กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-09-2024, 17:34
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,445 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-09-2024, 23:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อคืน เนื่องเพราะว่าอากาศทางทองผาภูมินั้น เหมือนกับต้นฤดูหนาว ก็คือค่อนข้างจะเย็น นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเห็นทะเลหมอกอำเภอทองผาภูมิ ถ้ามาในช่วงนี้ ได้ดูจนจุใจอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่อากาศเปลี่ยนแรงมาก จึงทำให้บุคคลที่มีเชื้อมาลาเรียอยู่ในร่างกาย ก็ออกอาการ "เดี้ยง" ไปตาม ๆ กัน ขนาด "ลูกอ้วน" (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) ซึ่งอึดพอกับควาย ๒ ตัว ก็ยังมาลาเรียขึ้นสมอง อาเจียนจนกระทั่งทำงานต่อไม่ไหว ต้องกินยาแล้วนอนพัก

กระผม/อาตมภาพยังคงนำพระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตยามเช้าตามปกติ ก็คือถ้ายังลากสังขารไปไหว ก็ทำหน้าที่ของตนไปจนวินาทีสุดท้าย เรียกง่าย ๆ ว่าทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ถ้าต้องจากไปก็จากไปอย่างสง่างามที่สุด เหมือนกับทหารที่ปฏิญาณตนว่า "ตายในสนามรบเป็นเกียรติของทหาร" ส่วนกระผม/อาตมภาพสมัยที่เรียนวิชาทหารอยู่กับเพื่อน ๆ ก็มักจะแปลงคำขวัญนี้ว่า "ตายในสนามรบเป็นศพของทหาร..!" เมื่อตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ถ้ายังไหวก็ต้องไป..!

เมื่อบิณฑบาตและฉันเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบเดินทางไปยังวัดปรังกาสี หมู่ที่ ๓ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมการตรวจประเมินตามโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข ด้วยหลัก ๕ ส. ซึ่งโครงการนี้ช่วยให้วัดวาอารามหลายแห่ง ที่รกเรื้อหาคนดูแลไม่ได้ ทำให้กลายเป็นวัดที่สะอาดสะอ้าน สมกับเป็นสถานที่ในพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะว่าหลัก ๕ ส. นั้นก็คือ สะสาง สะอาด สะดวก สร้างระเบียบ สร้างวินัย

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้ว เป็นสิ่งที่พระภิกษุสามเณรต้องทำตามปกติอยู่แล้ว แต่ก็มีบุคคลอยู่ประเภทหนึ่งที่อยู่อาศัยวัด ไม่ได้อยู่ให้วัดได้อาศัย ประมาณว่าหญ้ารกจนกระทั่งแทบจะเลี้ยงเสือได้ทั้งฝูงก็ยังไม่ไปเหลียวแล หรือว่าวัดวาอารามสกปรกโสโครกเหมือนกองขยะ ก็ไม่ได้ไปเหลียวแล

กระผม/อาตมภาพเคยได้รับคำสั่งจากพระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทฺโธ ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ตอนนั้นท่านยังเป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชธรรมโสภณ สั่งให้ไปช่วยพัฒนาวัดทองผาภูมิ เพราะว่าเป็นวัดที่ทรุดโทรมมาก เนื่องจากว่าเจ้าอาวาสในยุคนั้นเอาแต่จัดตลาดนัด เก็บเงินอย่างเดียว ขยะเต็มวัดไปหมดก็ไม่ได้เหลียวแล โดยเฉพาะด้านหลังโบสถ์ซึ่งเป็นที่ว่างกว้างใหญ่ สามารถทำประโยชน์ได้มาก ก็มีแต่กอหญ้าสูงท่วมหัว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-09-2024 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-09-2024, 23:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจำได้ว่า นำพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนส่วนหนึ่งไปช่วยกันโกยขยะ เก็บไปทั้งหมดด้วยรถขยะของทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ขนาดที่ใช้ไฮโดรลิกอัดขยะแล้ว ยังต้องขนไปถึง ๒๓ เที่ยวด้วยกัน..! ท่านทั้งหลายลองนึกดูเอาเองก็แล้วกันว่า ขยะท่วมมาจนถึงโบสถ์ก็ยังไม่ได้ใส่ใจ ส่วนพวกบรรดาหญ้าต่าง ๆ ที่สูงท่วมหัว ก็ต้องไปหวด ไปตัด ไปฉีดยาฆ่า กว่าที่จะทำให้ทุกอย่างสะอาดเรียบร้อยขึ้นมาได้ ก็ใช้เวลาไปหลายเดือน..!

บรรดาผู้ที่ดูแลวัดอยู่ แต่ว่าทำตนแค่อยู่อาศัยวัด ไม่ได้อยู่ให้วัดอาศัย เมื่อมาเจอโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข ด้วยหลัก ๕ ส. ซึ่งบังคับว่าทุกวัดจะต้องทำตามหลัก ๕ ส. ทั้งนั้น วัดไหนทำได้ดีก็จะมีการยกขึ้นเป็นวัดตัวอย่าง โดยมีการตรวจประเมินเพื่อยกขึ้นเป็นต้นแบบ คล้าย ๆ กับหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบเช่นกัน ปีนี้ของจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ได้เสนอวัดปรังกาสีของอำเภอทองผาภูมิ และวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) ของอำเภอเมือง ขึ้นเป็นวัดต้นแบบในครั้งนี้

กระผม/อาตมภาพในฐานะรองประธานคณะกรรมการโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุขด้วยหลัก ๕ ส. ของวัดปรังกาสี จึงต้องมาร่วมงานทั้งในฐานะรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และในฐานะรองประธานคณะกรรมการโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข ด้วยหลัก ๕ ส. อีกด้วย ซึ่งประธานที่มาตรวจในครั้งนี้ของหนกลางก็คือ พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี โดยคณะกรรมการที่มานั้นมีทั้งฝ่ายธรรมยุติกนิกาย และฝ่ายมหานิกายรวมกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่คุ้นหน้าคุ้นตาด้วยกันทั้งนั้น

เมื่อเข้าไปถึงศาลานิทรรศการ ปรากฏว่าหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ท่านได้ระดมคนมาจัดนิทรรศการไว้อย่างสวยงาม และตอบโจทย์ทั้ง ๕ หมวดของโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข ด้วยหลัก ๕ ส. อย่างครบถ้วน ดังนั้น..จึงไม่มีอะไรที่น่าห่วง

กระผม/อาตมภาพร่วมงานจนถึง ๑๐ โมงก็ขอตัวออกมาวิ่งลงไปยังวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) เพื่อไปดูความเรียบร้อยให้กับพระครูบ่าว - พระครูกาญจนปริยัติคุณ (ชุมพร ปิยธมฺโม ป.ธ. ๓) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนาราม แต่ว่าวิ่งไปไม่ถึง ต้องแวะสถานบริการน้ำมันเพื่อเข้าส้วมเสียก่อน เนื่องเพราะว่ามาลาเรียลงกระเพาะ ถ่ายเสียจนแทบจะไม่มีแรงเดิน ต้องฉันยาแล้วกลับขึ้นรถมา วิ่งต่อไปจนกระทั่งถึงที่หมาย

ปรากฏว่าเมื่อเห็นความอลังการงานสร้างที่วัดปรังกาสีมาแล้ว ทางวัดราษฎร์ประชุมชนารามจึงดูจืดไปหน่อย กระผม/อาตมภาพยังปรารภกับพระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ. ๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ ซึ่งมาร่วมงานในฐานะผู้บังคับบัญชาเจ้าของพื้นที่ว่า "ถ้าเราตรวจประเมินที่วัดราษฎร์ประชุมชนารามก่อน แล้วไปจบที่วัดปรังกาสีก็จะหรูหรามาก แต่เนื่องจากว่าเราไปตรวจจากที่ไกลมาที่ใกล้ จึงทำให้รู้สึกว่าจืดไปหน่อยหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-09-2024 เมื่อ 02:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-09-2024, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เขาเริ่มงานตรวจประเมินแล้ว กระผม/อาตมภาพที่นอกจากเคยเป็นอดีตพระวัดราษฎร์ประชุมชนารามแล้ว ก็แทบจะไม่มีส่วนร่วมในจุดไหนเลย จึงขออนุญาตลาทุกคน เพื่อที่จะเดินทางไปเยี่ยมหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๑) วัดเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งท่านป่วยด้วยโรคถุงลมปอดโป่งพอง เข้าห้องไอซียูไปนาน

ตอนนี้ได้ยินว่าออกมาอยู่ห้องพิเศษแล้ว ซึ่งหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอท่านให้ข้อมูลว่า "อยู่ที่ชั้น ๓ ของตึก ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา"

เมื่อไปถึง
ที่ชั้น ๓ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีพระภิกษุรูปนี้อยู่ ขอให้กลับไปดูที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉินกึ่งวิกฤตที่ท่านเคยอยู่ เมื่อลงไปถึง ทางด้านนั้นก็บอกว่าท่านออกไปแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางว่าไปอยู่ที่ไหน ท้ายที่สุดก็ได้ข้อมูลว่า ท่านไปอยู่ห้องพิเศษหมายเลข ๒๑๐ ของชั้น ๒ ตึก ๑๐๐ ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกนี่เอง

แปลว่ากระผม/อาตมภาพวิ่งเลยขึ้นไปชั้น ๓ แล้วย้อนลงมาห้องฉุกเฉินกึ่งวิกฤตที่ชั้น ๑ จากนั้นก็เดินกลับขึ้นไปชั้น ๒ รู้สึกว่าวันนี้แม้จะป่วยจนหมดเรี่ยวหมดแรง แต่ว่าก็ยังได้เดินออกกำลังไปอีกตั้งมากตั้งมาย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ต้องการเช่นนั้นเลย..!

ครั้นเข้าไปถึง ปรากฏว่าหลวงพ่อรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๑) วัดเขื่อนวชิราลงกรณ ท่านดีใจจนกระทั่งวางมือวางไม้ไม่ถูก เนื่องเพราะว่าป่วยมานาน ช่วงก่อนก็อยู่ในห้องไอซียู ถัดมาก็อยู่ในห้องฉุกเฉินกึ่งวิกฤต จึงไม่มีใครมาเยี่ยมมาเยือน นอกจากกระผม/อาตมภาพที่บุกห้องฉุกเฉินกึ่งวิกฤต ไปเยี่ยมมารอบหนึ่ง วันนี้มาอยู่ห้องพิเศษแล้ว สามารถที่จะเข้าเยี่ยมได้ตลอดเวลา จึงได้ถวายปัจจัยช่วยค่ารักษาพยาบาลท่านไป ๑๐,๐๐๐ บาท
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-09-2024 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-09-2024, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พร้อมกับเรียนท่านว่า "จะแฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ก็เกรงใจ" เนื่องเพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดครบ ๗๙ ปีของท่านพอดี แต่ถ้าหากว่าอยู่ในลักษณะแบบนี้ก็แปลว่า อีกไม่กี่วันท่านคงจะกลับไปรักษาตัวทางอำเภอทองผาภูมิได้แล้ว

กระผม/อาตมภาพดูแล้วว่าอาการของท่านดีขึ้นมาก แต่ว่าไม่ทราบว่าถ้ากลับขึ้นไปทางทองผาภูมิแล้ว เจออากาศเปลี่ยนแรง ๆ คนแก่อายุ ๗๙ ปีจะทนไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?

โดยเฉพาะท่านก็ฝากผีฝากไข้กับกระผม/อาตมภาพมาหลายปีแล้วว่า "ถ้าผมตายเมื่อไร ช่วยเผาศพให้ด้วย" กระผม/อาตมภาพยังชอบใจว่า หลวงพ่อรองเจ้าคณะอำเภอ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ ท่านเป็นผู้ไม่ประมาท และเป็นผู้ที่ไม่หวั่นเกรงความตาย ถึงเวลาสามารถฝากให้เผาผีกันได้แบบหน้าตาเฉย กำลังใจลักษณะแบบนี้ต้องบอกว่า สมกับเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส

จึงได้สั่งความให้กับสามเณรที่เฝ้าอยู่ว่า "ดูแลหลวงพ่อไว้ให้ดี กระผมเองดูแลทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งหลวงปู่หลวงพ่อมาหลายต่อหลายรูปหลายท่าน มั่นใจว่ากุศลผลบุญนี้ ถ้าตัวเองเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องมีคนช่วยดูแลอย่างแน่นอน พวกท่านก็เร่งสร้างกุศลผลบุญให้มากเข้าไว้ ถึงเวลาถ้าเราเป็นอะไรไป กุศลนี้มาช่วย เราก็จะได้มีคนดูแลเช่นกัน"

หลังจากนั้นก็ได้ลาท่าน เพื่อเดินทางไปยังวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อที่พรุ่งนี้เช้าจะได้ทำหน้าที่ประธานในการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-09-2024 เมื่อ 02:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:55



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว