กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-06-2009, 15:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,756
ได้ให้อนุโมทนา: 152,207
ได้รับอนุโมทนา 4,420,726 ครั้ง ใน 34,346 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default รู้จักสังเกตและเอามาใช้

ถาม : ทำไมเวลาที่เรานั่งปฏิบัติของเราเอง กับเวลานั่งฟังอาจารย์ท่านสอน จึงมีความต่างกัน เวลาฟังอาจารย์แล้วเหมือนตัวเองจะก้าวหน้า แต่เวลาทำเองกลับไม่ใช่ ?

ตอบ : ต้องสังเกตดี ๆ เวลาที่เรานั่งฝึกปฏิบัติกับตอนที่เราฟังนั้น สมาธิเราปักมั่นต่างกันอย่างไร ตอนที่เราฟังนี่เราเงี่ยหูฟัง ถ้าหากว่าบางท่านพูดเสียงเบาเราก็กลัวไม่ได้ยิน อันนั้นก็คือสมาธิ เราจะจดจ่อปักมั่นอยู่ตรงหน้า ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้น ถึงเวลาเราก็เอามาใช้ในลักษณะเดียวกัน ก็คือว่าทำอย่างไรตอนนั่งภาวนา ให้สมาธิเราปักมั่นอยู่ตรงหน้า เหมือนกับตอนที่เราตั้งใจฟัง ตรงนี้คือสิ่งที่เราต้องรู้จักสังเกตและเอามาแยกแยะ

อย่างเวลาออกบิณฑบาต ระยะนี้ฝนตก มีบ้านโยมบางหลังบันไดชันมาก ๆ แล้วก็แคบด้วย จะขึ้นจะลงต้องระวังจนตัวลีบ ไม่เช่นนั้นมีหวังหัวทิ่มลงมา ผมบอกกับพระให้สังเกตอารมณ์ใจตนเองว่า ตอนที่เดินตามถนนธรรมดากับตอนที่เดินขึ้นบันได ช่วงที่คุณขึ้นลง สติ สมาธิและปัญญาของคุณอยู่ตรงไหน สติคุณต้องรู้ระมัดระวัง..ใช่ไหม ? ไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวจะลื่น เดี๋ยวจะล้ม ขณะเดียวกันสมาธิต้องปักมั่นอยู่ตรงหน้า มีการระมัดระวัง ปัญญาก็ต้องเกิด เราจะเหยียบตรงไหน เราจะเหยียบแง่ไหนถึงจะไม่ลื่นไม่ล้ม ถ้าหากว่าสามารถรักษากำลังใจแบบเดียวกับตอนขึ้นบันได คุณจะทำท่าไหนก็รักษาสมาธิอยู่กับตัวเองได้

เพราะฉะนั้น..เรื่องอย่างนี้ต้องบอกให้เขารู้จักสังเกต ถ้าเราไม่ได้ผ่านมาเอง จะบอกเขาไม่ถูก ถ้าเรารู้จักสังเกตและหยิบเอาส่วนที่มีประโยชน์ไปใช้ เราก็จะก้าวหน้าได้เร็ว ถ้าไม่รู้จักสังเกตก็ไปได้ยาก เรื่องของการปฏิบัติ ยิ่งทำก็ยิ่งละเอียดขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะว่าอาจจะทำให้เราก้าวหน้าและก็อาจจะทำให้เราถอยหลังได้

ในส่วนของรายละเอียดที่ผิดพลาด ถ้าหากเราเผลอไปทำเข้า ก็ถอยหลัง แต่ถ้าในรายละเอียดที่ถูกต้อง ถ้าเราปฏิบัติเข้าก็จะก้าวหน้า เพราะฉะนั้น..ยิ่งทำไปยิ่งต้องช่างสังเกต หาเหตุให้เจอ ถ้าเป็นเหตุที่ดีก็ให้ทำเหตุนั้นขึ้นมา ผลดีก็จะเกิด ถ้าเป็นเหตุที่ไม่ดีก็เลิกทำ ผลร้ายก็จะไม่เกิด

ช่วงเดินไปกับช่วงที่เดินลงบันได เราเคยสังเกตไหมว่าต่างกันอย่างไร ? ถ้าสังเกตจะเห็นว่าต่างกัน บนพื้นตรงนี้เราเดินสบาย เรารู้ว่าไม่มีอะไรสะดุด ไม่มีอะไรให้ล้ม แต่ตอนเดินลงบันไดต้องระวัง สติก็จะไปจดจ่ออยู่ตรงหน้า ถ้ายิ่งตอนมืด ๆ นี่ สายตาจะต้องตามไปด้วยว่าจะตกบันไดหรือเปล่า ? ถ้าเรารู้จักสังเกตตรงนั้น แล้วหยิบออกมาใช้ในสภาพปกติ เราก็จะเห็นว่า สติ สมาธิ ปัญญา นั้น สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ในทุกสถานการณ์


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก ณ บ้านอนุสาวรีย์
๖ มิถุนายน ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:39



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว