| 
	|||||||
| ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน | 
![]()  | 
	
	
| 
		 | 
	คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
		 
			 
			#1  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
|||
		
		
  | 
|||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ฝากคำถามเพื่อนเรียนสอบถามพระอาจารย์ครับ 
		
		
		
		
		
		
		
		
			๑. เพื่อประโยชน์ความเข้าใจในเรื่องราวของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน โยมขอเรียนถามเป็นความรู้ดังต่อไปนี้ ๑.๑ ทศชาตินั้น เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านเล่าไว้ทีละเรื่อง ไม่ได้ลำดับก่อนหรือหลัง ข้อนี้ถูกหรือไม่ ๑.๒ ทศชาตินั้น แม้มีหลายกองบารมีที่ทรงบำเพ็ญในพระชาตินั้น กองที่โดดเด่นที่สุดในแต่ละชาตินั้น โยมเข้าใจว่ามิใช่ปรมัตถบารมีเสียทั้งหมด ๑.๓ พระเนมิราช ถ้านับโดยอายุ อาจประมาณเป็นพระชาติช่วงก่อนเข้ามหาภัทรกัปแรกนี้ ๑.๔ ท่านโชติปาลมาณพ สมัยพระพุทธกัสสป ถ้าอ้างเอาตามตำรา อาจถือได้ว่าปรากฏสมัยอยู่ก่อนพระเตมีย์ ๑.๕ พระโพธิสัตว์ หลายชาติท่านบำเพ็ญโดยก็ไม่ทราบว่าเพื่อจะให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ขณะที่บางชาติสามารถสืบทราบถึงความตั้งใจเดิม จึงมีปณิธานเฉพาะเพื่อพระสัพพัญญุตญาณ ถ้ายกไว้ในเรื่องโพธิสัตว์ปกตินิสัยแล้ว เหตุหนึ่งเหตุใดนั้น ก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการระลึกชาติได้บ้าง ถอดจิตไปรู้เรื่องราวบ้าง มีเทพยดามีครูบาอาจารย์บอกกล่าวบ้าง อธิษฐานเสี่ยงทายทราบเองบ้าง ข้อเหล่านี้ก็ดูไม่น่าเกินวิสัยที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะท่านในเขตปรมัตถบารมี แม้จะไม่มีการบัญญัติคำศัพท์หรือที่พูดตรงถึงรายละเอียดในสมัยที่ว่างเปล่าจากพระพุทธศาสนานั้นว่า พระพุทธเจ้าคืออะไร อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าพระโพธิญาณ ข้อที่กล่าวมาข้างต้นนี้ถือว่ามีความคลาดเคลื่อนโดยนัยหรือไม่เมื่อเทียบเคียงจากข้อมูลที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ๑.๖ โคตมพุทธวงศ์ที่ ๒๕ ในข้อความที่ว่า คราวที่เรากล่าวสอนราหุลบุตรของเราบัดนี้ ณ ที่นี้แล ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๓ จะพึงกล่าวโดยคำนวณนับมิได้ เมื่อดูในมหาราหุโลวาทสูตร ข้อสงสัยย่อมมีได้ในบุคคลผู้ไม่มีวิสัยอภิญญาญาณ ก็เมื่อบุคคลที่มีชื่อปรากฏอยู่ในพระสูตรนั้นถูกกล่าวไว้มีจำกัด ข้อนี้ควรอธิบายในเชิงการเรียนการสอนอย่างไร ๒. ข้อที่ว่า "จะรู้สองอารมณ์ สองอย่างในขณะจิตเดียวไม่ได้นั้น" ก็เมื่อโยมขณะพิจารณาทุกข์โดยทรงสมาธิอยู่ จิตทราบอยู่ด้วยโดยถ้วนทั่ว ข้อนี้อธิบายได้อย่างไร ๓. ข้อที่ว่า จิตมีสภาพจำ โยมเข้าใจว่าจิตแม้ช่วงนอน ก็มิใช่ว่าจะทรงกุศลอยู่ได้ตลอดจนถึงตื่นอย่างราบรื่นและทรงตัว แม้เราจะคิดนึกในเรื่องกุศลนั้นก่อนหลับไป หรือฝึกจนชิน อาจมีฝันร้าย อาจมีฝันเรื่องราวอื่นใดที่ปะปนอยู่กับกิเลสได้เป็นปกติ ทั้งเนื่องด้วยจิตสังขารเอง ทั้งที่เนื่องด้วยธาตุขันธ์บ้าง หรือปัจจัยอื่นบ้าง ถ้าไม่นับในส่วนคู่คือ จิตสงบจิตไม่สงบ จิตผ่องใสจิตไม่ผ่องใส ร่างกายสงบร่างกายไม่สงบ ๓.๑ แม้เราจะทรงกุศลสูงสุดเมื่อก่อนหลับได้ เมื่อในขณะที่จิตฝันฟุ้งอยู่นั้นเกิดเสียชีวิตไปในระหว่างหลับ เราจะมีคติใดเป็นที่ไปได้บ้าง ๓.๒ แม้เราจะทรงกุศลสูงสุดเมื่อตื่นนอนได้ เมื่อเกิดเสียชีวิตในระหว่างวันเราทรงได้เพียงแค่ประคองสติไว้โดยจิตมิได้น้อมไปในกุศลหรืออกุศลธรรม เราจะมีคติใดเป็นที่ไปได้บ้าง ๔. ข้อที่ว่า บุคคลใดสามารถทำจิตให้ว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว เรากล่าวว่า บุคคลนั้นมีจิตไม่ว่างจากฌาน ขึ้นชื่อว่าอารมณ์ ย่อมเป็นธรรมดาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในระหว่างวัน ข้อนี้อธิบายเพื่อแก้ข้อสงสัยได้อย่างไร ๕. ข้อที่ว่า เทวดา พรหม ยังเป็นผู้มีนิวรณ์ครอบงำได้ ท่านอาจารย์เห็นเป็นเช่นไร ๖. ข้อที่ว่า เทวดา พรหม เมื่อไม่นับรวมผู้ที่ตั้งใจจุติเพื่อไปบำเพ็ญบารมีต่อ ย่อมมีได้ทั่วไปที่ท่านจะมีอายุขัยไม่เต็มภูมิในชั้นนั้น ในทางกลับกัน ผู้เสวยทุกข์ในนรกภูมิหนึ่ง ย่อมมีได้ทั่วไปที่ผู้เสวยทุกข์จะมีอายุขัยไม่เต็มภูมิในนรกนั้น ข้อเหล่านี้มีได้เป็นไปได้หรือไม่ ๗. เมื่อเราจุติบังเกิดในพรหมโลก ย่อมไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้มีอารมณ์ต่ำไปกว่าปฐมฌานจวบจนกว่าจะจุติไปสู่ภพอื่น พระคุณเจ้าเห็นอย่างไร ๘. เมื่อโยมทรงอยู่ฌานสาม โดยสนิทแน่วแน่แล้ว สังเกตว่า เมื่อคิด จิตยังคิดได้ แม้ไม่มีผลสำเร็จของการคิดนั้นเกิดขึ้น แต่ก็รู้ชัดสภาพธรรมตลอดถ้วนทั่วภายในแลคล้ายสัมปชัญญะ โดยอารมณ์ปักยังคงทรงตัวอยู่ หรือเพียงนึก ภาพน้ำสามารถปรากฏทันทีเป็นประกายและกำหนดทรงไว้ได้ ถ้ายกไว้ในส่วนวสี เมื่อการคิดและนึกดูน่าจะสงเคราะห์ลง วิตก วิจาร อันไม่ใช่วิสัยของฌานสาม ข้อนี้อธิบายในเชิงปริยัติได้อย่างไร ๙. ถ้าโยมจะประมาณขนาดสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดที่จะมีจิตสิงอยู่ได้ พระพุทธเจ้ามีตรัสไว้มีหรือไม่ ๑๐. เราย่อมทราบกันอยู่ว่าพระพุทธเจ้าในอดีตนั้นมีมาแล้วมากมาย หากเทียบเคียงทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันที่ประมาณอายุโลกนี้ไว้ที่ราว ๔,๖๐๐ ล้านปี ย่อมน้อยกว่าการดำรงอยู่เต็มอายุขัยในสวรรค์ชั้นที่หกเพียงครั้งเดียว ข้อสันนิษฐานที่ว่า พระพุทธเจ้าย่อมจะทรงอุบัติในเขตชมพูทวีป แต่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่มีมาในอดีตหรืออนาคตทั้งหมดจักทรงอุบัติบนโลกใบนี้ ท่านอาจารย์มีความเห็นเป็นเช่นไร ๑๑. โยมเล็งเห็นว่าแม้ของอันเกิดแต่อธิษฐานทั้งหลาย ของอันเป็นสิ่งธาตุวิเศษทั้งหลาย ของอันเป็นทิพย์ทั้งหลายก็ย่อมมีอันตรธานไปได้ ไม่เว้นแม้แต่พระจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อกาลเวลาหนึ่งนั้นมาถึง เมื่อเหตุผลและปัจจัยเพื่อการกำหนดอยู่ตั้งอยู่ดำรงอยู่ของสมมตินั้นได้แปรเปลี่ยนไปอันตรงกันข้ามกับจิตเมื่อยังมีอวิชชาแล้วไซร้ ย่อมเป็นสิ่งเที่ยงแท้ต่อภพน้อยภพใหญ่ในสังสารวัฏอย่างไม่มีโอกาสที่จะสิ้นสุดยุติกันลงได้โดยไม่ต้องสงสัย ความคิดนี้เป็นทิฏฐุปาทานหรือไม่ ขอบคุณครับ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2017 เมื่อ 15:37 เหตุผล: แก้ใขข้อความให้ถูกต้องเหมาะสม  | 
| สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เดือนเต็มดวง ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#2  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  ทศชาตินั้น เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านเล่าไว้ทีละเรื่อง ไม่ได้ลำดับก่อนหรือหลัง ข้อนี้ถูกหรือไม่ครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถูกครับ...! ถาม : ทศชาตินั้น แม้มีหลายกองบารมีที่ทรงบำเพ็ญในพระชาตินั้น กองที่โดดเด่นที่สุดในแต่ละชาตินั้น โยมเข้าใจว่ามิใช่ปรมัตถบารมีเสียทั้งหมด ใช่หรือไม่ครับ ? ตอบ : ใช่ครับ...! 
				__________________ 
		
		
		
		
		มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-)  | 
| สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#3  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : แม้เราจะทรงกุศลสูงสุดเมื่อก่อนหลับได้ เมื่อในขณะที่จิตฝันฟุ้งอยู่นั้นเกิดเสียชีวิตไปในระหว่างหลับ เราจะมีคติใดเป็นที่ไปได้บ้างครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อยากจะให้ "ส้นตีน" ก่อนครับ...! ถ้าทรงสมาธิได้จะไปฝันฟุ้งอะไรเล่า ? 
				__________________ 
		
		
		
		
		มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-)  | 
| สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#4  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : โยมเล็งเห็นว่าแม้ของอันเกิดแต่อธิษฐานทั้งหลาย ของอันเป็นสิ่งธาตุวิเศษทั้งหลาย ของอันเป็นทิพย์ทั้งหลาย ก็ย่อมมีอันตรธานไปได้ ไม่เว้นแม้แต่พระจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อกาลเวลาหนึ่งนั้นมาถึง เมื่อเหตุผลและปัจจัยเพื่อการกำหนดอยู่ ตั้งอยู่  ดำรงอยู่ของสมมตินั้น ได้แปรเปลี่ยนไปอันตรงกันข้ามกับจิตเมื่อยังมีอวิชชาแล้วไซร้ ย่อมเป็นสิ่งเที่ยงแท้ต่อภพน้อยภพใหญ่ในสังสารวัฏ อย่างไม่มีโอกาสที่จะสิ้นสุดยุติกันลงได้โดยไม่ต้องสงสัย ความคิดนี้เป็นทิฏฐุปาทานหรือไม่ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ตราบใดที่ยังเข้าไม่ถึงความเป็นพระอริยเจ้า ทุกคนย่อมมีทิฏฐุปาทานทั้งนั้น ต่อให้ไปจำคำพูดวิลิศมาหราของพระอริยเจ้ามาก็ไม่ใช่ของเอ็ง...! 
				__________________ 
		
		
		
		
		มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-)  | 
| สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |