กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 17:13
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 561
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 27,161 ครั้ง ใน 1,049 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า วันนี้, 00:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,968
ได้ให้อนุโมทนา: 159,519
ได้รับอนุโมทนา 4,500,631 ครั้ง ใน 36,579 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงมาก ทำเอากระผม/อาตมภาพอยู่ในลักษณะของคนแก่บวกกับคนป่วย เมื่อเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้าแล้ว ได้ขอสัตตาหะฯ ในท่ามกลางสงฆ์ จากนั้นไม่ได้ออกบิณฑบาต เมื่อได้อรุณ พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตตามปกติ แต่กระผม/อาตมภาพไปฉันเช้าที่โรงครัว

หลังจากนั้นก็ออกเดินทางตรงไปยังวัดกาญจนบุรีเก่า หมู่ที่ ๒ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาร่วมงานทำบุญ ๘๙ ปี ชาตกาล พระเดชพระคุณพระราชรัตนวิมล (พยุง ฐิตสีโล ป.ธ. ๔) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อพยุง" อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดกาญจนบุรีเก่า ตามที่พระครูกาญจนกิจโสภณ, ดร. เจ้าอาวาสวัดกาญจนบุรีเก่ารูปปัจจุบัน เจ้าคณะตำบลท่าเสาได้นิมนต์มา นอกจากจะร่วมงาน ๘๙ ปี ชาตกาลของหลวงพ่อพยุงแล้ว พระครูกาญจนกิจโสภณ, ดร. ท่านยังถือโอกาสจัดงานฉลองตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ของท่านด้วย

พระครูกาญจนกิจโสภณ, ดร. หรือที่พรรคพวกเรียกกันว่า "ดร.โจ" บ้าง "พระครูโจ" บ้าง ท่านเรียนจบปริญญาเอกรุ่นเดียวกับกระผม/อาตมภาพ แล้วก็มาเป็นอาจารย์อยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ด้วยกัน ในช่วงที่หลวงพ่อพยุงท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ดร.พระครูโจก็ทำหน้าที่เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีได้เป็นอย่างดี ครั้นสิ้นหลวงพ่อแล้ว ท่านก็ต้องรับภาระในการดูแลพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมรอบวัดต่อจากหลวงพ่อพยุงท่าน

ในช่วงที่หลวงพ่อท่านเจ็บไข้ได้ป่วยเกือบ ๆ จะติดเตียง ท่านบอกว่าส่วนใหญ่แล้วก็เห็นแต่หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด ก็คือพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) ซึ่งบวชเณรกับหลวงพ่อพยุงที่วัดกาญจนบุรีเก่า หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดท่าเสาแห่งนี้ แล้วได้ส่งเข้าไปศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมกับหลวงพ่อเจ้าคุณไพบูลย์ - พระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ.๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) แล้วค่อย ๆ เจริญเติบโตในทางคณะสงฆ์ขึ้นมา จนเป็นเจ้าคณะจังหวัดอยู่ในปัจจุบัน มาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 6 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), นิรันตราย (วันนี้), พี่เสือ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #3  
เก่า วันนี้, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,968
ได้ให้อนุโมทนา: 159,519
ได้รับอนุโมทนา 4,500,631 ครั้ง ใน 36,579 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอีกรูปหนึ่งที่ท่านพระครูโจกล่าวถึงว่ามาเยี่ยมเยียนหลวงพ่อพยุงอย่างสม่ำเสมอ ก็คือกระผม/อาตมภาพนี่เอง ซึ่งในส่วนนี้ กระผม/อาตมภาพนั้นถือว่าบุคคลที่เราเคยเคารพนับถือ เคยอาศัยร่มโพธิ์ร่มไทรจากท่านช่วยปกปักรักษา เมื่อถึงเวลาท่านเฒ่าชะแรแก่ชราลง อย่างไรเสียก็ต้องไปเป็นกำลังใจให้กับท่านบ้าง จึงยังคงไปมาหาสู่เป็นปกติ

กระผม/อาตมภาพก็ทำตนอย่างนี้มาโดยตลอด พร้อมกับได้รับคำตำหนิมากกว่าคำชื่นชม จากบรรดาพระสังฆาธิการเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่สมัยที่เป็นเจ้าภาพในการจัดฉลองอายุ ๘๐ ปีให้กับพระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทโธ ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) โดยที่บอกกล่าวกับหลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ท่านว่า "หลวงพ่อนิมนต์พระได้ตามใจเลยครับ นิมนต์มาเท่าไรก็ตาม กระผมรับภาระในรายจ่ายทั้งหมด..!"

หลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ท่านจึงได้นิมนต์พระแบบสบายใจมาก เพราะว่ามีเจ้าภาพใหญ่อยู่แล้ว ทำเอากระผม/อาตมภาพในช่วงนั้นควักกระเป๋าจนหมดเนื้อหมดตัว..! แต่ก็รู้สึกปลื้มใจที่ได้ทำในสิ่งที่เป็นกตเวทิตา ต่อพระเถระซึ่งให้การอุปถัมภ์ค้ำชูตั้งแต่ออกจากวัดท่าซุงมา

เนื่องเพราะว่าในช่วงนั้น กระผม/อาตมภาพออกจากวัดมาแล้ว ยังไม่มีที่อยู่ หลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ท่านบอกว่า "มาอยู่กาญจนบุรีก็แล้วกัน คุณจะอยู่ที่ไหนก็อยู่ไป ถ้าใครรังแกให้บอกว่าเป็นเด็กผม..!" ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ท่านเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นเจ้าคุณชั้นสามัญที่พระวิสุทธิรังษี

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพเมื่อแสดงกตเวทิตา จัดงานฉลองอายุ ๘๐ ปีให้กับท่านไป ก็โดนพระเถระหลายต่อหลายรูปกล่าวว่า "บุคคลที่เกษียณอายุ ให้คุณให้โทษไม่ได้แล้ว คุณยังจะไปสิ้นเปลืองเงินทองกับท่านแบบนี้อีกทำไม ?" กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ เนื่องเพราะว่ามีความคิดคนละอย่างกัน

ท่านเองมองว่าพระเถระรูปนั้น
ให้คุณให้โทษได้หรือไม่ ? ส่วนกระผม/อาตมภาพมองว่า พระเถระรูปนั้นเคยมีบุญคุณต่อกันหรือไม่ ? จึงกลายเป็นเรื่อง "มองต่างมุม" ซึ่งจะตำหนิท่านก็ไม่ได้ เพราะว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ก็ยึดถือผลประโยชน์เป็นหลัก แต่กระผม/อาตมภาพต้องบอกว่าอาจจะมีเชื้อสายจีน ได้รับการกล่อมเกลามามาก โดยเฉพาะมีนิสัยไม่จำสิ่งที่ไม่ดีของคนอื่น แต่ถ้าใครทำดีด้วย จะจดจำความดีนั้นไปตลอด และหาโอกาสตอบแทนอยู่เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 7 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), ธัญญพัฒน์ (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), นิรันตราย (วันนี้), พี่เสือ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #4  
เก่า วันนี้, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,968
ได้ให้อนุโมทนา: 159,519
ได้รับอนุโมทนา 4,500,631 ครั้ง ใน 36,579 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ขนาดวางแผนว่า จะนำเอาพระเถระที่เกษียณอายุแล้วในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ มารวมตัวกันที่วัดท่าขนุน ประมาณว่าให้คนแก่ได้ฉันภัตตาหารและคุยกันแก้เหงา เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว ก็อยู่ในลักษณะที่ว่า เมื่อไม่สามารถให้คุณให้โทษใครได้ ก็มักจะโดนทอดทิ้ง แต่ว่างานนี้ต้องล้มโครงการลงไป เนื่องเพราะว่าหลวงปู่ชุ้น - พระเดชพระคุณพระธรรมเสนานี (ชุณณห์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ท่านประกาศชัดเจนว่า "ถ้าไปแล้วไม่สวดมนต์ข้าไม่ไป เรื่องไปนั่งกินของใครฟรี ๆ ข้าไม่ทำ..!"

แล้วอีกท่านหนึ่งก็คือหลวงพ่อพระครูสิริพุทธิคุณ (สวัสดิ์ วิเสโส) อดีตเจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่ากระดาน ท่านเป็นบุคคลที่ค่อนข้างจะรักสันโดษและเก็บตัว เกษียณอายุราชการแล้ว ใครนิมนต์ก็ไม่ไปไหนทั้งสิ้น ทำเอา
โครงการของกระผม/อาตมภาพต้องล้มไม่เป็นท่า..!

ปัจจุบันนี้ที่ยังวิ่งไปมาหาสู่อยู่ ในฐานะอดีตผู้บังคับบัญชา หรือว่าผู้ที่เคยทำคุณมาก่อน ก็ประกอบด้วยหลวงพ่อสะอิ้ง - พระเดชพระคุณพระธรรมพุทธิมงคล (สะอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ. ๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ วรวิหาร อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และหลวงปู่แอ๋ม - พระครูนิโครธโยคาภิรักษ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดน้ำตก ซึ่งท่านทำหน้าที่เจ้าคณะอำเภอไทรโยคมาเกือบ ๕๐ ปี

เมื่อมีการคบหาสมาคมกันจนสนิทสนมคุ้นเคย ครั้นท่านเกษียณอายุไปแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ยังคงแวะเวียนไปหาอยู่ตามเวลาว่างซึ่งพอจะหาได้ จนกระทั่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อสะอิ้งท่านมักจะปรารภว่า "ท่าขนุนนี่มันรักใครรักจริง" ซึ่งความจริงกระผม/อาตมภาพเองถือเป็นการส่วนตัวว่า มีบุญคุณต้องทดแทน แต่ถ้าใครทำให้แค้นจะไม่จดจำ เพราะว่าเสียเวลาที่จะไปจำ..! นอกจากว่าบุคคลนั้นจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับส่วนรวม ก็จะอยู่ในลักษณะที่ระวังป้องกันเอาไว้ ไม่ใช่การโกรธแค้น แต่ว่าเป็นการป้องกันความเสียหาย ซึ่งจะเกิดขึ้นกับส่วนรวม

อย่างเช่นที่ได้กล่าวไปในวันก่อน
เรื่องเกี่ยวกับการที่มีบุคคลออกมาจาบจ้วงพระพุทธศาสนา เราก็ต้องออกมาป้องกัน ไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นรื้อบ้านของเรา แล้วยืนดูอยู่เฉย ๆ เอาแต่ตัวรอดคนเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 7 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), ธัญญพัฒน์ (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), นิรันตราย (วันนี้), พี่เสือ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #5  
เก่า วันนี้, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,968
ได้ให้อนุโมทนา: 159,519
ได้รับอนุโมทนา 4,500,631 ครั้ง ใน 36,579 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วตอนนี้เสียงสะท้อนกลับมาก็น่าชื่นใจมาก เพราะว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายต่อหลายรูป อยู่ในลักษณะที่ว่า ลดบทบาทที่มีปฏิสัมพันธ์กับบรรดาผู้เกี่ยวข้องจากส่วนราชการต่าง ๆ ลง ทำหน้าที่เจ้าอาวาสในการดูแลพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมรอบวัดเท่านั้น

แล้วก็มีบางท่าน ที่เมื่อมี สส. หรือว่านักการเมืองสังกัดพรรคการเมืองที่เป็นศัตรูต่อพระพุทธศาสนา เข้ามาร่วมงานศพงานต่าง ๆ ภายในวัด ก็จะแจ้งให้กับเจ้าภาพตั้งแต่ต้นว่า ถ้ามีนักการเมือง ตลอดจนกระทั่งผู้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองนั้น ๆ เข้ามา อย่าให้มีบทบาทในฐานะประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย โดยเฉพาะห้ามเชิญไปเป็นผู้ถวายผ้าบังสุกุล หรือว่าไทยธรรม..!

จนกระทั่งมีนักการเมืองไปฟ้องผู้บังคับบัญชาของท่านในระดับของท่านที่สูงกว่า ผู้บังคับบัญชาท่านก็รับเรื่องเอาไว้ เป็นที่รู้กันว่า ท่านใช้อำนาจเจ้าอาวาสในขอบเขตของกฎหมาย เพราะว่าเจ้าอาวาสมีอำนาจเต็มในวัด ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่ถือว่าท่านทำอะไรผิดพลาด และญาติโยมจำนวนมากก็เริ่มชักชวนกัน อยู่ในลักษณะที่ว่า ถ้านักการเมืองที่ทำตัวเป็นศัตรูกับพระพุทธศาสนา ลงเลือกตั้งเมื่อไร ก็จะรณรงค์กันไม่ลงคะแนนให้ เป็นต้น

เรื่องพวกนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้นำ ถึงจะมีผู้ตาม ในเมื่อหาคนนำไม่ได้ กระผม/อาตมภาพก็ออกมานำเอง พรรคพวกเพื่อนฝูงก็ยังตักเตือนในลักษณะที่ว่า จะเกิดอันตรายขึ้นได้ กระผม/อาตมภาพบอกว่าอยู่มาจนอายุป่านนี้แล้ว เขาจะฆ่าจะแกงก็ไม่ถือว่าอายุสั้น ถ้าหากว่าผู้บังคับบัญชาที่กลัวเรื่องเดือดร้อนจะลามมาถึงตัว จะปลดออกจากทุกตำแหน่งก็ไม่ว่า จะได้พักผ่อนตามใจตนเอง ไม่ต้องวิ่งตะลอน ๆ ทั่วประเทศเสียที..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 8 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คลังมงคล (วันนี้), ธัญญพัฒน์ (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), นิรันตราย (วันนี้), พี่เสือ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:44



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว