กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-07-2025, 20:11
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 26,800 ครั้ง ใน 1,038 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,287 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ในช่วงที่ผ่านมามีบางอย่างที่กระผม/อาตมภาพได้มีคำสั่งลงไป อย่างเช่นที่ท่านเจ (พระนพรัตน์ ปฏิกาโร) ขออนุญาตในการถ่ายคลิปและเผยแพร่ธรรมะของวัดท่าขนุน แต่กระผม/อาตมภาพ "ฟันธง" ลงไปว่าไม่ให้ทำ เพราะว่ามีวิจารณญาณไม่พอ มีโอกาสจะสร้างความเสียหายให้กับวัดสูงมาก..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านถ่ายคลิปโดยที่ "ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ" อะไรเลย แม้กระทั่ง
กระผม/อาตมภาพดุไปแล้วว่า ถ่ายจะเอาแต่ตัวเอง ไม่ได้สนใจว่าสามเณรนอนระเกะระกะไปหมด ก็ยังไม่รู้ตัวอีก พูดง่าย ๆ ว่า "กูวางท่าสวย เรียบร้อยดีแล้วกูก็ถ่าย" แต่ไม่ได้ดูว่ารอบข้างเป็นอย่างไร

การทำงานอย่างนี้ก็คือการคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้นึกถึงส่วนรวม เห็นว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นดีต่อตัวเองก็เป็นอันว่าจบ ก็แปลว่าวิจารณญาณไม่พอ สิ่งที่เราทำอาจจะสร้างความเสียหายให้กับส่วนรวมได้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องไปฝึก ไปหัด ไปขัด ไปเกลากันอีกนาน
สิ่งที่เรากล้าทำเป็นเรื่องดี แต่เมื่อถึงเวลารู้ว่าผิดพลาดตรงไหนก็ต้องแก้ไขด้วย ไม่ใช่ไปแบกความไม่พอใจไว้เป็นวันเป็นคืนจนนอนไม่หลับ..!

ประการต่อไป วันนี้ที่กระผม/อาตมภาพประกาศหาผู้ทรงคุณวุฒิทางบัญชี ปรากฏว่าพรรคพวกเอาไปแชร์กันครึกครื้นภายในโซเชียล เนื่องเพราะคุณสมบัตินักบัญชีที่กระผม/อาตมภาพระบุไปก็คือ

๑) ต้องเป็นชายไทย อายุไม่ต่ำกว่า ๒๕ ปี นับถือพระพุทธศาสนา ข้อนี้คัดลอกมาจากคุณสมบัติไวยาวัจกรโดยตรง

๒) ต้องมีเวลาพอที่จะสละมาเพื่อทำบัญชีให้กับวัดทุกวัน

๓) การทำงานถือว่าเป็นการกุศล ไม่มีเงินเดือนให้

๔) ต้องพร้อมติดคุกไปพร้อมกับเจ้าอาวาสด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,287 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่า ไม่ว่างานอะไรก็ตามของผู้บังคับบัญชา กระผม/อาตมภาพจะเป็นผู้รับอาสาทำเป็นรูปแรก ๆ เสมอ แม้กระทั่งงานนี้ก็เช่นกัน เมื่อมหาเถรสมาคมมีมติว่า ให้ทุกวัดตั้งคณะกรรมการบริหารการเงินของวัด โดยที่ต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิทางบัญชีด้วย กระผม/อาตมภาพก็เข้าใจทันทีว่า ทางมหาเถรสมาคมของเราต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อสังคมว่า พระเราไม่มีหน้าไม่มีหลัง อะไรที่สังคมเห็นว่าดี มหาเถรสมาคมก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม

แต่คราวนี้ด้วยความที่
ท่านทั้งหลายคิดกันแบบพระ ก็คือตรงไปตรงมา ทำให้สิ่งที่ท่านกำหนดออกมานั้น บางทีก็ปฏิบัติตามได้ยาก อย่างเช่นว่าผู้ทรงคุณวุฒิทางบัญชี ต่างจังหวัดไกล ๆ จะไปหาที่ไหนได้ง่าย แล้วแต่ละคนแต่ละท่านที่กระผม/อาตมภาพเจอมาด้วยตนเอง เงินเดือนก็ล้วนแต่แพงหูดับ ยิ่งเป็นผู้ตรวจสอบบัญชียิ่งแพงหนักเข้าไปใหญ่

แม้ตัวเองจะมีลูกสาว ก็คือลูกเจนนี่ (นางสาวเมธาวี เหลืองถาวรกุล) จบปริญญาตรีการเงินการบัญชี จบปริญญาโทจากอังกฤษ (การเงินการบัญชี) แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิง ไม่ควรที่จะทำงานใกล้ชิดกับพระ จึงต้องประกาศหาผู้มีคุณสมบัติที่เป็นผู้ชาย ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องจริงใจกับเขาด้วย จึงต้องแจ้งไปให้ชัดเจนว่าเป็นการกุศล ไม่มีเงินเดือนให้ โดยเฉพาะ
ถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ต้องพร้อมติดคุกไปกับเจ้าอาวาส ไม่ใช่ไปหลอกเขามาทำงานกับเรา แล้วถึงเวลาปล่อยเขาติดคุกไป โดยที่ไม่รู้ตัวอะไรเลย..!

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้แม้เพื่อนฝูงจะเห็นเป็นเรื่องเฮฮา แต่กระผม/อาตมภาพกลับเห็นเป็นเรื่องจริงจัง ขณะเดียวกันก็เห็นใจบรรดาวัดเล็กวัดน้อย
ซึ่งปัจจุบันนี้มีเป็นจำนวนมาก ที่วัดมีแต่หลวงปู่หลวงตาเจ้าอาวาสรูปเดียวบ้าง มีหลวงปู่หลวงตาอยู่กับสามเณรอีกรูปหนึ่งบ้าง แต่ละวัดแทบจะไม่มีรายได้เข้าวัดเลย แล้วจะไปตั้งกรรมการบริหารเงินวัดกันอย่างไร ?

ยกตัวอย่างแค่วัดพุทธบริษัท ก่อนที่กระผม/อาตมภาพจะยื่นมาเข้าไปดูแล เปลี่ยนเจ้าอาวาสปีหนึ่ง ๓ รูป ๔ รูปเป็นประจำ..! กระผม/อาตมภาพเองก็ยังหงุดหงิดว่า "ทำไมเขาไม่มีความอดทนเลยวะ ?" แต่พอถึงเวลา หลวงพ่อพระครูผาสุกิจโกวิท อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ อดีตเจ้าอาวาสวัดหินแหลม ให้กระผม/อาตมภาพส่งพระไปเป็นเจ้าอาวาสถึงได้เข้าใจ เพราะว่าส่งไป ๓ ปี มีกิจนิมนต์ครั้งเดียว ได้เงินมา ๑๐๐ บาท เวลา ๓ ปี มีรายได้ ๑๐๐ บาท แล้วจะใช้อย่างไร !?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,287 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นี่คือสภาพความเป็นจริงที่วัดต่างจังหวัดไกล ๆ ของเราพบอยู่ เป็นอยู่ แต่ว่าวัดใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่แล้วท่านสร้างสมคุณงามความดีมา เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน ทรงสร้างเป็นวัดประจำรัชกาลบ้าง ทรงอุปถัมภ์บ้าง ตลอดจนกระทั่งในวัดมีครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณบ้าง จึงทำให้วัดทั้งหลายเหล่านั้น ได้รับความเคารพเลื่อมใสจากพุทธบริษัท เข้าไปทำบุญกันไม่ขาด จึงมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

แต่พวกเราก็ต้องสังเกตว่า
เป็นเงินจากการทำบุญ ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน ในเมื่อไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน ท่านตั้งใจจะป้องกันไม่ให้มีการทุจริตมิชอบเบียดบังงบประมาณก็พอที่จะคิดได้ แต่จะเอาไปรวมเป็นประเภทเดียวกันนั้นไม่ได้..!

แต่ว่าในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไปกระจุกตัวอยู่ในที่เจริญ วัดที่มีคนเคารพศรัทธาก็หาลูกศิษย์ที่เป็นผู้มีคุณวุฒิทางบัญชีได้ไม่ยาก แต่ต่างจังหวัดหาไม่ได้ แม้กระทั่งวัดท่าขนุนของเรา พอที่จะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ประกาศไปแล้ว จนป่านนี้ยังหาคนสมัครไม่ได้..!

เพราะประการแรก แค่จากอำเภอทองผาภูมิลงไปกาญจนบุรีที่เป็นจังหวัดของตัวเอง ระยะทางก็ ๑๔๐ กิโลเมตรไปแล้ว..! ทุกท่านลองคิดดูว่า จากกรุงเทพฯ วิ่งผ่านนครปฐม ผ่านอำเภอบ้านโป่งของจังหวัดราชบุรี มาถึงตัวเมืองกาญจนบุรี อย่างน้อย ๆ ก็ ๓ จังหวัด ระยะทาง ๑๒๖ กิโลเมตร แต่จากตัวจังหวัดกาญจนบุรีวิ่งมาทองผาภูมิ ระยะทาง ๑๔๐ กิโลเมตร ไกลกว่าที่วิ่งข้ามจังหวัดของกรุงเทพฯ มาถึงกาญจนบุรีเสียอีก..!

หรือไม่ก็อย่างบริเวณสังขละบุรี อย่างเช่นวัดกองม่องทะ วัดเกาะสะเดิ่ง สถานที่เหล่านี้ปัจจุบันยังต้องบวชพระแค่ปีละครั้ง เนื่องเพราะว่าทุรกันดารมาก ถนนหนทางมักจะโดนน้ำป่าพัดขาดอยู่เสมอ

พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ยังคงสืบทอดการบวชปีละครั้งเดียวมาจากหลวงพ่อไพบูลย์ - พระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ. ๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ก็คือต้องนัดพระอุปัชฌาย์ คู่สวด และพระอันดับว่า วันไหนที่มีความพร้อมก็ไปเสี่ยงด้วยกัน ประมาณว่าขาเข้าไปอาจจะใช้เวลาไม่นาน แต่ขาออกอาจจะต้องรอ ๒ - ๓ วัน เพราะว่าน้ำป่าหลากมา แล้วก็นัดแนะชาวบ้านให้พาลูกพาหลานมา บวชพระบวชเณรกัน ส่วนใหญ่สถานที่บวชก็เป็นอุทกุกฺเขปสีมา ก็คือ "โบสถ์น้ำ" ต่อแพโยงเชือกลงไปในแม่น้ำ ห่างจากฝั่ง ๖ เมตร แล้วก็ทำการบรรพชาอุปสมบทกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,287 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองออกตรวจการณ์ในเขตตำบลชะแล ส่งภาพไปให้อดีตท่านเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. อดีตเจ้าคณะภาค ๑๔ ดู ท่านยังถามว่า "มึงไปโลกไหนมาวะ ?" เพราะว่าถนนหนทางยากลำบากสุด ๆ ขนาดมีรถขับเคลื่อน ๔ ล้อยังไม่แน่ว่าจะไปได้รอด..!

สิ่งพวกนี้เป็นความจริงที่ปรากฏอยู่ทั่วประเทศไทย แต่ความเจริญนั้นไปกระจุกตัวอยู่ในตัวเมือง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น นโยบายของมหาเถรสมาคมที่ออกมา แม้ว่าเราต้องปฏิบัติตาม เพราะว่ามติมหาเถรสมาคมเท่ากับเป็นกฎหมายของพระ แต่ก็คงมีวัดที่ปฏิบัติตามได้ไม่มาก โดยเฉพาะวัดที่ไม่มีรายได้

แล้วอีกประการหนึ่ง การตั้งฆราวาสเข้ามาเป็นกรรมการบริหารการเงินของวัด เป็นที่ปรึกษาของเจ้าอาวาสในการบริหารจัดการวัด แทบทุกวันนี้ ต่างจังหวัดไกล ๆ อำนาจบริหารวัดก็ไม่ได้อยู่ในมือเจ้าอาวาสอยู่แล้ว

โดยเฉพาะเรื่องเงินเรื่องทอง กฐินมา ผ้าป่ามา ก็มักจะโดนไวยาวัจกรวัดอปโลกน์ ก็คือยัดเยียดตัวเองเข้ามาเป็น แต่ส่วนใหญ่แล้วคือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. รองนายก อบต. สมาชิกสภาเทศบาล หรือว่าสมาชิก อบต. เหล่านี้เป็นต้น ถึงเวลาเก็บเงินไปแล้ว ทางวัดก็ไม่มีโอกาสได้เห็นอีก ไปทวงเงิน บางท่านก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ บางคนรำคาญก็ถามว่า "จะเอาลูกปืนแทนไหม ?!"

แต่ว่าเรื่องพวกนี้ไปไม่ถึงผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง เพราะว่าท่านไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เป็นเรื่องที่บรรดาพระต่างจังหวัดของเราลำบากใจกันมาก แต่ในเมื่อวัดท่าขนุนมีศักยภาพพอ ก็จะพยายามตั้งคณะกรรมการบริหารวัดตามที่มหาเถรสมาคมมีมติมา แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถตั้งได้หรือไม่ ? เพราะว่าผู้มีคุณวุฒิทางบัญชีไม่ได้หากันง่าย ๆ ต้องเป็นเรื่องที่ใช้ความพยายามกันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว