กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 01-11-2021, 02:54
รุ้งทรงกลด รุ้งทรงกลด is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2015
ข้อความ: 341
ได้ให้อนุโมทนา: 65
ได้รับอนุโมทนา 12,370 ครั้ง ใน 567 โพสต์
รุ้งทรงกลด is on a distinguished road
Default สมาธิทรงตัวในขณะที่มีอันตราย กับ ต้องคอยกลืนน้ำลายในขณะทำสมาธิ

ในขณะที่ผมกำลังสวดพระคาถาเงินล้านแบบไม่ออกเสียง แต่ยังขยับปากอยู่ โดยเมื่อสวดได้ ๑ จบ ก็จะหยิบลูกประคำ ๑ เม็ด ใส่ลงไปในกล่องที่เตรียมไว้ โดยมีทั้งหมด ๑๐๙ เม็ด


ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าจิตมีการทรงตัวในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความฟุ้งซ่านอยู่บ้าง ในขณะที่ผมสวดคาถานั้น เป็นช่วงตอนกลางคืน จึงนอนสวดคาถา เพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดเกินไป พอสวดไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงนอกบ้าน ซึ่งอาจจะมีคนทำอะไรแถวใกล้ ๆ บ้าน เป็นเสียงคล้ายกับมีคนมาเคาะเหล็กเล่น ๆ คิดว่าอาจจะมีคนมาแกล้ง ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มคิดว่า เหตุการณ์นี้อาจจะมีอันตรายสำหรับเราก็ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น ก็เลยเพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้น และคิดว่าน่าจะอยู่บริเวณนอกบ้านของเรา กะว่าเมื่อสวดจบแล้วจะออกไปดู แต่ก็ยังสวดคาถาอยู่ สวดจบก็หยิบลูกประคำใส่กล่องไปเหมือนเดิม

ในขณะที่ทำแบบนั้นอยู่ ปรากฎว่า ด้วยความที่เพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้นมาก ๆ ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ใบหน้าชา จมูกชา ในตอนที่รู้สึกว่าจมูกเริ่มชานั้น ทำให้รู้ลมหายใจเข้าออกได้เองโดยที่ไม่ต้องบังคับ เริ่มจะขยับปากยากขึ้น มีน้ำลายมากขึ้น มีอาการหิวข้าวขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงที่คิดว่าอาจจะมีอันตรายกับตัวเองได้

ยิ่งให้ความสนใจในเสียงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอาการชาบนใบหน้าและเพดานปากมากขึ้น ใจก็เต้นเร็วขึ้น ความหิวข้าวก็มากขึ้น น้ำลายก็มากขึ้น

ช่วงที่กำลังหน้าชา ปากชา นั้น รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวดีขึ้น แต่พอกลืนน้ำลาย อาการสมาธิก็รู้สึกอ่อนลง พอไม่กลืนน้ำลายก็รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวขึ้นมาใหม่ จะไม่กลืนน้ำลายเลย ก็กลัวน้ำลายจะมีมากขึ้นจนไหลออกมาเปื้อนคอ ก็ต้องคอยกลืนน้ำลายอยู่เรื่อย ๆ และเสียงคนเคาะเหล็กที่ผมกำลังเพ่งความสนใจอยู่นั้นก็หายไปได้สักพักแล้ว

ก็เลยกลายเป็นว่าสมาธิขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แบบนี้ ไปจนกระทั่งสวดมนต์เสร็จแล้ว อาการควบแน่นบริเวณใบหน้าก็ยังมีอยู่
แต่ไม่เหมือนกับตอนที่กำลังให้ความสนใจในเสียงนั้นเพราะคิดว่าอาจจะมีอันตรายกับเราได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าแน่นกว่านี้

อาการควบแน่นแบบนี้ ผมเคยเป็นมาหลายครั้งแล้ว
เคยลองเปลี่ยนไปให้ความสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านธรรมะในเว็บ หรือ อ่านหนังสือธรรมะ
ก็รู้สึกว่าควบแน่นเช่นกัน แต่รู้สึกติดขัดตรงที่ต้องลืมตา
รู้สึกว่าหลับตาแล้วสมาธิจะทรงตัวได้ดีกว่า แต่พอหลับตาก็ไม่มีอะไรให้สนใจ
นาน ๆ ไป สมาธิก็ค่อย ๆ คลายตัว
พอลืมตามาหาสิ่งที่สนใจใหม่ สมาธิก็ควบแน่นที่ใบหน้าใหม่
มีอาการชาบนหน้าและปากใหม่ พอถึงจุดหนึ่ง ก็เริ่มที่จะไม่อยากลืมตา
พอหลับตาไป แรก ๆ สมาธิจะควบแน่นมาก แต่พอผ่านไปสักพัก พอไม่มีอะไรให้สนใจ สมาธิก็เริ่มคลายตัวอีก

และการสนใจสิ่งต่าง ๆ แบบนี้นั้น ผมจะรู้ลมหายใจเข้าออกได้เอง โดยไม่ต้องบังคับ
แต่ถ้าตั้งใจรู้ลมหายใจเมื่อไหร่ จะปวดหัว ปวดตา ทันที
ยิ่งควบแน่นเท่าไหร่ก็ยิ่งปวด

แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจรู้ลมหายใจ แล้วไปสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านหนังสือธรรมะ หรือ ฟังเทศน์
แบบนี้ ผมจะรู้ลมหายใจได้เอง และไม่ปวดหัว หรือ ปวดตาอีก แม้ว่าจะมีอาการควบแน่นเท่าไหร่ก็ไม่ปวด ยิ่งชา ยิ่งควบแน่น ก็ยิ่งรู้สึกว่าดี

อยากทราบว่าถ้ามีอาการแบบนี้ขึ้นมาอีก ไม่ทราบว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ
__________________
ที่อยู่สำหรับจัดส่งของเวลาผมร่วมบูชาวัตถุมงคลในเว็บนี้คือ
นาย ปริวัฒน์ วงศ์มาศ บ้านเลขที่ ๓ ถ.เกษมวัน ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ๓๔๑๙๐ โทร ๐๙๖-๙๕๔-๔๗๒๙ เท่านั้น

(คำอวยพรประจำฤดูกาล) หน้าฝนเศรษฐี หน้าหนาวมั่งมี หน้าร้อนรวยทรัพย์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รุ้งทรงกลด : 02-11-2021 เมื่อ 17:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ รุ้งทรงกลด ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-11-2021, 03:01
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,818
ได้ให้อนุโมทนา: 270,722
ได้รับอนุโมทนา 841,481 ครั้ง ใน 12,849 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : ในขณะที่ผมกำลังสวดพระคาถาเงินล้านแบบไม่ออกเสียง แต่ยังขยับปากอยู่ โดยเมื่อสวดได้ ๑ จบ ก็จะหยิบลูกประคำ ๑ เม็ด ใส่ลงไปในกล่องที่เตรียมไว้ โดยมีทั้งหมด ๑๐๙ เม็ด

ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าจิตมีการทรงตัวในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความฟุ้งซ่านอยู่บ้าง ในขณะที่ผมสวดคาถานั้น เป็นช่วงตอนกลางคืน จึงนอนสวดคาถา เพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดเกินไป พอสวดไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงนอกบ้าน ซึ่งอาจจะมีคนทำอะไรแถวใกล้ ๆ บ้าน เป็นเสียงคล้ายกับมีคนมาเคาะเหล็กเล่น ๆ คิดว่าอาจจะมีคนมาแกล้ง ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มคิดว่า เหตุการณ์นี้อาจจะมีอันตรายสำหรับเราก็ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น ก็เลยเพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้น และคิดว่าน่าจะอยู่บริเวณนอกบ้านของเรา กะว่าเมื่อสวดจบแล้วจะออกไปดู แต่ก็ยังสวดคาถาอยู่ สวดจบก็หยิบลูกประคำใส่กล่องไปเหมือนเดิม

ในขณะที่ทำแบบนั้นอยู่ ปรากฎว่า ด้วยความที่เพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้นมาก ๆ ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ใบหน้าชา จมูกชา ในตอนที่รู้สึกว่าจมูกเริ่มชานั้น ทำให้รู้ลมหายใจเข้าออกได้เองโดยที่ไม่ต้องบังคับ เริ่มจะขยับปากยากขึ้น มีน้ำลายมากขึ้น มีอาการหิวข้าวขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงที่คิดว่าอาจจะมีอันตรายกับตัวเองได้

ยิ่งให้ความสนใจในเสียงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอาการชาบนใบหน้าและเพดานปากมากขึ้น ใจก็เต้นเร็วขึ้น ความหิวข้าวก็มากขึ้น น้ำลายก็มากขึ้น

ช่วงที่กำลังหน้าชา ปากชา นั้น รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวดีขึ้น แต่พอกลืนน้ำลาย อาการสมาธิก็รู้สึกอ่อนลง พอไม่กลืนน้ำลายก็รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวขึ้นมาใหม่ จะไม่กลืนน้ำลายเลย ก็กลัวน้ำลายจะมีมากขึ้นจนไหลออกมาเปื้อนคอ ก็ต้องคอยกลืนน้ำลายอยู่เรื่อย ๆ และเสียงคนเคาะเหล็กที่ผมกำลังเพ่งความสนใจอยู่นั้นก็หายไปได้สักพักแล้ว

ก็เลยกลายเป็นว่าสมาธิขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แบบนี้ ไปจนกระทั่งสวดมนต์เสร็จแล้ว อาการควบแน่นบริเวณใบหน้าก็ยังมีอยู่ แต่ไม่เหมือนกับตอนที่กำลังให้ความสนใจในเสียงนั้นเพราะคิดว่าอาจจะมีอันตรายกับเราได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าแน่นกว่านี้

อาการควบแน่นแบบนี้ ผมเคยเป็นมาหลายครั้งแล้ว เคยลองเปลี่ยนไปให้ความสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านธรรมะในเว็บ หรือ อ่านหนังสือธรรมะ ก็รู้สึกว่าควบแน่นเช่นกัน แต่รู้สึกติดขัดตรงที่ต้องลืมตา รู้สึกว่าหลับตาแล้วสมาธิจะทรงตัวได้ดีกว่า แต่พอหลับตาก็ไม่มีอะไรให้สนใจ นาน ๆ ไป สมาธิก็ค่อย ๆ คลายตัว


พอลืมตามาหาสิ่งที่สนใจใหม่ สมาธิก็ควบแน่นที่ใบหน้าใหม่
มีอาการชาบนหน้าและปากใหม่ พอถึงจุดหนึ่ง ก็เริ่มที่จะไม่อยากลืมตา พอหลับตาไป แรก ๆ สมาธิจะควบแน่นมาก แต่พอผ่านไปสักพัก พอไม่มีอะไรให้สนใจ สมาธิก็เริ่มคลายตัวอีก และการสนใจสิ่งต่าง ๆ แบบนี้นั้น ผมจะรู้ลมหายใจเข้าออกได้เอง โดยไม่ต้องบังคับ แต่ถ้าตั้งใจรู้ลมหายใจเมื่อไหร่ จะปวดหัว ปวดตา ทันที ยิ่งควบแน่นเท่าไหร่ก็ยิ่งปวด

แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจรู้ลมหายใจ แล้วไปสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านหนังสือธรรมะ หรือ ฟังเทศน์ แบบนี้ ผมจะรู้ลมหายใจได้เอง และไม่ปวดหัว หรือ ปวดตาอีก แม้ว่าจะมีอาการควบแน่นเท่าไหร่ก็ไม่ปวด ยิ่งชา ยิ่งควบแน่น ก็ยิ่งรู้สึกว่าดี

อยากทราบว่าถ้ามีอาการแบบนี้ขึ้นมาอีก ไม่ทราบว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ ?
ตอบ : อย่าสนใจอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกาย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
สมาธิ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว