#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๕
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๖ พุทธศักราช ๒๕๖๕ งานหลายอย่างก็ประดังเข้ามาแบบกะทันหัน ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพเดินทางไปที่วัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมและบรรยายให้กับนิสิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งปฏิบัติธรรมประจำปีอยู่ที่นั่น
จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตราย เพราะว่าการปฏิบัติธรรมของคณะสังคมศาสตร์ครั้งนี้ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ หลายราย จนกระทั่งต้องมีการกำหนดเอาไว้ว่า ถ้ามีการรวมกลุ่มกันเพื่อฟังบรรยายก็ไม่ควรเกิน ๓๐ นาที แต่กระผม/อาตมภาพว่า ถ้าหากว่าจะติดเชื้อ ๓๐ นาทีนี่เหลือเฟือที่จะติด แต่ก็ทำตามนโยบายของเขาไป เมื่อไปเยี่ยมเยือน ร่วมทำบุญ และทำการบรรยายเสร็จแล้วก็เดินทางกลับ ระหว่างเดินทางกลับก็มีข่าว ๒ ข่าว ข่าวแรกก็คือหลวงพ่อพระครูสุชาตคีรีเขต (สรสิทธิ์ สุจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดเขาแหลม เจ้าคณะตำบลสมเด็จเจริญ มรณภาพด้วยอายุ ๗๕ ปี อีกข่าวหนึ่งก็คือจะต้องไปเป็นคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เพื่อรับรางวัลเสาเสมาธรรมจักรประจำปี ๒๕๖๖ ก็คือคัดกันตั้งแต่ตอนนี้ แล้ววันวิสาขบูชา ปี ๒๕๖๖ ค่อยไปรับกัน แปลว่า อยู่ ๆ ก็มีงานเพิ่มเข้ามาอีก ๒ งาน คราวนี้ในส่วนของการเป็นคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องที่เร่งด่วนกว่า เพราะว่าต้องประชุมคัดเลือกตอนบ่ายโมงครึ่ง เรื่องงานศพของหลวงพ่อพระครูสุชาตคีรีเขตนั้น เขายังจัดอีกหลายวัน ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ที่กระผม/อาตมภาพย้ำกับพวกเราอยู่บ่อย ๆ ว่าประโยชน์ของการทำสมาธิอย่างโลก ๆ ประการหนึ่งก็คือ เราจะมีสติ แยกแยะความ ก่อนหลัง เร็วช้า หนักเบา ของปัญหาได้ อะไรที่มาก่อน เราก็ทำก่อน จะทำให้เรามีปัญหาอยู่ตรงหน้าเรื่องเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่หนักเกินกำลัง แต่ส่วนใหญ่แล้วบุคคลทั่วไปมักจะขาดสติ เอาหลาย ๆ ปัญหามาหมกรวมกันเป็นเรื่องเดียว ทำให้หนักจนกระทั่งแก้ไขไม่ไหว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2022 เมื่อ 01:30 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
แม้กระทั่งวันพรุ่งนี้ก็ตาม ปกติแล้วกระผม/อาตมภาพก็ต้องไปอนุเคราะห์สงเคราะห์บรรดาผู้ต้องขังที่เรือนจำจังหวัดทองผาภูมิ ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่ว่า ทองผาภูมิไม่ใช่จังหวัด แต่ว่าเรือนจำเป็นเรือนจำจังหวัด ขนส่งเป็นขนส่งจังหวัด ศาลเป็นศาลจังหวัด เพื่อที่จะเตรียมแยกจังหวัดใหม่ แต่เตรียมมานานจนกระทั่งลูกจะอายุครบบวชแล้ว ก็ยังแยกไม่ได้สักทีหนึ่ง..!
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ประชากรในทะเบียนบ้านมีน้อยมาก มีแค่ ๖๐,๐๐๐ กว่าคนเท่านั้น ที่เห็นอยู่เป็นล้านส่วนใหญ่ก็เป็นคนต่างด้าว..! แต่ว่าบรรดาส่วนราชการที่อยู่ในระดับจังหวัดนั้นมาตั้งอยู่แล้ว แบบเดียวกับที่ตำบลทองผาภูมิไม่ได้มีอยู่ในโลกนี้ แต่เรามีเทศบาลตำบล ที่ชื่อว่าเทศบาลตำบลทองผาภูมิ คราวนี้การทำกิจกรรมที่เรือนจำจังหวัดทองผาภูมิของกระผม/อาตมภาพก็คือครึ่งวัน แต่ปรากฏว่ามีเรื่องด่วนเข้ามา คือต้องไปเป็นคณะกรรมการประเมินครู ก็คือครูวารุณี พรมฝ้าย ของโรงเรียนบ้านอู่ล่อง จึงทำให้ต้องเจรจากับฝ่ายจัดกิจกรรม ก็คือสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้กิจกรรมตอนเช้าในส่วนที่กระผม/อาตมภาพมีส่วนร่วมด้วย ให้จบลงไม่เกิน ๙ โมงครึ่ง จะได้เอาเวลาที่เหลือไปร่วมการประเมินครูโรงเรียนบ้านอู่ล่อง เพราะว่าเขาเริ่มกันตั้งแต่ ๘ โมงครึ่ง ถือว่าเราไปสายแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นค่อยวิ่งยาวไปเกือบ ๔ ชั่วโมง ระยะทาง ๒๐๐ กว่า เกือบ ๓๐๐ กิโลเมตร ก็คือไปวัดเขาแหลม ตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปร่วมงานศพหลวงพ่อพระครูสุชาตคีรีเขต ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เมื่อเราลำดับความสำคัญของเรื่องราวก่อนหลังเร็วช้าแล้ว ทุกอย่างก็จัดการได้ง่าย ๆ แต่ทำอย่างไรที่เราจะมีสติแยกแยะปัญหาพวกนี้ออกมาได้ ? ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของท่านทั้งหลายเอง เพราะว่าถ้าหากว่าสติสมาธิของเรามั่นคง จะมีปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม การแยกแยะงานแค่นี้เป็นเพียงความสามารถพื้น ๆ ของนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น ในส่วนที่สูงไปกว่านั้นอีกยังมีอยู่ โดยเฉพาะส่วนสูงสุดคือการหลุดพ้นจากกองทุกข์ไปพระนิพพาน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2022 เมื่อ 01:33 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ในส่วนนี้ เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพได้บรรยายไปแล้วในรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ในหัวข้อ "อานิสงส์ของการเจริญพระกรรมฐาน" ซึ่งป่านนี้เจ้าหน้าที่ก็คงเอาลงยูทูบให้แล้ว ต้องบอกว่าเป็นการทุ่มให้ทั้งหมดเท่าที่มี ใครฟังแล้วทำตามได้ก็เป็นอันว่าจบกันไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปทำอะไรมากอีก แต่ไม่ดีตรงที่ว่า ทำเอากระผม/อาตมภาพหมดสภาพไปด้วย เพราะว่าต้องใช้กำลังใจเพื่อสงเคราะห์คนหมู่มาก
งานของเมื่อวานนี้ก็ยุ่งยากเหมือนกับของวันนี้ เพราะว่าอันดับแรกเลยก็คือ ต้องไปร่วมงานฉลองตราตั้งรองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี หลังจากนั้นก็เป็นงานวันบูรพาจารย์ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) หรือวัดใต้ แล้วก็วิ่งไปงานปลุกเสกพญายักษ์วัดแจ้งที่วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ปัญหาที่ต้องแก้มีเรื่องเดียว ก็คือทำอย่างไรที่ไปถึงแล้วจะขออนุญาตเข้าไปทำการปลุกเสกก่อนคนอื่นเขา เพื่อให้ไปบรรยายในรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมได้ตรงเวลา ก็ต้องมีการติดต่อประสานงานบอกกล่าวให้ทราบว่ามีความจำเป็น พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี (สมเกียรติ โกวิโท ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่กระผมเรียกท่านว่าหลวงปู่สมเกียรติ ท่านก็เมตตาอนุญาตให้เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็น ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า เรามีปัญหาสำหรับแก้ไขอยู่นิดเดียวเท่านั้น ก็คือทำอย่างไรที่จะประสานงานเพื่อให้ท่านอนุญาตให้เราไปทำพิธีปลุกเสกก่อน แล้วก็ยังต้องรอแก้ไขงาน เผื่อว่าถ้ารถติดมากมายมหาศาล ไม่สามารถไปเข้ารายการได้ทันเวลา ก็ยังต้องเตรียมบันทึกเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือไว้ด้วย ดังนั้น..เรื่องที่กระผม/อาตมภาพย้ำกับพวกเราทุกคนอยู่เรื่อย ๆ อยู่บ่อย ๆ เป็นสิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำมาเองทั้งนั้น มีประสบการณ์จริงทั้งนั้น ไม่ใช่ประเภทดีแต่เอาทฤษฎีสวย ๆ มาพูด ถึงเวลาแล้วใช้งานจริงไม่ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2022 เมื่อ 01:37 |
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
เรื่องของการปฏิบัติธรรมยังประโยชน์ให้เรา ทั้งปัจจุบัน ทั้งอนาคต และประโยชน์สูงสุด แต่ต้องการคน ขยัน อดทน จริงจัง สม่ำเสมอ ถ้าแค่ทำวัตรแล้วยังมาบ้างไม่มาบ้างนี่ไม่ต้องหวัง ชีวิตนี้เอาดีไม่ได้อย่างแน่นอน..!
หลายท่านก็เสียสละตนเอง เข้าเวรเข้ายาม แต่ก็ยังมีบางท่านที่ตั้งใจหนีไปเข้าเวร เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาสวดมนต์ทำวัตร ไอ้นั่นหมดอนาคตแน่นอน..! เพราะว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเองแล้วไม่ทำ พอถึงเวลากิเลสมีกำลังมากกว่าก็อยู่ไม่ได้ จนต้องสึกหาลาเพศไป จึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องตระหนักเองว่า การบวชเป็นพระของเรานั้น กิจวัตรทุกอย่างที่เราทำ ควรแก่การเป็นพระหรือไม่ ? แค่สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ถ้าไม่สามารถบริหารตนเองให้ดีได้ แล้วเราจะไปทำอะไรให้ดีได้มากกว่านี้ ? แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกท่านเอง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดเจนว่า อักขาตาโร ตถาคตา แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็เป็นเพียงผู้บอกเท่านั้น ชี้ทางออกบอกทางถูกให้แล้ว จะไม่เดินก็เรื่องของคุณ..! ถึงเวลาเดินแล้วก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาเดินให้เต็มที่ เต็มสติเต็มกำลังของเรา ต่อให้ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง เราก็ยังไปได้ไกลกว่าคนอื่นเขา หรือว่าจะค่อย ๆ ย่องไป ทำตัวเป็นคนมีเวลามาก ตายเมื่อไรก็เสียชาติเกิดเมื่อนั้น ยิ่งถ้าลงอบายภูมิก็ยิ่งเสียชาติเกิดหนักเข้าไปอีก..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2022 เมื่อ 01:40 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|