#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๘
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ พรุ่งนี้หลังจากทำบุญวันพระแล้ว พวกเราส่วนใหญ่ต้องเดินทางไปยังตัวเมืองกาญจนบุรี เพื่อทำวัตรพระเถระเนื่องในโอกาสเข้าพรรษา ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ซึ่งพึงปฏิบัติของพวกเรา
เนื่องเพราะว่าถ้าให้พระวัดอื่นไป ส่วนใหญ่แล้วก็เละเทะเกะกะไปหมด เพราะว่าขาดการฝึกอบรม ขาดความพร้อมเพรียง วัดท่าขนุนจึงต้องเป็นหลักให้เขามาสิบกว่าปีแล้ว โดยเฉพาะต้องเช่ารถบัสเพื่อให้พวกเราเดินทางไป ซึ่งไม่ใช่เงินน้อย ๆ ยังโชคดีว่าปีนี้ทางคณะบุญเพื่อพระนิพพานของทิดโจ้ (นายปฏิวัติ สมสะอาด) รับภาระเรื่องค่าเช่ารถให้ จึงขอเจริญพรขอบคุณมา ณ ที่นี้ สำหรับวันนี้กระผม/อาตมภาพเดินทางไปร่วมพิธีไหว้ครูและปฐมนิเทศที่วิทยาลัยกาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ด้วยความเป็นที่ปรึกษาของผู้อำนวยการวิทยาลัยกาญจนบุรีศรีไพบูลย์ จึงต้องเป็นหนึ่งในพระเถระที่ให้โอวาทต่อบรรดานิสิตทั้งหลาย ก็ได้ย้ำให้ทุกท่านได้เข้าใจว่า การเรียนของพวกเราไม่ใช่เรียนแค่ให้จบ ได้ประกาศนียบัตร ได้ปริญญาบัตรแล้วก็พอกันแค่นั้น เราต้องเรียนในระดับที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากความหวังเอาไว้ ก็คือเข้าใจทั้งพระธรรมและพระวินัยอย่างถ่องแท้ จนสามารถกล่าวแก้ปรัปวาท ก็คือคำที่บุคคลอื่นจาบจ้วงพระพุทธศาสนาได้ ถ้าเราเรียนแล้วไม่รู้ลึก ไม่รู้จริง ก็จะโดนคนอื่น "ตีหัวเข้าบ้าน" กล่าวร้ายกล่าวตู่พระพุทธศาสนาไปเรื่อย สร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาส่วนรวมเป็นอย่างมาก อย่างวันนี้สื่อต่าง ๆ ก็พาดหัวข่าวว่า "บุกค้นกุฏิเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส" ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับทั้งตัวเจ้าอาวาส และชื่อเสียงของวัดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าเป็นการที่ทางตำรวจ เข้าไปขอเอกสารการเงินของอดีตท่านเจ้าคุณประสิทธิ์ (พระเทพปวรเมธี, รศ., ดร.) ที่สึกหาลาเพศไป เพื่อจะตรวจสอบให้ชัดเจนว่า มีความเกี่ยวข้องกับคดีสีกากอล์ฟมากน้อยเท่าไร ? แต่ในเมื่อสื่อชักนำไปในทางเสียหายแล้ว พอถึงเวลาก็ไม่มีการออกมาขอโทษขอโพยอะไรทั้งนั้น ถือว่ากูได้ยอดไลค์ยอดวิวแล้วก็จบกัน เป็นการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวแบบไร้จรรยาบรรณอย่างยิ่ง..! เพราะว่าไม่ใช่การ "สื่อข่าว" ที่นำความจริงมาบอกกล่าวต่อสาธารณชน หากแต่เป็นการ "ปั่นข่าว" เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2025 เมื่อ 01:57 |
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
เรื่องพวกนี้ ถ้าเป็นบุคคลที่มีปัญญา จะไม่เสียเวลามาเสพสื่อไร้สาระพวกนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนเราในปัจจุบัน รู้สึกว่าจะสติน้อย ปัญญาน้อย จึงไปเสพสื่อโดยที่ไม่ได้สนใจว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร ? นอกจากเอาความมันในชีวิต ซึ่งเป็นการสร้าง รัก โลภ โกรธ หลง ให้ฝังรากลึกในใจของตนเอง ก่อให้เกิดทุกข์เกิดโทษไปอีกหลายต่อหลายชาติ..!
แม้กระทั่งในส่วนที่ทางตำรวจออกมาให้ข่าว ใช้คำพูดจาบจ้วงพระเถระต่าง ๆ ที่ต้องอาบัติ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ถ้าการต้องอาบัติในระดับปาราชิกก็ต้องสละสมณเพศ ซึ่งตามพระธรรมวินัยเป็นแค่นี้ ส่วนคดีต่าง ๆ ถ้าเกี่ยวข้องกับทางโลก เป็นเรื่องของตำรวจหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการ ไม่ใช่ออกมาชี้แนะชักนำสังคม ปล่อยคลิปให้ว่อนไปหมดทั้งโซเชียล เพื่อที่ต้องการ "แสง" เท่านั้น..! แม้กระทั่งบางรายการดัง ๆ เอาตัว "สีกากอล์ฟ" ไปประคบประหงมออกรายการ พยายามถามจี้ขยี้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้ยอดวิวยอดไลค์ที่ตนเองต้องการ หลังจากนั้นวันเดียวปล่อยตำรวจจับตัวเข้าคุกไปแล้ว พูดง่าย ๆ ก็คือตอนแรกแทบจะอุ้มขึ้นหิ้ง แต่พอหมดประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่ง..! ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นสันดานของผู้สื่อข่าวในปัจจุบันนี้ ก็คือเรื่องดีไม่ลงให้ แต่เรื่องร้ายต้องรีบลง เพราะว่าผู้เสพข่าวหรือเสพสื่อ นิยมเรื่องร้ายมากกว่า แสดงออกซึ่งกำลังใจที่ตกต่ำมาก จนกระทั่งถึงระดับน่าจะไม่พ้นจากทุคติไปได้..! อีกส่วนหนึ่งก็คือตำรวจยศระดับสูง ที่ออกมาใช้คำพูดจาบจ้วงพระพุทธศาสนาของเรา จะต้องจับพระระดับนั้น จะต้องสึกพระระดับนี้ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า เรื่องของการพระราชทานตั้ง พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อให้มีการลาออก หรือว่าสึก ก็ต้องถวายรายงานถึงการลาออก หรือสึกหาลาเพศ ก็แปลว่าการจะสิ้นสมณศักดิ์ลงไปหรือไม่อย่างไร ก็อยู่ในพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นกัน กระผม/อาตมภาพจึงหวั่นใจแทนว่า บุคคลที่มาถึงในระดับนั้น กลับมืดบอดถึงขนาดก้าวล่วงพระราชอำนาจ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ถ้าทำงานในลักษณะเอา "แสง" ใส่ตัว โดยไม่ได้สนใจว่าจะกระทบกระเทือนใครบ้าง โดยเฉพาะการกระทบกระทั่งเบื้องสูง คาดว่าอนาคตของท่านผู้นั้นคงจะไปไม่ไกล เนื่องเพราะว่าถ้าอยู่ต่อไปก็คงพร้อมที่จะฟาดฟันและเหยียบคนอื่นขึ้นไปอีก แต่ว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของฆราวาสเขาไปดำเนินการกันเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2025 เมื่อ 02:00 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
พระภิกษุสามเณรของเราต้องตั้งมั่นอยู่ในขันติ และสันติ ก็คืออดทน อดกลั้น แม้ว่าจะเป็นฝ่ายโดนกระทำ รักษากำลังใจของเราเอาไว้ให้ดี เพื่อพิสูจน์ทราบว่าพระภิกษุสามเณรเป็นแสน ๆ รูป แม้ว่าส่วนหัว ๆ จะกระทำผิดกระทำพลาดก็ตาม ส่วนที่เหลือยังมีดีอยู่อีกมาก
การที่เราจะพิสูจน์ทราบ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมของพวกเราอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย ๆ บุคคลอื่นเห็นก็ยังชื่นชมบ้าง เพียงแต่ท่านทั้งหลายอย่าไปหวังว่า การทำความดีแล้วจะมีบุคคลยินดีด้วย เราทำดีเป็นร้อยครั้ง เขาจะชมสักครั้งก็ยาก แต่ถ้าผิดพลาดครั้งเดียว จะมีตีนมารอบทิศ ช่วยกันกระทืบให้จมธรณีไปเลย..! กระผม/อาตมภาพจึงได้เตือนทุกท่านมาตลอดว่า เราทำอะไรอยู่ในสายตาชาวบ้านเขา เพราะฉะนั้น..อย่าได้นอกลู่นอกทาง เพราะว่าเมื่อชาวบ้านเห็น แล้วเขาเอาไปพูด เขาไม่ได้พูดถึงตัวท่าน ไม่ได้ระบุว่าเป็นพระรูปนั้น สามเณรรูปนี้ แต่เขาใช้คำว่า "พระวัดท่าขนุน" เมื่อมาถึงตรงนี้ก็แปลว่ากระทบกระเทือนทั้งวัด แล้วส่วนที่กระเทือนหนักก็คือ พระอุปัชฌาย์อาจารย์อย่างกระผม/อาตมภาพ ที่บวชให้และอบรมสั่งสอนพวกท่านมา..! กระเทือนหนักขึ้นไปอีกก็คือหลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ที่สร้างชื่อเสียงและคุณงามความดีไว้อย่างมาก แม้จะมรณภาพไป ๓๐ กว่าปีแล้ว ผู้คนก็ยังคิดถึงและเคารพกราบไหว้อยู่ กระผม/อาตมภาพจึงขออาศัยงานไหว้ครูและปฐมนิเทศนิสิตวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ตอกย้ำให้พวกท่านทั้งหลายได้ทราบว่า "ถ้าเราไม่สามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ ก็อย่าทำให้พระพุทธศาสนาต้องพังลงไปเพราะตัวเรา..!" สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2025 เมื่อ 02:02 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|