กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-10-2025, 20:31
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 589
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 28,187 ครั้ง ใน 1,077 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-10-2025, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,265
ได้ให้อนุโมทนา: 160,501
ได้รับอนุโมทนา 4,511,504 ครั้ง ใน 36,881 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือที่เราส่วนใหญ่เรียกกันง่าย ๆ ว่า "วันตักบาตรเทโว" ความจริงบาลีเขาเรียกว่าเทโวโรหณะ ก็คือวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก

ความจริงพระองค์ท่านเสด็จลงมาในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ แต่ธรรมเนียมประเพณีของเรา มาตักบาตรกันในวันแรม ๑ ค่ำ สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ บางคนก็เรียกว่า "ตักบาตรดาวดึงส์" ก็คือหลังจากที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยแสดงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ตลอดพรรษา

เราท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่าพระอภิธรรมนั้น ส่วนใหญ่เป็นหัวข้อธรรมที่กินความมากเป็นพิเศษ ถ้าไม่ได้ "อุคฆฏิตัญญูบุคคล" คือ ผู้ที่ฟังหัวข้อแล้วเข้าใจเลย อย่างบรรดาพรหมเทวดาทั้งหลาย มนุษย์ทั่ว ๆ ไปกว่าจะเข้าใจ ก็คงต้องสร้างบุญสร้างกุศลด้านนี้มาโดยเฉพาะ

แบบเดียวกับภิกษุลูกชาวประมงทั้ง ๕๐๐ รูป ที่ในอดีตเกิดเป็นค้างคาว ได้ฟังพระสวดอภิธรรมแล้ว มัวแต่เพลินกับเสียงสวดเลยตกลงมาตาย ไปเกิดเป็นเทวดาอยู่นานแสนนาน พอหมดจากอานิสงส์การเป็นเทวดา ลงมาเกิดเป็นลูกชาวประมง กุศลเก่าส่งผล ได้บวชเป็นสัทธิวิหาริกของพระสารีบุตร

พระสารีบุตรกราบทูลถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "ควรที่จะให้หลักธรรมอะไรแก่สัทธิวิหาริกทั้ง ๕๐๐ รูปนี้ดี ?" พระพุทธเจ้าจึงตรัสพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ซึ่งเป็นของเก่าที่ฝังใจอยู่ เมื่อได้ฟังของเก่า บรรดาภิกษุลูกชาวประมงทั้ง ๕๐๐ รูปก็บรรลุอรหัตผล..!

แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ขนาดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงธรรมโปรดแก่บรรดาเทวดานางฟ้าทั้งหลาย ใช้เวลาถึง ๓ เดือนของโลกมนุษย์ แล้วถ้าไม่ใช่อุคฆฏิตัญญูบุคคลอย่างเทวดานางฟ้า ที่ฟังเพียงหัวข้อธรรมก็เข้าใจ จะต้องใช้เวลานานเท่าไร ?

พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์นอกจากจะทำให้พระพุทธมารดาบรรลุพระโสดาบันแล้ว ยังทำให้เทวดานางฟ้า ๘๐ โกฏิบรรลุธรรมไปด้วย พูดง่าย ๆ ว่าเป็นหลักธรรมที่ทำให้มีผู้บรรลุมรรคผลมากที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2025 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-10-2025, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,265
ได้ให้อนุโมทนา: 160,501
ได้รับอนุโมทนา 4,511,504 ครั้ง ใน 36,881 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความจริงพระพุทธมารดาท่านสามารถบรรลุอรหัตผลได้เลย แต่ติดด้วยสัญญาเดิมว่าจะไปเกิดเป็นพระพุทธมารดาอีกรอบหนึ่ง..! ก็คือเป็นแม่พระพุทธเจ้าองค์เดียวยังไม่สะใจ ขอเกิดไปเป็นแม่พระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่ง..! ซึ่งเรื่องพวกนี้ ถ้าท่านต้องการรายละเอียด ไปดูในมธุรัตถวิลาสินี อรรถกถาพุทธวงศ์ จะมีกล่าวเอาไว้ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเวลาอ่านหนังสือ อ่านอะไรแล้ว มักจะจับจุดผิดพลาดได้เร็วมาก..!

เราจะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติได้ ๗ วัน พระนางสิริมหามายาก็เสด็จสวรรคต แล้วพระองค์ท่านก็โดนเลี้ยงดูมาโดยพระน้านางปชาบดีโคตมี ภายหลังบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ไปเทศน์โปรดพระประยูรญาติแล้ว พระน้านางเธอมีศรัทธาอยากจะบวช อุตส่าห์เดินติดตามไปเป็นระยะทางไกลมาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้บวช

โดยตรัสว่า "ถ้าผู้หญิงบวชในพระพุทธศาสนา ก็เหมือนปล่อยให้เพลี้ยเข้าไปในไร่อ้อย ต้นอ้อยมีแต่จะโดนทำลายลงในระยะเวลาอันไม่นาน" ซึ่งเรื่องพวกนี้ บางคนบอกว่า "องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากีดกันสิทธิสตรี..!" แต่ปัจจุบันนี้เราก็เห็นแล้วว่า แม้ผู้หญิงจะอยู่นอกวัด ก็ยังสร้างความเสียหายกับพระพุทธศาสนาได้มากมายมหาศาล อย่างข่าวใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา

แต่พระอานนท์ทูลอ้อนวอนว่า "เห็นแก่พระน้านางที่เลี้ยงดูพระองค์มาตั้งแต่เล็ก ขอทรงอนุญาตให้บวชเถิด" พระพุทธเจ้าจึงตรัส "ครุธรรม ๘ ประการ" ให้ ว่าถ้าทำได้ก็อนุญาตให้บวช อย่างเช่นว่า "ภิกษุณีแม้มีพรรษาถึงร้อย ก็ต้องเคารพภิกษุซึ่งบวชในวันนั้น" เรื่องพวกนี้สำหรับคนทั่วไปแล้วยากเป็นอย่างยิ่ง แต่นางปชาบดีโคตมีท่านได้ยิน เหมือนอย่างกับได้น้ำทิพย์ชะโลมใจ ตอบรับครุธรรม ๘ ประการโดยไม่ลังเล จึงได้บวชเป็นภิกษุณีพร้อมด้วยบริษัทบริวาร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2025 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-10-2025, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,265
ได้ให้อนุโมทนา: 160,501
ได้รับอนุโมทนา 4,511,504 ครั้ง ใน 36,881 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งพระน้านางอายุ ๑๒๐ ปี ไปทูลลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อปรินิพพาน ตอนนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระชนมายุ ๗๙ พรรษา กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วแปลกใจมากว่า ขนาดน้องแม่ยังมีอายุมากกว่าพระพุทธเจ้าถึง ๔๑ ปี แล้วพระนางสิริมหามายามีพระพุทธเจ้าตอนอายุเท่าไร ?

ถ้าตีเสียว่าพระนางสิริมหามายาอายุมากกว่า ๑ ปี ก็แปลว่าต้องคลอดพระพุทธเจ้าตอนอายุ ๔๐ กว่าปี เป็นที่สงสัยอยู่นานมาก จนกระทั่งไปเจอในมธุรัตถวิลาสินี อรรถกถาพุทธวงศ์ กล่าวไว้ชัดเจนว่า
"พระพุทธมารดามักจะมีพระประสูติกาลพระมหาโพธิสัตว์ ในระหว่างอายุ ๔๐ ถึง ๗๐ ปี เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า สัตว์อื่นไม่คู่ควรที่จะเกิดร่วมกันกับครรโภทรกับพระมหาโพธิสัตว์นั้น" ดังนั้น..เมื่อพระมหาโพธิสัตว์ประสูติแล้ว พระพุทธมารดาก็มักจะสวรรคตลงภายในเวลาไม่เกิน ๗ วัน จึงต้องให้มีอายุกาลในความเป็นมนุษย์มากสักหน่อย

ถ้าเป็นสมัยนี้ เราอาจจะสงสัยว่า "เป็นไปได้หรือที่ผู้หญิงอายุ ๔๐ ปียังมีลูก ?" ก็ต้องไปดูชาวฮุนซา ซึ่งความจริงชาวบ้านนี้เรียกว่า "หรรษา" แต่พอเขียน Hunza ฝรั่งอ่านว่า "ฮุนซา" ชาวหรรษามีอายุขัยเฉลี่ย ๑๒๐ ปี ผู้หญิงอายุ ๖๐ ปีแล้ว ยังคลอดบุตรเป็นปกติ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปถึงมาแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในประเทศที่เป็นอิสลามก็ตาม

ต้องบอกว่าเป็นประเทศที่ไปแล้วอยากจะไปอีก เพราะว่าผู้คนเป็นมิตรมาก แม้ว่าจะหน้าตาดูดุดัน เพราะว่าไว้หนวดไว้เครากัน แล้วก็ถืออาวุธสงครามติดมือเป็นปกติ แต่ถ้าไม่ใช่คนขี้กลัว ก็จะมีความสะดวกสบายมาก บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะแถว Hunza อากาศดีสุด ๆ ต้องบอกว่าหายใจเข้าจมูก รู้สึกว่าลงไปถึงหัวแม่เท้าเลย..! ถึงได้ว่าทำไมผู้คนเขาอายุยืนมากนัก

หมู่บ้านที่กระผม/อาตมภาพไปเยี่ยมนั้น หัวหน้าหมู่บ้านอายุ ๑๑๐ ปี ลูกชายคนโตอายุ ๘๐ ปี ถามว่า "จะอายุยืนเท่าพ่อไหม ?" คุณลูกชายบอกว่า "คงไม่ได้หรอก เพราะว่าผมสูบบุหรี่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2025 เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-10-2025, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,265
ได้ให้อนุโมทนา: 160,501
ได้รับอนุโมทนา 4,511,504 ครั้ง ใน 36,881 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเทศน์โปรดพระพุทธมารดาแล้ว เสด็จกลับลงมา ชาวบ้านก็ถวายการต้อนรับ ทำบุญใส่บาตร จนกลายเป็นธรรมเนียมที่พวกเรานำมาใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่เรียกกันว่างานตักบาตรเทโว

โดยเฉพาะของทางวัดท่าขนุนเรา ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดกาญจนบุรี บรรจุลงเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand เพราะว่าผู้คนแทบทั้งอำเภอมาร่วมใส่บาตรกัน

จากการที่กระผม/อาตมภาพเข้ากรรมฐานมา ๓ วัน งานนี้ต้องบอกว่าเซ็งมาก..! เพราะว่าปกติแล้วต้องมีคนมาคอยแหย่เสือ "ลองของ" อยู่เสมอ แต่งานนี้เงียบสนิท ไม่มีอะไรให้เล่นเลย..! อาจจะเป็นเพราะว่า เพิ่งจะมีงานเป่ายันต์เกราะเพชรไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

อีกส่วนหนึ่งก็คือ การเข้ากรรมฐาน ๓ วัน น้ำหนักลดไป ๓ กิโลกรัมกว่า ก็เลยทำให้เดินขึ้นเขาได้เร็วกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วใช้เวลา ๖ นาทีเดินถึงยอดเขา ปีนี้เหลือแค่ ๕ นาที..! อาจจะเป็นเพราะว่าแก่มากขึ้นก็เลยแข็งแรงขึ้น..! ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า
"ถ้าไม่สามารถเดินขึ้นลงบันไดนั้นเมื่อไร ก็จะเกษียณตัวเอง เลิกบิณฑบาตเมื่อนั้น..!" ตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่า ยังเหลืออีกกี่ปีที่พอจะขึ้นไหว ?

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2025 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว