กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-10-2023, 17:24
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,998 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-10-2023, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,723 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพยังคงสะสม "เสบียงบุญ" อย่างมีความสุข คือการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ซึ่งมีพระคุณเป็นเอนกอนันต์ต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทย เมื่อเราได้มีโอกาสตอบแทนพระคุณของท่าน จึงได้ทำด้วยความเต็มใจและมีความสุขที่ได้กระทำ

เมื่อได้เวลากระผม/อาตมภาพก็ไปยังมณฑลพิธีอุโบสถวัดอุทยาน ทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร และพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

งานนี้หลวงพ่อนิลท่านได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อมอบให้กับตำรวจทหารทาง ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะมีโอกาสในการมอบวัตถุมงคลให้กับตำรวจทหารทางภาคใต้ ก็ไม่ได้เป็นจำนวนมากมายนัก ส่วนใหญ่แล้วก็มอบให้เป็นการส่วนตัวเสียมากกว่า แต่ว่าหลวงพ่อนิลท่านลงไปดูแลพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ด้วยเพราะว่าท่านเป็นคนใต้ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือ ตั้งใจจะช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนา ตามที่ได้ปฏิญาณตนร่วมกันมาตั้งแต่สมัยที่ยังบวชใหม่ ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ บุคคลที่ปฏิญาณตนร่วมกันในงานนั้น ก็เหลืออยู่แค่ ๒ รูป คือกระผม/อาตมภาพกับหลวงพ่อนิลเท่านั้น

งานนี้ในเมื่อถามแล้ว ปรากฏว่าวัตถุมงคลเป็นรูปหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ กระผม/อาตมภาพก็สบายใจเป็นอย่างยิ่ง กราบขอบารมีหลวงปู่ทวด ท่านเมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ จากที่มีนิรันตราย ก็คือปลอดภัยในทุกที่แบบของท่าน ก็ขอให้เพิ่มในส่วนของคงกระพัน มหาอุตม์ ซุกเอาไว้ด้านในให้ด้วย เนื่องเพราะว่าเป็นห่วงตำรวจ ทหาร

ความจริงแล้วในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ถือว่าดีที่สุด แปลว่าปลอดภัยในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วญาติโยมทั้งหลาย โดยเฉพาะตำรวจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนหรือพื้นที่อันตราย ก็มักอยากจะให้มีประสบการณ์ที่ปรากฏชัดคาตา เพื่อความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย ว่าสามารถป้องกันอันตรายได้จริง

กระผม/อาตมภาพจึงต้องกราบขอร้องหลวงปู่ทวด และคณะของท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพระโพธิสัตว์ สามารถฝืนกฎของกรรมได้ โดยเฉพาะหลวงปู่ทวดหนอน ซึ่งปกติแล้วท่านก็คือพระมหาเถระผู้เป็นหลักชัยในกรุงศรีอยุธยาอีกรูปหนึ่ง แต่ด้วยความที่ท่านเองเบื่อหน่ายในเรื่องของยศตำแหน่ง จึงได้ลาออกจากยศตำแหน่ง ถวายคืนสมณศักดิ์ แล้วธุดงค์ลงไปยังปักษ์ใต้

เมื่ออาศัยเรือสำเภาเดินทางลงใต้ ด้วยความสงสารฝูงปลาที่ว่ายตามเรือ ท่านจึงเชือดเนื้อตัวเองโยนให้เป็นอาหารแก่ฝูงปลา ลักษณะของการเชือดเนื้อ มอบเลือด หรือว่าควักหัวใจ ตัดแขนขา กระทั่งตัดศีรษะ เป็นการสละออกของพระโพธิสัตว์ที่เห็นได้ชัดเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2023 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-10-2023, 00:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,723 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าหลวงปู่ทวดหนอนนั้น เมื่อท่านขึ้นพักยังวัดในปักษ์ใต้แล้ว ปรากฏว่าบาดแผลของท่านโดนแมลงวันวางไข่จนกระทั่งเกิดเป็นตัวหนอน ท่านเองก็ยังเมตตา ไม่ยอมรักษาแผล เพราะเกรงว่าหนอนนั้นจะตาย ไหน ๆ ก็ตั้งใจมอบเลือดเนื้อเป็นอาหารแก่สรรพสัตว์เพื่อสร้างบารมีแล้ว ท่านจึงยอมทนให้บาดแผลนั้นเน่าเปื่อย จนกระทั่งท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลง ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า "ทวดขี้หนอน" หรือ "หลวงปู่ทวดหนอน" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

กระผม/อาตมภาพนั้น ต้องบอกว่าเป็นบุคคลที่โชคดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าพระเถระที่เป็นหลักชัยของทุกภาคนั้น ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์กันมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

พระมหาเถระผู้เป็นหลักชัยของภาคเหนือ คือครูบาศรีวิชัยนั้น ท่านก็เป็นครูบาอาจารย์ของครูบาอาจารย์ ก็คือเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า และหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

พระเถระผู้เป็นหลักชัยของภาคอีสาน คือหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโตนั้น ท่านก็เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ฝั้น วัดถ้ำขาม หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล และหลวงปู่วิริยังค์ วัดธรรมมงคล

พระเถระผู้เป็นหลักชัยของภาคกลางคือสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ท่านก็เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่เนียม วัดน้อยเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง

พระเถระผู้เป็นหลักชัยของปักษ์ใต้คือหลวงปู่ทวดวัดช้างให้นั้น กระผม/อาตมภาพไปกราบขอพร นอกจากฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลานศิษย์แล้ว ยังได้อัญเชิญบารมีดวงแก้วพระโพธิสัตว์ของท่านมาไว้เพื่อที่จะใช้ในงานการข้างหน้าอีกด้วย

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะไปภาคไหนของประเทศไทย กระผม/อาตมภาพก็มีครูบาอาจารย์ หลวงปู่หลวงพ่อ ผู้เปรียบเสมือนตัวแทนของพระมหาเถระในภาคนั้น ๆ คุ้มเกศคุ้มเกล้าอยู่ จึงสามารถที่จะขอบารมีท่านให้ช่วยสงเคราะห์ในวัตถุมงคลครั้งนี้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2023 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-10-2023, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,723 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อทำการปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว ก็ยังมีการเก็บกวาด โดยท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกา ซึ่งปกติ ถ้าหากว่าไม่มีใครเก็บกวาด กระผม/อาตมภาพก็ต้องทำหน้าที่เอง เนื่องเพราะว่าครูบาอาจารย์แต่ละท่านนั้นมากันคนละสาย

คำว่า คนละสาย ในที่นี้ก็คือมีความถนัดคนละอย่าง บางท่านก็ถนัดทางคงกระพัน มหาอุตม์ แคล้วคลาด บางท่านก็ถนัดทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ บางท่านก็ถนัดทางด้านเมตตาลาภผล ดังนั้น..ถ้าหากว่าจัดกระแสผิด กลายเป็นเอามหาอุตม์ไว้ด้านนอก ก็มีหวังไม่ต้องพบเจออะไรกันเลย ในเรื่องของมหาเสน่ห์ มหาลาภ ซึ่งโดนปิดตายอยู่ข้างใน..!

ในเมื่องานนี้รู้ว่าท่านอาจารย์บ๊ะมาด้วย กระผม/อาตมภาพก็ทิ้งให้ท่านทำหน้าที่เทศบาลเก็บกวาดงานทีหลัง นอกจากนั้นแล้ว ท่านก็ยังเมตตาตามมาซ่อมสุขภาพให้จนกระทั่งถึงกุฏิ ฉันน้ำชาที่กระผม/อาตมภาพชงถวายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงได้เดินทางกลับ

ในเรื่องของการรักษาการเจ็บไข้ได้ป่วยในปัจจุบันนี้ ถ้าหากว่าใครเซมาทางวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพส่งไปให้ท่านอาจารย์บ๊ะทั้งหมด แม้กระทั่งพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ฆราวาสในวัด ตลอดจนกระทั่งตัวของกระผม/อาตมภาพเองนั้น ก็ยังไปรักษาอยู่กับท่าน เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าหน้าที่ใครหน้าที่มัน ใครเรียนหมอมาก็ย่อมถนัดในการรักษา ใครเรียนวิชาทหารมาก็ย่อมถนัดในการป้องกัน หรือปะทะกับข้าศึก ใครเรียนวิชาตำรวจมา ก็ต้องถนัดในการสืบสวน จับกุม เหล่านี้เป็นต้น

เมื่อคนถนัดปรากฏตัวขึ้นมา ก็ต้องมอบถวายหน้าที่ให้กับท่านดำเนินการไป เรื่องพวกนี้มองหน้ากันก็รู้แล้วว่าใครถนัดอะไร เมื่อถึงเวลา ต่างคนก็ต่างทำ แต่บางทีก็มีอาการ "ของขึ้น" เหมือนกัน อย่างเช่นว่าไปเจอเหตุบางอย่างซึ่งหน้า ก็ต้องเอากันบ้าง..!

คำว่า เอากันบ้าง ในที่นี้ บางทีก็เป็นการหลุดแนวของตนเอง อย่างเช่นว่ากระผม/อาตมภาพเอง ในปัจจุบันนี้ทุกคนเขาถือว่าอยู่ในเส้นทางของครูบาอาจารย์แห่งลาภผล แต่ถึงเวลาถ้าหากว่าเห็นแล้วทนไม่ได้ ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนทางไป "บวก" ทันที..! ดังนั้น..ในเรื่องพวกนี้ บางทีวิสัยเก่าก็พาให้เสียเหมือนกัน

เพียงแต่ว่าวัตถุมงคลที่ทำไปนั้น บางท่านก็เอาไปใช้คนละทิศคนละทาง อย่างเช่นว่ามีโยมท่านหนึ่ง การที่น้ำท่วมใหญ่จังหวัดลำปางสองสามวันที่ผ่านมา รอบข้างพังทลายราบกันไปหมด ปรากฏว่าบ้านของโยมท่านนี้ปลอดภัยทุกประการ ทั้ง ๆ ที่อยู่ติด ๆ กัน มีเพียงต้นลำไยล้มไป ๔ ต้นเท่านั้น ญาติโยมท่านนี้ในบ้านมีแค่พระนาคปรก วัดท่าขนุน ฉลอง ๒,๖๐๐ ปีพุทธชยันตีอยู่เป็นประธานองค์เดียวเท่านั้น ส่วนในตัวนั้นก็ติดตะกรุดมหาสะท้อนเอาไว้เพื่อค้าขาย กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ "น้ำตาจิไหล"..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2023 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-10-2023, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,723 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าในเรื่องของคาถา ในเรื่องของกำลังใจนั้น ถ้าสมาธิทรงตัวแล้ว เราตั้งใจมุ่งไปทางด้านไหนก็ไปทางด้านนั้นจริง ๆ ท่านเองมั่นใจว่าตะกรุดมหาสะท้อนช่วยในเรื่องการค้าขายดี เมื่อภาวนาคาถา เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา ก็มุ่งในด้านค้าขายอย่างเดียว และขายดีเสียด้วย จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนมาว่า มโนมยา คือ ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ นั้น สำเร็จด้วยใจจริง ๆ

แบบเดียวกับที่เจ้าของร้านเสริมสวย เอายันต์เกราะเพชรไปติดร้าน แล้วลูกค้าเข้าร้านแบบชนิดทำให้ไม่หวาดไม่ไหว บอกว่าวันหนึ่งมีลูกค้า ๕ ท่าน ๘ ท่านก็หนักพอแล้ว นี่แห่เข้าไป ๒๐ - ๓๐ ท่าน ทำผมให้ลูกค้าจนแทบจะไม่มีเวลากินข้าวกินน้ำ เหล่านี้เป็นต้น

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า แล้วแต่ว่าใครจะมีศรัทธาเชื่อถือ เมื่อภาวนาหรืออาราธนาจนกำลังใจตั้งมั่นแล้ว มุ่งไปทางไหนก็เป็นทางนั้น ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจเสกมาให้อยู่ยงคงกระพัน ก็กลายเป็นเมตตาค้าขาย ตั้งใจเสกมาให้สะท้อนกลับสิ่งที่ไม่ดี ก็กลายเป็นค้าขายดี เหล่านี้เป็นต้น ต้องบอกว่าเราท่านทั้งหลายที่ยังทำไม่ถึง ก็ให้ดูกำลังใจของหลายท่านนี้เป็นตัวอย่าง พยายามเลียนแบบและสะสม "เสบียงบุญ" ตามไป กำลังใจถึงวันไหน ก็จะสำเร็จสัมฤทธิ์ผลตามที่เราต้องการเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2023 เมื่อ 03:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:43



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว