#1
|
||||
|
||||
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันอาทิตย์ที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันอาทิตย์ที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เชิญรับฟังได้ที่ https://youtu.be/mTL-cphJg5E เอาความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจ หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด คำภาวนาเป็นเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิ สิ่งที่สำคัญคือการกำหนดรู้ลมหายใจ ลมหายใจจะแรง จะเบา จะยาว จะสั้น ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ เราแค่เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 01-12-2022 เมื่อ 17:19 |
#2
|
||||
|
||||
หายใจเข้า..ลมหายใจผ่านจมูก ผ่านกลางอก ไปสุดที่ท้อง
หายใจออก..ลมผ่านท้อง ผ่านกลางอก ไปสุดที่ปลายจมูก การปฏิบัติธรรมในช่วงเช้านั้นสำคัญที่สุด เพราะว่าสภาพจิตที่ฟุ้งซ่านมาทั้งวัน เมื่อได้นอนหลับก็ทำให้สภาพจิตสงบขึ้น สามารถที่จะทำให้อยู่กับลมหายใจเข้าออกได้ง่ายขึ้น ช่วงเช้าจึงเป็นช่วงที่เราต้องรีบภาวนาไว้ เพราะว่ากำลังใจของเราเหมือนเก้าอี้ตัวเดียว ถ้าความดีนั่งอยู่ ความชั่วก็เข้าไม่ได้ ถ้าความชั่วมานั่งอยู่ ความดีก็เข้าไม่ได้เช่นกัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรีบนำความดีเข้าไปไว้ก่อน หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกพร้อมคำภาวนา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกพร้อมกับคำภาวนา ไหลตามลมหายใจออกมา จะจับลมหายใจกี่ฐานก็แล้วแต่ความถนัด จะเอาฐานเดียว, ๓ ฐาน, ๗ ฐานก็ได้ หรือจะรู้ตลอดตั้งแต่หายใจเข้าจนหายใจออกก็ได้ |
#3
|
||||
|
||||
เมื่อความรู้สึกของเรามั่นคงดีแล้ว ก็กำหนดภาพพระขึ้นมา ๑ องค์ เป็นพระพุทธรูปที่เรารักเราชอบมากที่สุด จะเป็นภาพสมเด็จองค์ปฐมก็ได้ พระวิสุทธิเทพก็ได้ พระแก้วมรกตก็ได้ หรือจะเป็นพระพุทธชินราช หลวงพ่อโสธร ก็แล้วแต่ใครสะดวก
หายใจเข้า..ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจลงไปในท้อง หายใจออก..ให้ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ อย่าเน้นความชัดเจน และอย่าตั้งใจมองภาพพระ การเห็น..เรา "เห็นด้วยใจ" คือ การนึกถึง ที่เรียกว่า "มโน" เหมือนกับเรานึกถึงบ้านตอนนี้ เราจะเห็นบ้านอย่างชัดเจน แต่ไม่ใช่ตาเห็น |
#4
|
||||
|
||||
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ หายใจเข้า..ภาพพระเล็กลง เล็กลง ไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ภาพพระใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ไปอยู่บนศีรษะ อย่าสนใจความชัดเจนของภาพพระ แค่เรานึกได้ว่ามีภาพพระอยู่ก็พอแล้ว หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปในท้อง หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ ความชัดเจนจะมีขึ้นต่อเมื่อสมาธิทรงตัวมากขึ้น รายละเอียดต่าง ๆ จะชัดขึ้นเมื่อสมาธิทรงตัวมากขึ้น ดังนั้นไม่ต้องใส่ใจความชัดเจนของภาพพระ ไม่ต้องใส่ใจรายละเอียด แค่เรารู้สึกว่ามีภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา กำหนดไว้แค่นี้ก็พอ |
#5
|
||||
|
||||
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระกับลมหายใจเข้าออกมั่นคง ไหลเข้าไป-ไหลออกมาได้อย่างใจนึก ก็กำหนดภาพพระให้นิ่งอยู่เหนือศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น จะสว่างมากสว่างน้อยก็ไม่เป็นไร เพราะระดับสมาธิปุถุชนอย่างพวกเรา อย่างเต็มที่เลยก็สว่างเหมือนกับเรามองของในที่มืด หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ทำตามขั้นตอนไม่ทันก็อย่าไปท้อ จดจำเอาไว้ไปฝึกฝนที่บ้านเองก็ได้ |
#6
|
||||
|
||||
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระและลมหายใจมั่นคงดีแล้ว ก็กำหนดให้ความสว่างนั้นครอบคลุมตัวเราลงมาด้วย
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น ทำตามแล้วไม่ได้ ทำตามแล้วไม่ดี ทำตามแล้วไม่ชัดเจน ทำตามแล้วไม่สว่าง ไม่ต้องน้อยใจ ให้พยายามทำไปเรื่อย ๆ เพราะว่านี่เป็นวิธีการสรุปหลักการปฏิบัติกรรมฐานทั้ง ๔๐ กองลงมาเป็นกองเดียว เหมือนกับเอาผลงานวิจัยของปริญญาเอกมาให้พวกเราได้ศึกษากัน ก็ต้องเป็นเรื่องยากเป็นปกติ แต่ขอให้พากเพียรทำไปอย่าได้ท้อถอย ชัดแค่ไหน..พอใจแค่นั้น สว่างแค่ไหน..พอใจแค่นั้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น |
#7
|
||||
|
||||
ถ้ารู้สึกว่าสว่างไม่ได้อย่างใจก็แปลว่ากำลังเรามีแค่นั้น ให้กำหนดดูว่า..ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเราเหมือนกับวัตถุที่กลวง ๆ เปล่า ๆ มีภาพพระสว่างไสวซ้อนทับอยู่ก็พอแล้ว
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น อย่าใช้สายตาเพ่งภาพพระ ให้เอาความรู้สึกนึกถึง ถ้าเพ่งไปแล้วแก้ไขไม่ได้ ให้ลืมตาแล้วก็หลับตาลงใหม่ เริ่มกำหนดภาพพระใหม่ ไม่ใช่ตาเห็น เป็นการนึกถึง หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น |
#8
|
||||
|
||||
เมื่อตัวเรากับภาพพระสว่างไสวกลมกลืนกันดีแล้ว ก็กำหนดให้ความสว่างนั้นแผ่กว้างจากตัวของเราออกไป
หายใจเข้า..ความสว่างแผ่กว้างออกไป ๆ หายใจออก..ความสว่างแผ่กว้างออกไป ๆ สว่างเต็มไปทั้งศาลาหลังนี้ สว่างไปทั่วทั้งวัดแห่งนี้ หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ความสว่างแผ่กว้างออกไป ๆ กว้างไปทั้งวัด กว้างไปทั้งหมู่บ้าน กว้างไปทั้งตำบล กว้างไปทั้งอำเภอ กว้างไปทั้งจังหวัด เหมือนตัวเราลอยสูงขึ้นแล้วเห็นภาพต่าง ๆ กว้างออกไปทุกที ๆ ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้นตกอยู่ในความทุกข์ยากเศร้าหมอง เดือดร้อนลำเค็ญ ทุกข์กายทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 27-12-2022 เมื่อ 18:05 |
#9
|
||||
|
||||
หายใจเข้า..ความสว่างแผ่กว้างออกไป กว้างออกไป กว้างไปทั้งจังหวัด กว้างไปทั้งภาค กว้างไปทั้งประเทศ กว้างไปทั้งทวีป กว้างไปทั้งโลก รู้สึกเหมือนตัวเราใหญ่โตเต็มจักรวาล โลกเป็นวัตถุเล็ก ๆ ที่เรากำหนดจิตครอบคลุมให้ทั่วถึงได้ในพริบตาเดียว
ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด หายใจเข้า..รัศมีสีขาวสว่างไสวขององค์พระแผ่กว้างออกไป ๆ เบื้องบนถึงพรหมชั้นที่ ๑๖ เบื้องล่างถึงอเวจีมหานรก เบื้องขวางรอบกายคือ ดวงดาวที่ประกอบไปด้วยคนและสัตว์มากมายนับไม่ถ้วน ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 27-12-2022 เมื่อ 18:05 |
#10
|
||||
|
||||
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น เมื่อกำลังใจสว่างไสวมั่นคงดีแล้ว ก็กำหนดนึกถึงภาพพระให้นิ่งอยู่บนศีรษะตามเดิม หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสว แผ่กว้างออกไป ๆ หายใจออก..ภาพพระกลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเรา หายใจเข้า..ความสว่างแผ่กว้างออกไป ๆ หายใจออก..ให้กลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเราตามเดิม |
#11
|
||||
|
||||
เมื่อภาพพระสว่างไสวมั่นคงชัดเจนแล้ว ก็น้อมจิตน้อมใจกราบลงไปตรงนั้น..ว่านั่นคือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จมาโปรดเรา พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ใดเลยนอกจากพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่าน คือ..เราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับท่าน คือ..เราอยู่บนพระนิพพาน
ให้ตั้งใจว่า..วันนี้ถ้าหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือว่าเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานนี้เท่านั้น แล้วกำหนดดู..กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของเราใหม่ ถ้ายังหายใจอยู่ ก็กำหนดลมหายใจ ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลง ให้รู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป อย่าดิ้นรนให้เป็นเช่นนั้น และอย่าอยากให้พ้นจากสภาพเช่นนั้น รักษาใจเราให้แน่วแน่อยู่กับภาพพระ พยายามกำหนดใจเอาไว้อย่างนี้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 27-12-2022 เมื่อ 16:19 |
#12
|
||||
|
||||
(สัญญาณบอกว่าหมดเวลา)
พุทโธ พุทโธ พุทโธ.. ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ.. ค่อย ๆ คลายสมาธิออกช้า ๆ รักษากำลังใจส่วนหนึ่งไว้ที่ภาพพระ ถ้าจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอย่างไรก็กำหนดภาพพระให้ชัดเจนก่อน ไม่เช่นนั้นสมาธิจะหลุดหายหมด หายเมื่อยหายขบแล้วจะได้ทำวัตรเช้ากันต่อไป พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันอาทิตย์ที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|