เหตุใดต้องลำบากทำมาหากิน
			 
			 
			
		
		
		
			
			ถาม :  เหตุใดต้องลำบากทำมาหากิน ?  
ตอบ:  คนอย่างพวกเราสร้างบารมีมาเยอะ  ถ้าปล่อยให้สบายจะเตลิด ไม่เห็นทุกข์ ก็เลยต้องใช้วิธีนี้ ถ้าสังเกตดูจริง ๆ  จะเห็นได้ว่าถ้าเป็นสิ่งที่สมควรจะได้ เราจะได้ แสดงว่าทำบุญมาเหลือเฟือแล้ว  
 
แต่บังเอิญกำลังใจของคนประเภทนี้เข้มแข็งเกินไป ไม่มีสายกลาง คือ  ซ้ายสุดกับขวาสุดอย่างเดียว ถ้าปล่อยให้สบายเมื่อไรจะเตลิดเปิดเปิง  เพราะฉะนั้น...ต้องบี้ให้ตาย  
       
ถาม:   ให้เห็นทุกข์ตลอด ?  
ตอบ:  ถ้าเห็นทุกข์เมื่อไร ก็จะรู้จักเข้าถึงธรรมเอง  
       
ถาม:   มาสังเกตตัวเองช่วงแรกทุกข์เพราะตัวเราเอง  ความรักหรืออะไรก็ตาม ความรักตัวเราเอง รักลูก รักหลาน ทำให้เกิดทุกข์ทั้งนั้น ทำไมถึงทำใจได้ลำบากค่ะ ทั้ง ๆ ที่รู้นะคะ ?  
ตอบ:  ก็เพราะสิ่งเหล่านี้เรียกว่า "สังโยชน์" หมายถึงเครื่องร้อยรัดสัตว์ให้จมอยู่กับวัฏฏสงสาร จะถ่วงเราอยู่เสมอ  
 
เรื่องนี้ต้องดูกำลังใจ ยายหนูอ้วนกิ่งกาญจน์  อายุถ้านับก็ยังน้อยอยู่ เพิ่งจะ ๒๐ ต้น ๆ เขาบอกว่า "หลวงพ่อเจ้าขา  ทำไมเวลาหนูเห็นคนบางคนที่เขาทำความดีแล้ว  ก็เกิดความชื่นชมความยินดีในความดีของคนอื่นเขา  แต่มาจับความรู้สึกของตัวเองจริง ๆ แล้วรู้สึกร้อน ๆ คือเห็นก็เกิดความรัก  ความเคารพ พลอยยินดีที่เขาทำ อยากเลียนแบบในสิ่งนั้นบ้าง"  
 
อาตมาก็ตอบไปว่า คำว่า  “รัก” กับคำว่า  “โลภ” เมื่อรวมกันแล้ว พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า  “ราคะ” คือความยินดี อยากมี อยากได้ ถึงเราจะยินดีในความดีเขาก็จริง แต่ว่าตัวราคะนี้ท่านเรียกว่า  “ราคัคคิ” ไฟคือราคะ  “โทสัคคิ” ไฟคือโทสะ “โมหัคคิ” ไฟคือโมหะ ในเมื่อเป็นไฟ ย่อมเผาเราให้ร้อนได้ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กขนาดนั้นสามารถคลำจุดนี้เจอได้ 
 
 
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ 
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
		 
		
		
		
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2016 เมื่อ 03:06
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |