กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-09-2025, 20:16
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,163
ได้ให้อนุโมทนา: 226,566
ได้รับอนุโมทนา 812,016 ครั้ง ใน 39,983 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,792
ได้รับอนุโมทนา 4,504,321 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปเป็นกรรมการตรวจประเมิน เพื่อยกบ้านดงขี้เหล็ก หมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านไร่ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘

แต่ว่าการจัดนิทรรศการและสถานที่ตรวจประเมินนั้น จัดกันที่วัดชาวเหนือ หมู่ที่ ๒ ตำบลบ้านไร่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของคนทั้งตำบล ตัวเจ้าอาวาสก็คือพระครูวชิรสุภัทราจารย์ วิ. หรือว่าพระครูศุภชัย ซึ่งเป็นอนุกรรมการรูปหนึ่งในโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕

การตรวจประเมินที่วัดชาวเหนือนั้น ต้องบอกว่าวัฒนธรรมประเพณีส่วนใหญ่ก็เป็นวัฒนธรรมประเพณีทางล้านนา เนื่องเพราะว่าในสมัยรัชกาลที่ ๑ นั้น มีการ "เทครัว" ชาวล้านนา หรือถ้าเรียกกันแบบไม่ไว้หน้าก็คือ "กวาดต้อน" กันมา แล้วก็ให้อยู่ในหลายบริเวณ

อย่างปีก่อนโน้นที่เราไปยังบ้านนาหนอง จังหวัดราชบุรี ตรงนั้นก็เป็น "ไท-ยวน" หรือเรียกกันชัด ๆ ว่า "ไทยโยนก" ก็คือบรรดาชาวไทยเชียงแสนที่โดนกวาดต้อนมา ทางด้านนี้เมื่อโดนกวาดต้อนให้มาอยู่บริเวณตำบลบ้านไร่ อำเภอดำเนินสะดวก เมื่ออยู่รวมกันจำนวนมากก็มีการสร้างวัด เพื่อที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้าน แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเลือดชาวเหนือแรง หรือว่าคนอื่นเห็นว่าเป็นคนเหนือสร้างวัด จึงเรียกกันติดปากมาตลอดว่าวัดชาวเหนือ

การแสดงวัฒนธรรมต่าง ๆ อย่างเช่นการฟ้อนขันดอก ก็เป็นการแสดงวัฒนธรรมชาวเหนืออย่างแท้จริง เพียงแต่ว่าที่นี่มีการแสดงหนังใหญ่ วัดขนอน จังหวัดราชบุรี ซึ่งใช้หนังวัวมาฟอก แล้วก็แกะสลักเป็นรูปตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ ลงสีอย่างสวยงาม ตอนเชิดก็เชิดแบบเดียวกับหนังตะลุง ก็คือมีไฟส่องใส่เพื่อให้เงาไปปรากฏที่จอผ้าขาว จนกระทั่งเกิดเป็นสำนวนว่า "หนังหน้าไฟ" ก็คือต้องเดือดร้อนอยู่เสมอ แต่ว่าสำนวน "หนังหน้าไฟ" นี้ คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่เข้าใจแล้วว่าหมายถึงอะไร ?!

วันนี้ทางด้านคณะหนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี เชิดหนังใหญ่ตอนพระรามรบกับทศกัณฐ์ แล้วก็สรุปจบลงตรงที่ว่า "เนื่องจากว่าพวกเราจะต้องมาตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ การรบราฆ่าฟันกันไม่ใช่วิสัยของผู้ถือศีล ดังนั้น..ขอให้ยกทัพกลับ เพื่อที่จะไปเตรียมรับการตรวจประเมินดีกว่า" ทำเอาได้รับเสียงเฮฮา ชอบอกชอบใจจากคนดูเป็นอย่างยิ่ง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,792
ได้รับอนุโมทนา 4,504,321 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่จังหวัดไหนก็ตาม ถ้าหากว่าอยู่ในส่วนของการตรวจซุ้มนิทรรศการแล้ว จะเห็นกระผม/อาตมภาพอยู่เคียงข้างองค์ประธานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ. ๗) รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็ดี

พระเดชพระคุณพระเทพสมุทรวัชราจารย์ (จรัล สิริธมฺโม) รักษาการประธานกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง ก็ตาม

การติดตามใกล้ชิดนั้นไม่ใช่การเสนอหน้า หากแต่ว่าต้องพร้อมที่จะควักกระเป๋าให้รางวัลกับเด็กหรือนักแสดงที่มาออกนิทรรศการนั้น ๆ ถ้าหากว่าองค์ประธานไม่ได้เตรียมมา ก็ต้องควักกระเป๋าให้กับท่าน เพื่อมอบรางวัลให้กับเด็ก ๆ หรือถ้าเห็นว่าท่านให้น้อยไป กระผม/อาตมภาพก็ควักเพิ่มเติมให้อีก

เรื่องพวกนี้นั้น สำหรับกรรมการอื่น ๆ แล้ว ท่านมักจะหลีกออกห่าง เพราะว่ารายจ่ายแต่ละวันนั้นมากทีเดียว อย่างเมื่อวานกับวันนี้ก็หมดไปวันละ ๕,๐๐๐ กว่าบาท..! ท่านไปใช้จ่ายในส่วนอื่นที่ตกลงกันไว้ อย่างเช่นว่าให้ซุ้มนิทรรศการแต่ละแห่งมีรายได้อย่างน้อย ๑,๐๐๐ บาท เพื่อที่เขาทั้งหลายจะได้มีกำลังใจในการเดินทางมาร่วมงาน คณะกรรมการก็จะแยกย้ายกันไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพต้องตามติดองค์ประธาน พร้อมที่จะควักกระเป๋าให้ท่านทันที ถ้าเห็นว่าท่านไม่ได้เตรียมการมา

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเห็นว่า การให้ทุนการศึกษานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าตนเองเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่มีลูกมากถึง ๑๓ คน แม้ว่าจะเสียชีวิตไป ๑ คนตั้งแต่เด็ก แต่ว่าที่เหลือ ๑๒ คนนั้น แม่ก็มีนโยบายในลักษณะที่ว่า ลูกทุกคนต้องรู้หนังสือไทย "พ่อแม่ไม่รู้หนังสือไทย ทำอะไรก็เสียเปรียบเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,792
ได้รับอนุโมทนา 4,504,321 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อต้องส่งลูกเรียนทุกคน สิ่งที่กระผม/อาตมภาพได้รับก็เป็นมรดกตกทอดจากพี่ ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ เป็นกางเกง เป็นรองเท้า เป็นหนังสือ ซึ่งเสื้อกางเกงก็ปะแล้วปะอีก รองเท้าก็ขาดจนกระทั่งนิ้วเท้าโผล่ออกมา..!

หนังสือก็ต้องพยายามหากระดาษที่ค่อนข้างหนา อย่างเช่นว่ากระดาษถุงปูนซีเมนต์ ซึ่งสมัยนั้นก็หายากเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้มาแล้วก็ต้องมาตัดให้ได้ขนาดกับหนังสือ แล้วก็เอาข้าวสุกเป็นกาวในการติด เพื่อที่จะให้หน้าปกแข็งแรง รักษาหนังสือเอาไว้ให้ใช้ได้ไปถึงรุ่นน้อง ๆ ต่อไป

การเรียนในสมัยนั้น พอขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ก็ต้องเริ่มจ่ายค่าเทอม กระผม/อาตมภาพเองนั้น ต้องขอผัดผ่อน ผัดแล้วผัดอีก จนกระทั่งถึงเส้นตายว่าถ้ายังไม่จ่ายก็ไม่ได้ "สอบไล่" ก็คือสอบในการขึ้นชั้นต่อไป จึงต้องมาควานหาเงินกันจนหมดบ้าน ถึงขนาดทุบกระปุกออมสิน เพื่อที่จะไปจ่ายค่าเทอม

ตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ นั้น ค่าเทอมก็แค่ ๒๒๐ บาท แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ตอนที่กระผม/อาตมภาพเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ นั้น ก๋วยเตี๋ยวชามละ ๑ สลึงเท่านั้น จนกระทั่งถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ก๋วยเตี๋ยวก็ยังชามละบาทเดียว ถ้าหากว่าสั่งพิเศษ มีหมูสับชิ้นเท่าฝ่ามือ ก็อยู่ที่ ๓ บาทเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จำนวนเงิน ๒๒๐ บาทจึงเป็นจำนวนเงินที่มากอย่างยิ่ง

ความจริงโยมแม่ให้กระผม/อาตมภาพหยุดเรียนตั้งแต่จบชั้นประถมปีที่ ๗ แล้ว แต่ด้วยความที่อยากเรียนต่อ ก็ต้องไปสอบชิงทุนการศึกษา ซึ่งทั้งอำเภอมีแค่ทุนเดียว จำนวน ๖๐๐ บาท แล้วก็รวม ๆ กับงานต่าง ๆ ที่ออกไปรับจ้างเขาทำในช่วงเลิกเรียน สะสมเงินเอาไว้จนกระทั่งพอที่จะจ่ายค่าเทอมในแต่ละปี ครั้นจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ แล้ว พรรคพวกเพื่อนฝูงที่เรียนค่อนข้างจะเก่ง มั่นใจว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัย ก็ไปเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,792
ได้รับอนุโมทนา 4,504,321 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนบุคคลทั่วไปที่ไม่คิดจะเรียนมหาวิทยาลัย ก็มักจะเข้าเรียนวิทยาลัยครูนครปฐม ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ส่วนตัวกระผม/อาตมภาพนั้นตั้งใจว่าจะเข้ากรุงเทพฯ ไปหางานทำ พอดีว่าช่วงนั้นมีการเปิดโรงเรียนใหม่ ก็คือโรงเรียนพาณิชยการบ้านโป่ง ซึ่งมีการเรียนสายวิชาชีพที่เรียกว่า ปวช. คือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ เรียน ๒ ปีจะได้วุฒิเท่ากับการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕

เมื่อพรรคพวกเพื่อนฝูงชวนให้ไปเป็นเพื่อนกัน กระผม/อาตมภาพเองทั้งที่ไม่คิดที่จะเรียนก็เตรียมเอกสารไปด้วย ซึ่งสมัยนั้นเรียกว่า"ใบสุทธิ" ซึ่งจะแสดงผลการเรียนของเราอยู่ในนั้น ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ประมาณ รบ. (ใบระเบียนแสดงผลการเรียน) ของเด็กรุ่นใหม่ ทันทีที่เห็นคะแนนของกระผม/อาตมภาพ เจ้าหน้าที่ซึ่งรับสมัครบอกว่า "ของเธอไม่ต้องสอบแข่งกัน ทางโรงเรียนรับเข้าเรียนเลย ให้ไปจ่ายค่าเทอม ๑,๒๐๐ บาท แล้วเตรียมตัวที่มาเรียนได้"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่กลืนน้ำลาย เพราะว่าแค่ ๒๒๐ บาทยังหากันเป็นปี แล้ว ๑,๒๐๐ บาทจะเอาที่ไหนมา ? จึงต้องเดินเข้ากรุงเทพฯ ไปทำงาน ขณะที่พรรคพวกเพื่อนฝูงซึ่งฐานะดีกว่าก็ไปเรียนต่อกัน ซึ่งในสมัยนั้น
กระผม/อาตมภาพก็ไม่มีความรู้ เพราะไม่มีการแนะแนวการศึกษา ประกอบกับอยู่ "ไกลปืนเที่ยง" บ้านนอกคอกนาด้วย จึงไม่รู้ว่าการเรียนทหารตำรวจนั้นไม่ต้องเสียเงิน ขอให้สอบข้อเขียนและทดสอบร่างกายของตนเองผ่านก็เข้าเรียนได้แล้ว แถมยังมีเบี้ยเลี้ยงให้เราอีกด้วย..!

ในเมื่อไม่รู้เรื่องว่ามีการเรียนในลักษณะอย่างนั้น จึงต้องไปทำงาน กว่าจะได้เรียนต่ออีกเล็กน้อย ก็ตอนเป็นทหารเกณฑ์แล้วอายุยังไม่เกิน ๒๓ ปี มาได้เรียนจริง ๆ จัง ๆ ก็หลังจากที่มาบวชแล้วนี้เท่านั้น

กระผม/อาตมภาพจึงเห็นความสำคัญในเรื่องของการให้รางวัลเด็ก หรือทุนการศึกษา ถึงขนาดตั้งปณิธานว่าจะให้ทุนการศึกษาให้ครบทั้ง ๓๓ โรงเรียนของอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งในแต่ละปีจ่ายหมดเป็นล้าน ๆ แล้วก็สามารถที่จะทำได้ครบตามที่ตั้งใจเอาไว้ เมื่อ ๒ - ๓ ปีที่ผ่านมานี้เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,792
ได้รับอนุโมทนา 4,504,321 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านอื่นคงจะเห็นว่า การที่ไปเสียเงินซื้อของกินของใช้ในซุ้มนิทรรศการ ก็จะได้ข้าวของมาในลักษณะที่เรียกว่า "กำไร" แต่ถ้าต้องไปควักทุนการศึกษาอย่างเดียวแบบกระผม/อาตมภาพ แถมยังต้องจ่ายมาก เป็นการขาดทุนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? แต่ว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็มักจะเลี่ยงไป ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพเดินประกบประธานกรรมการอยู่แต่ผู้เดียวมาโดยตลอด แต่เรื่องพวกนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ว่าให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรกันแน่ ?

สำหรับเรื่องการศึกษาแล้ว กระผม/อาตมภาพนั้นไม่เคยเสียดายเงินเลยแม้แต่น้อย ปัจจุบันนี้
ในแต่ละปีนอกจากให้ทุนการศึกษาทั้ง ๓๓ โรงเรียนในเขตอำเภอทองผาภูมิแล้ว พระภิกษุสามเณรของอำเภอทองผาภูมิท่านใด ถ้าตั้งใจจะเรียนที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ศรีไพบูลย์ กระผม/อาตมภาพก็ถวายค่ารถให้รูปละ ๓,๐๐๐ บาททุกเดือน

ถ้าหากว่าเป็นพระวัดท่าขนุนเอง ถ้าเรียนที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ศรีไพบูลย์ ก็รับเท่ากับวัดอื่น ๆ แต่ถ้าหากว่าเรียนที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) หรือว่าที่ มจร. (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) วังน้อย ก็เพิ่มให้อีก ๒,๐๐๐ บาท เป็นเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท จ่ายค่าเทอมให้ต่างหาก เหล่านี้เป็นต้น

การศึกษานั้นเป็นการเพิ่มโลกทัศน์ของคนให้กว้างไกลขึ้น มีโอกาสในการทำมาหากินได้ง่ายขึ้น จึงเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพตั้งใจที่จะช่วยอย่างเต็มที่ แต่ก็มีกฎเกณฑ์กติกาของตน ก็คือขอช่วยเฉพาะในเขตทองผาภูมินี้เท่านั้น เนื่องเพราะว่าถ้าช่วยเหลือทั่วไป มีเท่าไรก็ไม่เพียงพอ..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว