กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 29-01-2010, 09:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,589 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default สร้างบุญเอาไว้ดี ย่อมได้เกิดในที่ดี

ในเรื่องของบุญเกี่ยวกับสถานที่ ถ้าหากว่าสร้างบุญไว้ดี ก็จะได้เกิดในที่ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เคารพบูชา บางคนต้องตะเกียกตะกายไปไกล ๆ บางคนก็เกิดที่ข้างรั้ววัดนี่เอง

บุคคลที่สร้างบุญเอาไว้ดี ก็เกิดในที่อันเหมาะสม อยู่ใกล้พุทธสถานที่สำคัญ หรือว่าใกล้พระพุทธรูปที่สำคัญ
นึกถึงนางฟ้าปูทะเล สมัยนางฟ้าปูทะเลเป็นมนุษย์ เธอชอบไปนั่งมองมณฑปแก้ว นั่งมองไปก็สบายใจ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีอาชีพขายปู ปรากฏว่าตายไปแล้วไปเป็นนางฟ้า มีวิมานเป็นเพชรทั้งหลังเลย เพราะใจไปยึดมณฑปแก้ว ท่านที่อยู่ใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ก็เลยค่อนข้างจะได้เปรียบกว่าคนอื่น ถ้าเราอยู่ใกล้ มีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสจริง ๆ เราสามารถที่จะไปกราบไหว้บูชาได้ทุกวัน

เรื่องนี้ขอชื่นชมคนพม่าแบบไม่ปิดไม่บังเลย คนพม่าไม่ว่าจะสร้างวัดสร้างเจดีย์อยู่ที่ไหนก็ตาม จะมีคนดูแลปัดกวาดทำความสะอาด และใช้งานอยู่ตลอด ไม่มีการทำแล้วทิ้งแบบของเรา จะสร้างหลังเล็กหลังใหญ่ขนาดไหนก็ตาม เขาเข้าไปไหว้บูชาตลอด อย่างเจดีย์วัดท่าขนุน พวกมอญ พวกพม่าเดินขึ้นไปไหว้กันอยู่ทุกวัน แต่คนไทยเองจะขึ้นแต่ละทีไปเกี่ยงว่า บันไดตั้งสองร้อยกว่าขั้น พวกชาวมอญ ชาวพม่าเขาขึ้นไปก็จุดธูปจุดเทียน บางทีก็ไหม้องค์พระไปด้วยเพราะไปปักเอาตรงตักพระ แต่นั่นต้องให้อภัย เพราะเจตนาเขาจะเอาบุญ เพียงแต่ว่าเขาจุดเทียนไปแล้ว มาก ๆ เข้า ก็ล้มทับไหม้องค์พระ ก็ดีเหมือนกัน ทำให้พระดูเก่า...ดูขลังดี..!

คนพม่าเวลาสร้างศาสนสถานไว้ที่ไหน ใกล้ไกลก็ตาม เขาไปกราบไหว้ ไปสวดมนต์กันทุกวัน เขาไม่ได้ทำแล้วทิ้งเฉย ๆ เหมือนอย่างเรา ทีนี้ถ้าพวกเราสามารถทำอย่างนั้นได้จะดีมาก ๆ เคยเห็นคุณยายแก่ ๆ พอไปถึงแกก็ตัดเอากิ่งไม้ข้าง ๆ นั่นแหละ มามัดรวม ๆ กันสัก ๗ - ๘ ยอด ทำเป็นไม้กวาด แล้วแกก็เริ่มกวาด พอกวาดเสร็จเรียบร้อย แกก็ไปสวดมนต์ ถ้าเราทำอย่างนั้นได้ทุกวัน เอาแค่หิ้งพระในบ้านเรา ไม้ขนไก่สักอัน ถึงเวลาก็ปัดฝุ่น ปัดฝุ่นเสร็จก็ค่อยสวดมนต์ไหว้พระ ไม่ใช่รอปีหนึ่ง สงกรานต์ทีแล้วค่อยทำความสะอาด บางคนสองปีก็ไม่เคยทำความสะอาดเลย

จึงได้บอกว่าเรื่องการปฏิบัติ เขาถือจริงจังขนาดนั้น ให้ความเคารพทุกที่ เขาเห็นว่าเจดีย์หรือศาสนสถานอะไรก็ตาม คือตัวแทนของพระรัตนตรัยทั้งหมด อนุสติของเขาแน่นกว่าของเรามาก เขากราบได้ทุกที่ เขาไหว้ได้ทุกที่ ไม่จำเป็นว่าต้องไปเฉพาะวัดสำคัญ

ดูแล้วก็เปรียบเทียบ เห็นข้อดีของเขาแล้วเอามาใช้งาน ถ้าหากเป็นข้อด้อยของเราก็พยายามแก้ไข ถ้าทำอย่างนี้ได้ก็จะก้าวหน้า
ตัวนี้แหละสัมมัปปธาน ๔ เพียรสร้างความดี เพียรรักษาความดี เพียรขับไล่ความชั่ว เพียรระมัดระวังอย่าให้ความชั่วเกิดขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2014 เมื่อ 09:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-01-2010, 09:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,589 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปพระบรมธาตุอินทร์แขวน มีวิธีขึ้นหลายวิธีด้วยกัน อย่างแรกคือ นั่งรถรวดเดียวจากข้างล่างขึ้นไปข้างบนเลย ค่ารถแพงกว่าปกติหนึ่งเท่าตัว เส้นทางทั้งหมด ๘ ไมล์ ราว ๆ เกือบ ๑๓ กิโลเมตร

ไมล์ที่ ๑ - ๗ ถ้าสมมติราคา ๕๐๐ จั๊ต ไมล์สุดท้ายบวกอีก ๕๐๐ จั๊ต หรือไม่เขาก็ส่งเราแค่ไมล์ที่ ๗ แล้วเราก็เดินต่อ ส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีนี้ คราวนี้ช่วงไมล์สุดท้ายนั้นมีหลายอย่าง อย่างแรกคือเดินขึ้นไปเอง อย่างที่สองก็นั่งแคร่ มีคนหามให้ อย่างที่สามก็ให้เขาแบกกระเป๋าขึ้นไปให้ แล้วเราเดินตัวเปล่า อาตมาเจออย่างที่สี่จนได้ เขาแบกกระเป๋าให้ แล้วคนเดินไปไม่ไหว ท้ายสุดก็เลยเอาคนใส่ตะกร้าไปด้วย เขาเก่งจริง ๆ แบกคนไปด้วย..!

ตอนแรกอาตมาก็คิดว่าเรานั่งแคร่ดีกว่า เพราะว่าตอนนั้นแคร่หาม ๔ คน ราคา ๑,๐๐๐ จั๊ต (สมัยนั้นเทียบเงินไทยเท่ากับร้อยกว่าบาท) กำลังจะเดินไปถามว่า หามแคร่ราคาเท่าไร ก็เจอคนเดินตัดหน้าไป บุคคลนี้เขาใช้ไม้เท้าสองข้าง มีขาอยู่แค่หัวเข่า เขาเอาผ้าพันหัวเข่าเสียหนาเลย เดินขึ้นไปข้างบน พอขยับไปไกลอีกหน่อย ตายละหว่า..คุณยาย ตาบอดด้วย ผมขาวทั้งหัวเลย ให้หลานสองคนจูงเดินขึ้นไป อารมณ์จะนั่งแคร่นี่หายเกลี้ยงเลย เดินดีกว่า ถ้าไม่เดินอายหมาแน่..! พอเห็นลักษณะอย่างนั้นแล้วทำให้ฮึด ในเมื่อเขาไปได้ เราก็ต้องไปได้

ถาม : คนที่เดินขึ้นกับคนที่นั่งแคร่ขึ้น ต่างกันอย่างไรคะ ?
ตอบ : ความมุ่งมั่นต่างกัน คนที่เดินขึ้นแสดงว่าบารมีเขาสูงกว่า เขารู้สึกดีที่ได้เดินขึ้นไปถวายพุทธบูชาต่อองค์พระเจดีย์ ด้วยความเพียรพยายามของตัวเอง จะมีอยู่จำนวนมากด้วยกัน ที่เดินจากที่พักข้างล่างขึ้นไป เขาจะเดินกันตอนกลางคืน เพราะอากาศเย็นสบาย


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2014 เมื่อ 09:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว