กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-03-2016, 14:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,723 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนขยับนั่งในท่าที่ถนัดของตน ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด ไม่ว่าจะเป็น พุทโธ นะมะพะธะ สัมมาอะระหัง พองหนอยุบหนอ หรือจะเป็นตัวบทพระคาถาใด ๆ ก็ได้ ที่เราเคยภาวนาจนขึ้นใจมาแล้ว การกำหนดลมหายใจจะให้สัมผัสจุดเดียว ๓ จุด ๗ จุดหรือรู้ตลอดกองลมก็ได้

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เมื่อครู่นี้มีโยมถามว่า เปิดเสียงสวดมนต์ทั้งวัน จะมีผลอย่างไรบ้าง ? ซึ่งความจริงสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าการปฏิบัติภาวนาของเรานั้น สิ่งที่สำคัญก็คือต้องประคับประคองอารมณ์ใจของเรา ให้อยู่กับความดีให้ได้ทั้งวัน ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราจะต้องมีเทคนิคและวิธีการซึ่งเหมาะเฉพาะตน แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ว่าจะทำอย่างไรที่ให้เรารักษาอารมณ์ใจเอาไว้ได้

อย่างอาตมาสมัยก่อน ตื่นเช้าขึ้นมาเจริญกรรมฐานตอนตี ๓ เมื่อล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว ก็จะอ่านหนังสือกรรมฐาน ๔๐ ของหลวงพ่อวัดท่าซุงหนึ่งบท โดยอ่านในลักษณะควบกับลมหายใจเข้าออกไปด้วย ซึ่งต้องบังคับตัวเองอย่างหนักว่าต้องอ่านให้จบ ไม่อย่างนั้นทันทีที่นึกถึงลมหายใจเข้าออก สมาธิจะทรงตัวไปเลย ก็ไม่อยากจะอ่านหนังสือแล้ว

ในระยะแรก ๆ ก็อาศัยคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิ ทำให้เข้าถึงสมาธิได้เร็วมาก เมื่ออ่านจบแล้วก็นั่งภาวนาต่อไป หลังจากนั้นเมื่อภาวนาจนเต็มที่แล้ว อารมณ์ใจคลายออกมา ในช่วงนั้นยังไม่เข้าใจวิธีพินิจพิจารณาในวิปัสสนาญาณ ก็จะอาศัยบทพระคาถาต่าง ๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเคยให้ไปทำ ซึ่งแต่ละบทท่านบอกว่าต้องภาวนาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ก็ทำมาจนเคยชิน

เมื่อมีผลแล้วไปกราบถวายรายงาน ท่านก็ให้คำชมและให้พระคาถาบทใหม่ที่มีผลอย่างอื่นมา เพื่อนำไปภาวนาต่อ ทำให้มีตัวบทพระคาถาเป็นจำนวนมาก จึงใช้วิธีกำหนดว่า เราจะภาวนาพระคาถาบทนี้ ๓๐ นาที บทนี้ ๓๐ นาที เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2016 เมื่อ 20:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-03-2016, 14:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,723 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้ขณะที่ทำหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะเป็นกวาดบ้าน ถูบ้าน หรือว่าทำการทำงานตามอาชีพก็ตาม ก็จะไม่ลืมเรื่องของลมหายใจเข้าออก พร้อมกับภาวนาบทพระคาถาไปด้วย จนกว่าจะครบถ้วน ซึ่งทำให้สามารถรักษาอารมณ์ใจอยู่กับการภาวนาได้ ในระยะเวลาที่ยาวนาน

จนกระทั่งมีตัวบทพระคาถาหลายสิบบท กินเวลาเป็นวัน การทำอย่างอื่นก็ลำบาก เพราะว่าจะมีการภาวนาเช้า กลางวัน และเย็นอย่างละรอบใหญ่ พร้อมกับแผ่เมตตาเป็นปกติ จึงใช้วิธีลดเวลาในการภาวนาพระคาถาลง อย่างเช่นว่าเคยภาวนาบทละ ๓๐ นาที ก็เหลือบทละ ๑๕ นาที เป็นต้น

เมื่อภาวนาไป ๆ เกิดความคล่องตัวขึ้นมาก็ไม่ต้องอาศัยนาฬิกา เพราะว่าเมื่อครบ ๑๕ นาที สมาธิจะคลายตัวออกมาเอง เหลือบดูนาฬิกาเห็นว่าตรงเวลาแล้ว ก็เปลี่ยนไปภาวนาคาถาบทใหม่ เมื่อภาวนา สมาธิก็จะกลับทรงตัวลึกเข้าไปตามเดิม และจะคลายออกมาเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนบทพระคาถาใหม่อีก ดังนี้เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2016 เมื่อ 20:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-03-2016, 15:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,723 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอมาระยะหลังเมื่อเกิดความเคยชิน สภาพจิตก็เริ่มแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ คือเริ่มดิ้นรนจนไม่ยอมอยู่กับความสงบ ก็ต้องอาศัยเทคนิคในการกำหนดดวงกสิณแบบต่าง ๆ อย่างเช่นว่าสีขาว สีเขียว สีแดง สีเหลือง สลับกันอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จนกระทั่งจิตเคยชินอีก ก็เปลี่ยนมากำหนดภาพพระพุทธรูป อย่างเช่นว่า ภาพพระวิสุทธิเทพ ภาพพระพุทธชินราช ภาพพระแก้วมรกต เป็นต้น สลับไปสลับมา เช่น หายใจเข้าให้ภาพพระแก้วมรกตไหลลงไปในท้อง ภาพพระพุทธชินราชอยู่กลางอก ภาพพระวิสุทธิเทพอยู่บนศีรษะ สลับกันไปสลับกันมาอย่างนี้ เป็นต้น

หรือถ้าถึงเวลาแล้วสภาพจิตรู้สึกว่าเต็มแล้ว ไม่สามารถที่จะภาวนาต่อได้ ก็เปลี่ยนมาใช้วิธีเปิดเสียงสวดมนต์แทน ซึ่งเสียงสวดมนต์ที่ชอบใจที่สุด กลับเป็นเสียงสวดมนต์แบบทิเบต เปิดแล้วทำให้รู้สึกว่าจิตใจโปร่งเบา สามารถทำงานไปด้วยกำหนดลมหายใจไปด้วย ก็ใช้วิธีดังนี้

ดังนั้น...ญาติโยมทั้งหลาย ถ้าหากเห็นว่าวิธีการไหนเหมาะสมแก่ตัวเอง สามารถประคับประคองรักษาอารมณ์ใจของตนเอาไว้ได้ ก็ให้เลือกใช้วิธีการทั้งหลายเหล่านั้น เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราต้องรู้เองว่าอะไรเหมาะอะไรควรแก่เราเป็นการเฉพาะตัว ไม่ใช่ว่าเหมาะควรแก่เราไปเสียทุกอย่าง

และที่ต้องไม่ลืมก็คือ เมื่ออารมณ์ใจทรงตัว ถ้าหากว่าไม่ยอมภาวนาแล้ว ให้รีบหาวิปัสสนาญาณมาให้คิด ไม่เช่นนั้นแล้วจิตจะเอากำลังสมาธิไปฟุ้งซ่าน แล้วเราจะเดือดร้อน เพราะว่าดึงคืนได้ลำบาก เนื่องจากจิตเอากำลังของสมาธิไปฟุ้งซ่านแทน

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-03-2016 เมื่อ 21:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:44



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว