พุทธพยากรณ์

[นายกระรอก]

ถาม : บุคคลที่เป็นพุทธภูมิจะรู้ได้อย่างไรว่าได้รับพุทธพยากรณ์หรือยัง ?
ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วในยุคสมัยของท่าน ถ้าหากว่าเป็นนิยตโพธิสัตว์ ก็มักจะเป็นผู้ได้อภิญญาสมาบัติทั้งนั้น ถ้าถามว่ารู้ได้อย่างไรนี่ไม่ต้องเสียเวลาหรอก รู้แหง ๆ อยู่แล้ว ทำไปเถอะ อีกนาน..!

ถาม : ก่อนได้รับพุทธพยากรณ์ต้องบำเพ็ญบารมีนานไหมครับ ?
ตอบ : ต่ำสุดก็ ๑๖ อสงไขย เพราะว่าของปัญญาธิกะคิดว่าจะเป็น ๗ อสงไขย พูดว่าจะเป็นอีก ๙ อสงไขย ตั้งหน้าตั้งตาทำเพื่อให้ได้เป็น ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป เพราะฉะนั้น..ก็ล่อไป ๑๖ อสงไขยแล้ว ก็คือคิดว่าจะเป็น ๗ อสงไขย พูดว่าจะเป็น ๙ อสงไขย รวมแล้ว ๑๖ อสงไขย เสร็จแล้วก็ทำเพื่อให้ได้เป็นอีก ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป เพราะฉะนั้น..ต่ำสุดก็ ๒๐ อสงไขยกับแสนมหากัป นอกนั้นก็เพิ่มเท่าตัวจาก ๒๐ ก็เป็น ๔๐ เป็น ๘๐ ไม่เห็นต้นไม่เห็นปลายเลยใช่ไหม ? เปลี่ยนใจได้นะ ...(หัวเราะ)...

[นายกระรอก]

ถาม : (ไม่ชัด) ท่านจะไปเป็นองค์สุดท้าย ?
ตอบ : องค์นั้นคือพระกษิติครรภโพธิสัตว์ คนจีนเรียกตี่จั๊ง ท่านตั้งมโนปณิธานไว้ว่า ตราบใดที่ยังมีสัตว์โลกเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร ตราบนั้นท่านจะไม่เข้าพระนิพพาน

ถาม : ท่านได้รับพุทธพยากรณ์หรือยังครับ ?
ตอบ : น่าจะได้แล้ว แต่คราวนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกนานเท่าไร

ถาม : เวลาอาราธนานึกถึงท่าน....?
ตอบ : ไม่ต้องหรอก นึกถึงพระพุทธเจ้าก็พอแล้ว พระองค์ไหนก็ได้ พระพุทธเจ้าทั้งหมด พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด พระอรหันต์ทั้งหมด พรหมทั้งหมด เทวดาทั้งหมด พระโพธิสัตว์ปัจจุบันถ้าไม่ใช่พรหมก็เทวดา

[นายกระรอก]

ถาม : ถ้ายังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์ ในยุคพระศรีอาริย์จะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทันไหม เพราะว่าถ้าคุณเพิ่งคิดอย่างนี้ก็คงอีกนาน ไม่เป็นไรหรอก..เจอพระพุทธเจ้าอย่างต่ำ ๆ สัก ๑ ล้านพระองค์ เดี๋ยวก็ได้รับพยากรณ์เอง..! ๑ ล้านพุทธันดรนี่นับไม่ได้เลย เพราะว่าพุทธันดรนี่คือช่วงพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งถึงอีกพระองค์หนึ่งใช่ไหม แล้วต้องกัปเดียวกันด้วยนะ ถ้าต่างกัปนี่บางทีต่างกันลิบโลก อย่างเช่นว่า จากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระนามว่าทีปังกร แล้วโลกว่างจากพระพุทธศาสนาไป ๑ อสงไขยกัปพอดีเลย ๑ อสงไขยกัปเสร็จแล้วก็มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระนามว่าโกณฑัญญะ อุบัติขึ้นพระองค์เดียว

ในกัปที่สมเด็จพระพุทธทีปังกรท่านตรัสรู้นั้น มีพระพุทธเจ้าทั้งหมด ๔ พระองค์ได้แก่ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระนามว่า ตัณหังกร เมธังกร สรณังกร ทีปังกร รวม ๔ พระองค์ แล้วก็ว่างไป ๑ อสงไขยกัปเต็ม ๆ แล้วก็มาสมัยพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า มังคละ กับสุมนะ ขึ้นมา ๒ พระองค์ แล้วก็ว่างไปอีก ๑ อสงไขยเต็ม ๆ สะใจ ถ้าไปเจออย่างนั้นเข้าก็อ่วม..!

พยายามดูทุกข์ให้เห็น พยายามเกาะพระนิพพานให้ได้ พยายามศึกษาว่าธรรมอันใด ทำให้คนเข้าสู่พระนิพพานได้ง่าย ยิ่งทำได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งได้รับพุทธพยากรณ์เร็วเท่านั้น ต้องรู้ละเอียดกว่าผู้อื่นอย่างน้อย ๔ เท่า ถ้ากำลังใจผ่องใสมั่นคง ความปรารถนานั้นก็สามารถที่จะเข้าถึงได้ง่าย เพราะว่าจิตใจที่ผ่องใสมั่นคงนั้นมีกำลังสูง


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕