยรอดมาได้..!

กระผม/อาตมภาพเองปล่อยให้กราบเสร็จ ตนเองคลายกำลังใจออกมาก็แทบจะสลบไสล กว่าจะเดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) แล้วประกอบร่างสวมวิญญาณกลับเข้ามาใหม่ ก็เกือบที่จะสิ้นชีวิตไปแล้ว..! ได้ทำหน้าที่ของตนเองในการเปิดสอบบาลีสนามหลวงสนามจังหวัดกาญจนบุรีวันที่สอง ซึ่งมีทั้งการสวดมนต์ไหว้พระ การภาวนาเพื่อที่จะอุทิศส่วนกุศลถวายสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ผู้ให้กำเนิดการสอบบาลีและนักธรรมด้วยข้อเขียน แล้วก็ร่วมกับคณะกรรมการเซ็นเปิดข้อสอบของวันนี้

เสร็จสรรพเรียบร้อย เมื่อบรรดาเจ้าหน้าที่ประจำห้องสอบทำการแจกข้อสอบให้กับผู้เข้าสอบแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทางไปพักที่วัดท่ามะขาม ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินทางกลับไปยังวัดอุทยาน ทั้งที่นัดกับไอ้ตัวเล็กไว้ว่าจะไปลงโปรแกรมในแล็ปท็อปหรือว่าโน้ตบุ๊กตัวใหม่ ที่ญาติโยมร่วมใจซื้อมาถวาย

เนื่องเพราะว่าตัวเก่านั้นเฒ่าชะแรแก่ชรา อายุ ๖ ปีเข้าไปแล้ว ซึ่งหลายคนก็บอกว่ากระผม/อาตมภาพใช้ของเหมือนกับเป็น "ของเสีย" ก็คือเป็นของที่ทนเกินกว่าคนปกติเขาใช้กัน แต่ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ ท่านก็คอยบอกคอยกล่าวว่า
ให้ทำอย่างไร ถึงจะรักษาสิ่งของที่ญาติโยมให้มาให้เกิดคุณค่าได้มากที่สุด สามารถใช้งานได้นานที่สุด

เมื่อมีครูบาอาจารย์คอยบอกคอยกล่าว แม้แต่ว่า "คาถาจบนี้จะเป็นจบสุดท้าย ให้เตรียมนำญาติโยมอุทิศส่วนกุศลได้แล้ว" กระผม/อาตมภาพทำตามก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ทั้งที่ตนเองลุกจากที่ภาวนาไปพรมน้ำมนต์ที่วัตถุมงคล พรมน้ำมนต์ให้ญาติโยมในศาลาทั้งชั้นบนชั้นล่าง ไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาภาวนา ก็ยังคงแม่น "เป๊ะเว่อร์" เหมือนเดิม..!

กระผม/อาตมภาพยังบอกกับลูกศิษย์ว่า "ในเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย กับเรื่องของความสามารถพิเศษเป็นคนละเรื่องเดียวกัน เนื่องเพราะว่ายิ่งร่างกายป่วยหนัก สภาพจิตก็ต้องยิ่งทรงสติระมัดระวังรอบคอบ ยิ่งมีครูบาอาจารย์ หรือว่าพรหม เทวดา หรือพระคอยให้การสงเคราะห์อยู่ เรื่องที่จะพลาดหน้าแตกนั้นเป็นไปได้ยากมาก" ดังนั้น..จึงสามารถที่จะทำเรื่องราวหลาย ๆ อย่างพร้อมกับการภาวนา แล้วยังสามารถจบได้ตรงเวลาเหมือนเดิม

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2025 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว