กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-05-2025, 19:55
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 516
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,585 ครั้ง ใน 1,004 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-05-2025, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,218 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ พวกเราน่าจะต้องตากฝนกันไปอีกหลายวัน แต่กระผม/อาตมภาพได้ขอกับครูบาอาจารย์ท่านแล้วว่า ถ้าเป็นช่วงเป่ายันต์เกราะเพชร ขอให้เว้นให้ด้วย

ช่วงนี้เป็นระยะที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ในการประชุมคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิวันนี้ พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอฯ ก็อยู่โรงพยาบาล พระครูกิตติกาญจนคุณ เจ้าคณะตำบลปิล็อก เจ้าอาวาสวัดนพเก้าทายิการาม ก็บอกว่าจมูกไม่ได้กลิ่นอะไรเลย..! แล้วยังอุตส่าห์มาประชุม ใครจะเดือดร้อนบ้างก็ไม่รู้ ?

ทุกวันที่ ๒๘ ในการประชุม จะมีการเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จากวันนี้ที่กระผม/อาตมภาพนำเจริญพระพุทธมนต์ ท่านที่เข้าร่วมประชุมก็จะเห็นแล้วว่า พระวัดอื่นไม่สามารถที่จะเจริญพระพุทธมนต์บทจักกิวังสะทะสะมะปะระเมนทะมะหาราชาภิถุติกถาเลย มีแต่ของวัดท่าขนุนเราเป็นหลักเท่านั้น

อย่างที่ได้เรียนถวายทุกท่านไปว่า ในเรื่องของการสวดมนต์ ภายใน ๒ พรรษาต้องเอาให้ได้ครบทุกบท ไม่เช่นนั้นแล้วผู้ที่ตั้งหน้าตั้งตาภาวนาไปถึงระดับนั้นแล้ว มักไม่อยากที่จะสวดมนต์ คิดจะภาวนาเงียบ ๆ อย่างเดียว..!

สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ปัญหานี้ปรากฏอยู่เสมอ กระผม/อาตมภาพที่สวดมนต์ได้ตั้งแต่ก่อนบวช เพิ่งจะบวชเข้าไปก็ต้องออกกิจนิมนต์แทนรุ่นพี่ คนโน้นก็ "ขอให้ไปแทนผมที" คนนี้ก็ "ขอให้ไปแทนผมที" เพิ่งจะบวชได้ ๒ เดือน ต้องขึ้นหัวแถวเจริญพระพุทธมนต์วันพระ..! ทำเอาวันพระนั้น พระทั้งวัดโดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ด่ากระจาย..! เนื่องเพราะว่าให้เด็กใหม่เพิ่งจะบวชได้ ๒ เดือน นำเจริญพระพุทธมนต์วันพระ..!

อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยกล่าวถึงคำพูดคนรุ่นก่อน ๆ ที่ว่า "เป็นพระต้องมีมนต์ เป็นคนต้องมีเงิน" เขาถึงจะนับถือ จึงอยากจะฝากบอกท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรว่า ภายใน ๒ พรรษาแรก กระผม/อาตมภาพออกกิจนิมนต์ทุกงานที่ขวางหน้า ทั้งออกโดยสิทธิของตนเอง และไปแทนรุ่นพี่ ๆ ท่านอื่น เพื่อที่จะศึกษาพิธีกรรมพิธีการ ตลอดจนบทสวดมนต์ที่ต้องใช้ของแต่ละงาน ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์เย็นฉันเช้า สวดมนต์ฉันเพล งานทำบุญบ้าน งานแต่ง งานศพ เหล่านี้เป็นต้น ว่าแต่ละงานมีขั้นตอนพิธีการอย่างไร ? ใช้บทสวดอะไรบ้าง ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2025 เมื่อ 01:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-05-2025, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,218 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อคิดว่าตนเองรู้ครบถ้วนแล้ว ก็เริ่มให้รุ่นน้องออกแทนบ้าง เพื่อที่จะฝึกฝนเอาไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วคนที่จะรู้เรื่องเหล่านี้มีน้อยมาก โดยเฉพาะบรรดาพระเถระที่เป็นหลักของวัด ส่วนใหญ่พอถึงเวลามีเจิมมีเสกเมื่อไร ก็จะบอกว่า "ท่านเล็ก..ไปทำให้เขาที"

กระผม/อาตมภาพโดนไปทุกงานจนต้องประท้วงว่า "หลวงพี่..อยู่กับหลวงพ่อมา ๑๐ กว่าปี ๒๐ ปี ไม่คิดจะเรียนเอาไว้บ้างเลยหรือครับ ?" "หลวงพ่อโอ" ของทุกท่านในวันนี้คือ ท่านพระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร ตอบชัดมาก บอกว่า "เป็นแล้วมันเหนื่อย..!" แต่กระผม/อาตมภาพเห็นว่า ถ้าไม่เป็นมีแต่จะขายหน้าคนอื่นเขา..!

สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้ศึกษาเอาไว้ ก็คือการกล่าวสัมโมทนียกถาก่อนที่จะกรวดน้ำรับพร เพราะว่าที่วัดท่าซุงไม่มีแบบนี้ แต่เมื่อย้ายออกจากวัดท่าซุงมาอยู่ที่วัดท่ามะขาม โดนมอบหมายให้กล่าวสัมโมทนียกถาแก่เจ้าภาพทำบุญ ก่อนที่จะมีการยถาฯ สัพพีฯ กรวดน้ำรับพรกัน จึงได้ฝึกฝนกันอยู่ระยะหนึ่ง ถึงได้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ตรงกับสมัยพุทธกาล

ก็คือในสมัยนั้น บรรดาปริพาชกคือนักบวชนิกายอื่น ๆ เมื่อไปรับภัตตาหารที่ชาวบ้านเขาถวาย ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือในเมืองก็ตาม ฉันแล้วก็จะบอกกล่าวแก่บรรดาญาติโยมทั้งหลายที่ไม่ค่อยได้เดินทาง แต่ตัวเองเป็นนักบวช เดินทางทั่วไปหมด โดยบอกเขาว่าทิศนั้นมีอะไร ทิศนี้มีอะไร บ้านนั้นนิยมซื้อข้าวของชนิดใด นิยมขายสิ่งของชนิดไหน ทิศใดมีโจรผู้ร้าย ทิศใดปลอดภัย จะบอกกล่าวในลักษณะแบบนี้ เพื่อที่ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่แล้วค้าขายบ้าง เดินทางไปหาญาติพี่น้องต่างเมืองบ้าง จะได้วางแผนการเดินทางหรือการค้าขายได้ถูกต้อง

เมื่อพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาปรากฏขึ้น ฉันภัตตาหารแล้วก็ลาเจ้าภาพเดินทาง ทำให้เขาบ่นว่าไม่มีการบอกกล่าวอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าภาพเลย เมื่อความทราบถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านจึงให้กล่าวสัมโมทนียกถา ซึ่งปัจจุบันนี้ พวกท่านเรียกว่า ยถาฯ สัพพีฯ นั่นแหละ ก็คือแนวทางการปฏิบัติธรรมในเบื้องต้น อย่างเช่นว่า

อภิวาทนสีลิสสะ นิจจัง บุคคลผู้มีปกติอ่อนน้อมต่อผู้ทรงศีล

วุฑฒาปจายิโน จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ

ย่อมเป็นผู้เจริญด้วยธรรม ๔ ประการคือ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2025 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-05-2025, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,218 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนใครที่มีความรู้ในหลักธรรมแบบไหน คิดว่าญาติโยมรับได้ ก็ว่ากล่าวสั่งสอนไป แต่โดยนิยมแล้ว เขาให้จบลงไม่เกิน ๑๐ นาที กระผม/อาตมภาพเห็นว่าบางที ๑๐ นาทีก็ยาวเกินไป เพราะว่าญาติโยมส่วนใหญ่ที่มาทำบุญสมัยนี้ก็มักจะรีบไปทำงาน

ดังนั้น..ถ้าหากว่าทุกท่านกล่าวสัมโมทนียกถา ให้ยึดหลักในเรื่องอานิสงส์ของทาน ของศีล ของภาวนาเอาไว้ โดยเฉพาะอานิสงส์ในทานที่ญาติโยมได้ทำ หรือว่าเขามาทำบุญวันเกิด จะสามารถโยงเข้ากับเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของหลักธรรมในพระพุทธศาสนาอย่างไร ? เขามาทำบุญวันครบรอบปี ญาติพี่น้องที่ตายไป เราจะกล่าวอย่างไรให้เขารื่นเริง แทนที่จะเศร้าโศกถึงผู้ที่ตายไป

กระผม/อาตมภาพได้รับการฝึกฝนอยู่เป็นปี ๆ เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ - พระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทฺโธ ป.ธ. ๔) ตอนนั้นท่านเป็นพระราชธรรมโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ถึงเวลาก็ "เอ้า..พระครูธรรมธร ช่วยจัดการให้ด้วย"

จำไว้ว่าเราทั้งหลายอย่าเกี่ยงงาน อย่ากลัวงานมาก ไม่ว่าจะเป็นภาระอะไรก็ตาม เป็นการฝึกฝนตัวเราเองอยู่เสมอ เป็นการพัฒนากาย วาจา ใจ ของเราให้ดีขึ้น แล้วในขณะเดียวกัน ก็สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองว่า สิ่งที่เรารักษาเรียนรู้มา สามารถที่จะถ่ายทอดต่อให้คนอื่นได้หรือไม่ ?

โดยเฉพาะการสวดมนต์ พวกเรายังมีหลายบทที่ไม่ได้แตะต้องเลย อย่างเช่นว่า "ยัง ยัง เทวะมะนุสสานังฯ" ความจริงยังมีบท "โย จักขุมาฯ" ด้วย แต่ว่าเราใช้งานกันอยู่บ้าง แล้วบททั้งหลายเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นบทประพันธ์โดยวชิรญาณภิกขุ ก็คือในหลวงรัชกาลที่ ๔ จึงทำให้คณะสงฆ์มหานิกายไม่ค่อยได้ใช้ แต่ถ้าท่านฝึกฝนเอาไว้ ที่ไหนเขาใช้ เราจะได้สวดได้ท่องได้ ไม่เก้อเขิน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2025 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 29-05-2025, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,218 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลายแห่งยึดแบบสวดมนต์หลวง โดยเฉพาะประเทศพม่า ถึงเวลาเขาขึ้นบทขัดทุกบท ความจริงการขึ้นบทขัดเป็นเรื่องดีมาก เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น กำหนดจดจำโดยพระอานนท์ ก็จะขึ้นว่า "เอวัมเม สุตัง ฯ ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สมัยหนึ่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า สาวัตถิยัง วิหะระติ เสด็จประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี" หัวข้อธรรมกี่ข้อ พระสูตรกี่บท ก็แทบจะขึ้นแบบนี้ทั้งหมด..!

ดังนั้น..ถ้าไม่มีบทขัด เราขึ้นไปเลยจะแยกไม่ออกว่ากำลังจะสวดบทไหน ? จึงเป็นเรื่องที่ควรจะศึกษาเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะหลายต่อหลายแห่งในประเทศเรา ใช้บท "ราชะโต วา โจระโต วาฯ" เป็นปกติ เพียงแต่ว่าพวกเราที่นี่ไม่ค่อยได้ใช้กัน แต่ยังดีที่ว่าไม่ว่าจะเป็นบทอาทิตตฯ อนัตตฯ ธัมมจักกฯ พวกเราขึ้นบทขัดกันเป็นปกติ ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า ถ้าต้องขึ้นบทขัดเหล่านี้ หรือว่าบทขัดธรรมนิยามเมื่อไร ถ้าเป็นการสวดมนต์ของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็จะเหลือกระผม/อาตมภาพคนเดียวที่ขึ้นให้เขา..!

ดังนั้น..ทุกท่านต้องพยายามศึกษาและสวดให้ได้ภายใน ๒ พรรษา ก่อนที่สมาธิภาวนาจะเจริญกว่านี้แล้วไม่อยากสวดมนต์ ไปจนกว่าสมาธิจะทรงตัว ปรับเข้ากับการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ เราถึงจะย้อนกลับมาสวดมนต์ได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งระยะเวลาเหล่านี้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน

เราจะเห็นว่าสำนักบ่อน้ำพระอินทร์ของหลวงตาสิ้นคิด ท่านถึงขนาดบอกว่า "ไม่ได้บวชมาเพื่อสวดมนต์" เนื่องเพราะว่าอยู่ในระหว่างที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการภาวนา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราต้องรีบซักซ้อมทุกอย่างให้คล่องตัว เมื่อถึงเวลาจะได้ใช้งานได้อย่างที่ตนเองต้องการ ไปไหนก็มีความองอาจ แกล้วกล้า ไม่ต้องกลัวขายหน้าคนอื่นเขา

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2025 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว