#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้าประมาณตี ๕ ทางวัดท่าขนุนของเราก็มีการอุปสมบทหมู่เพื่อปฏิบัติธรรมวันลอยกระทง ซึ่งเป็นธรรมเนียมว่าวัดท่าขนุนของเรา จัดการบวชหมู่ฟรีปีละ ๔ ครั้ง ก็คือช่วงวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา ก่อนเข้าพรรษา และวันลอยกระทง
ความจริงแล้วก็จะบวชในช่วงประมาณ ๘ โมงครึ่ง แต่เนื่องจากว่าพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ท่านขอให้กระผม/อาตมภาพเป็นตัวแทนในการปฏิบัติศาสนกิจที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ซึ่งต้องเดินทางไปให้ทัน ๙ โมงเช้า จึงได้เลื่อนการอุปสมบทมาเป็นหลังทำวัตรเช้าเสร็จ ซึ่งก็เป็นที่น่าชื่นใจว่า ทั้งนาคและพ่อแม่ญาติพี่น้องของนาคมีความคล่องตัวพอ สามารถที่จะเลื่อนการอุปสมบทมาเป็นตอนตี ๕ ได้ เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า ถ้ากำลังบารมีไม่เข้มแข็งพอ ไม่สามารถที่จะทำได้ บุคคลที่กำลังบารมีเข้มแข็งเท่าไร ก็จะทำทุกสิ่งทุกอย่างได้รวดเร็วเท่านั้น แต่เป็นการเร็วแบบไม่ผิดพลาด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านที่ปรารถนาพระนิพพานนั้น สิ่งรุงรังรอบกายไม่เอาแล้ว ตั้งหน้าตั้งตามุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างเดียว ในเมื่อไม่สนใจเครื่องถ่วงเครื่องร้อยรัดต่าง ๆ จะทำอะไรก็อยู่ในลักษณะของ ภาวิตา พหุลีกตา ก็คือเป็นผู้มีกายเบา มีจิตเบา สามารถทำได้รวดเร็วคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา จึงขออนุโมทนากับนาคทั้ง ๔ ท่าน ซึ่งอุปสมบทเป็นพระเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้องของนาคทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้ด้วย กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ตอน ๐๙.๐๘ น. เข้าไปรายงานตัวต่อพระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาล, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ว่า "เจ้านายให้มาแทนขอรับ" ท่านบอกว่า "ทำไมต้องแทนด้วย ? ของแกเองก็มี..!" สรุปว่าฎีกาไปไม่ถึงกระผม/อาตมภาพ เพราะว่าส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งมีประสบการณ์แบบนี้หลายครั้งแล้ว อย่างเช่นมีผู้โทรมาว่า "หลวงพ่อไปถึงไหนแล้ว ?" ก็ถามกลับไปว่า "จะให้ไปไหน ?" เขาบอกว่าก็มีประชุมที่จังหวัด อาตมภาพบอกว่าไม่มีใครแจ้งมา ทางด้านโน้นบอกว่าส่งหนังสือมาเป็น ๑๐ วันแล้ว จึงต้องวิ่งตาลีตาเหลือกไปเพื่อให้ทันการประชุม กลับจากประชุมแล้ว ๒ วัน จดหมายเชิญประชุมเพิ่งจะมาถึงวัดท่าขนุน..! งานนี้ก็น่าจะอยู่ในลักษณะเดียวกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2022 เมื่อ 13:22 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
เมื่อกระผม/อาตมภาพไปนั่งที่ของพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ตามที่ได้รับปากท่านไว้ว่าจะไปทำหน้าที่แทน แต่ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ซึ่งจัดสถานที่สำหรับพระที่ได้รับฎีกานิมนต์ รู้จักกระผม/อาตมภาพดีเกินไป จึงได้ไปเปลี่ยนป้ายเป็นชื่อ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. มาแทน สรุปว่ารับปากเจ้านายแล้ว แต่ทำหน้าที่ได้ไม่ตลอด
เมื่อเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกเป็นประธานเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ฉันเพล เพราะว่าต่างคนต่างเดินออกมาพร้อมกับพระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ (ประไพ ปุญฺญกาโม ป.ธ.๓) เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ฝ่ายโน้นก็ถามว่า "หลวงพี่ไม่อยู่ฉันเพลหรือ ?" ก็ตอบไปว่า "ผมทิ้งงานมา" ท่านก็บอกว่า "ผมก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เจ้านายใหญ่เรียกตัวแบบนี้ก็ไม่มาหรอก" สรุปว่าต่างคนต่างวิ่งกลับ แค่หาอะไรติดมือติดไม้ไว้ฉันบนรถ เมื่อกลับมาถึงที่วัดท่าขนุนนี่ ก็เข้าสู่ระบบระเบียบของเราต่อ ก็คือวางผางประทีป ซึ่งใช้คำว่าผางประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง แต่ปัจจุบันนี้วางแต่ละครั้งก็ราว ๆ ๑๕,๐๐๐ - ๑๘,๐๐๐ ดวง แต่ละงานจะต้องใช้เทียนในการหล่อผางประมาณตันครึ่ง ก็จะเป็นเงินอยู่ราว ๆ สี่ห้าหมื่นบาทต่องวด แต่ว่าคุ้มค่าตรงที่ว่าเราได้ถวายแสงสว่างเป็นพุทธบูชา แล้วยังโด่งดังไปจนถึงขั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดกาญจนบุรี ยกให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand แต่ที่น่าช้ำใจมากกว่านั้นก็คือ บรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติมาถ่ายรูปสวย ๆ แล้วเอาไปขาย ใครต้องการรูป ต้องจ่ายเงินให้เขาก่อนถึงสามารถที่จะดาวน์โหลดรูปได้ ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายว่าอย่าไปเสียเงินให้เขาที่นั่น ให้เข้าไปที่เว็บเพจ แดนสวรรค์ตะวันตก ทางด้านโน้นจะส่งช่างภาพมาถ่ายรูปไว้ทุกครั้ง อยากได้มุมไหนแง่ไหน ไปดาวน์โหลดได้จากในเว็บเพจนั้น หรือไม่ก็รอในเว็บไซต์วัดท่าขนุน หรือไม่ก็เว็บ palungjit.org ซึ่งจะมีรูปทั้งหลายเหล่านี้ไปลงอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2022 เมื่อ 13:24 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
สำหรับลำดับต่อไป หลังทำวัตรแล้ว พวกเราก็จะไปลอยกระทงกัน ญาติโยมอาจจะเห็นการประดับไฟที่สะพานแขวนหลวงปู่สาย ขอบอกว่านั่นประมาณ ๒๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะว่าเราจะไปประดับเต็มที่ตอนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ทางเราเปิดตลาดชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย พร้อม ๆ กับทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิเปิดงานถนนคนนั่งยองทองผาภูมิ ปี ๒๕๖๖ เพื่อที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอำเภอทองผาภูมิ
โดยเฉพาะในช่วงส่งท้ายปีเก่า ทางวัดท่าขนุนก็จะมีการเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี แล้วในช่วงเช้าวันที่ ๑ ก็ร่วมมือกับทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ จัดงานใส่บาตรพระ ๙๙ รูป สร้างกุศลรับปีใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็นิมนต์พระหลายวัด แต่ปรากฏว่ามาช้าบ้างเร็วบ้าง มาตอนหลังก็เลยเปลี่ยนจากพระ ๙๙ รูปเป็นเอาตามที่ได้ โดยมีวัดท่าขนุนเป็นหลัก คราวนี้บรรดาที่พักต่าง ๆ ก็อาจจะลำบาก เพราะว่ามีการจองล่วงหน้ากันไปมาก อย่างที่ได้เรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมไปแล้วว่า ถ้ากลัวไม่มีที่พัก ก็ให้จองแรลลี่ทัวร์ของทางเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ ทางด้านโน้นจะมีจัดทั้งแรลลี่ทัวร์ ให้ขับรถมาเอง เล่นเกมกันมาตลอดทาง และจัดรถบัสวีไอพีสำหรับท่านที่ไม่ขับรถด้วย ส่วนประมาณตี ๒ คืนนี้ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ทันบรรยายธรรมแก่นิสิตบัณฑิตศึกษา ซึ่งเข้าปฏิบัติธรรมในช่วง ๑๑๙ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาสภมหาเถระ) ซึ่งกระผม/อาตมภาพในฐานะพระวิปัสสนาจารย์ประจำกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก็ต้องไปบรรยายธรรมให้เป็นระยะไป ตามแต่กาลที่สมควร ไม่ทราบเหมือนกันว่างานนี้มีถ่ายทอดสดทาง MCU TV ตลอดจนกระทั่งเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยหรือไม่ ? แต่ถึงไม่มี กระผม/อาตมภาพก็จะบันทึกเสียงมา แล้วก็ให้เจ้าหน้าที่นำลงทางช่องยูทูบให้ท่านทั้งหลายได้ฟังด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2022 เมื่อ 13:26 |
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
การปฏิบัติกรรมฐานนั้น มีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยแห่งเดียวเท่านั้น ที่บังคับไว้ในหลักสูตรเลย ไม่ว่าจะศึกษาระดับไหนก็ตาม ต้องมีการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น
ระดับประกาศนียบัตร ปฏิบัติธรรม ๑๐ วัน ระดับปริญญาตรี ปฏิบัติธรรม ครั้งละ ๑๐ - ๑๕ วันต่อปี ระดับปริญญาโท ปฏิบัติธรรมปีละ ๑๕ วัน ระดับปริญญาเอก ปฏิบัติธรรมปีละ ๔๕ วัน แต่ถ้าเป็นสาขาวิชาวิปัสสนาธุระ ซึ่งกระผม/อาตมภาพรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของสาขานี้ ก็คือเป็นด็อกเตอร์ทางวิปัสสนาธุระ ถ้าเป็นระดับประกาศนียบัตรวิปัสสนาภาวนา ปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง ๓ เดือน ระดับปริญญาตรีก็ปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง ๓ เดือนจนกว่าจะจบหลักสูตร ก็เรียกง่าย ๆ ว่าเรียนก็ปีละ ๙ เดือน ปฏิบัติธรรม ๓ เดือน ปริญญาโท ปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง ๗ เดือน เอาให้บรรลุกันไปเลย ปริญญาเอกตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าจะเอา ๑ ปีหรือว่า ๑๘ เดือนดี แต่ขอให้รู้ว่าบรรดาชาวต่างชาตินิยมศึกษากันมากกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลายต่อหลายประเทศ เสาะหาว่ามีการเรียนของมหาวิทยาลัยแห่งใดบ้างในเอเซีย ที่มีการปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้น จริงจัง แล้วก็มาเจอมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยของประเทศไทย จึงมีหลายประเทศขอร่วมเป็นสถาบันสมทบ เพื่อที่จะได้ส่งบุคคลของเขามาเรียนหลักสูตรต่าง ๆ แล้วปฏิบัติธรรมจากต้นตำรับไปด้วย ก็แปลว่า กระผม/อาตมภาพจะอยู่ให้เห็นหน้าแค่ในช่วงนี้ หลังลอยกระทงแล้วก็จะเป็น "นินจา" แวบหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ ? ต่อด้วยการคุมสนามสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอกสนามหลวงอีก ๔ วันรวด แล้วก็ยังมีงานประชุมอีก พูดง่าย ๆ ว่าไม่ว่างแม้แต่วันเดียว เพราะฉะนั้น..หลายท่านที่มาวัดแล้วได้เจอ ก็ถือว่าเป็นความโชคดีประการหนึ่ง ที่ได้เห็นว่าเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็ได้เห็นแต่ในเฟซบุ๊ก ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็เล่นเฟซบุ๊กไม่เป็น ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของทางวัดเขาดูแลกันไปเอง ลำดับต่อไปพวกเราก็จะได้ทำวัตรค่ำแล้วลอยกระทงกัน สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2022 เมื่อ 13:28 |
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|