กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-05-2025, 17:14
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 514
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,511 ครั้ง ใน 1,002 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-05-2025, 20:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,560
ได้ให้อนุโมทนา: 158,363
ได้รับอนุโมทนา 4,485,608 ครั้ง ใน 36,169 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ หลังจากเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ออกเดินทางไปยังวัดราษฎร์ประชุมชนาราม หมู่ที่ ๒ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

ตามการนิมนต์ของท่านพระครูกาญจนปริยัติคุณ (ชุมพร ปิยธมฺโม ป.ธ. ๓) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนาราม ที่ขอให้มาเป็นประธานในการบวงสรวงยกฉัตรพระเจดีย์ริมน้ำ ซึ่งบรรดาพี่น้องมอญพม่าร่วมกันเป็นเจ้าภาพสร้างขึ้นมาอย่างสวยงาม อยู่ริมแม่น้ำแควน้อยด้านหลังวัดท่ามะขาม หรือวัดราษฎร์ประชุมชนารามแห่งนี้ โดยที่เลียนแบบทรงของพระเจดีย์บูพะยา (พระเจดีย์น้ำเต้า) ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดีที่เมืองพุกาม

บรรดาพี่น้องมอญพม่านั้นมีความนิยมในการสร้างพระเจดีย์เป็นอย่างยิ่ง คล้าย ๆ กับพี่น้องชาวไทยของเราที่นิยมสร้างพระพุทธรูป เนื่องเพราะเขาตีความจากพระไตรปิฎก คำว่าอุเทสิกเจดีย์ ก็คือพระเจดีย์อันเป็นเครื่องระลึกถึง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงได้นิยมการสร้างเจดีย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่เมืองปะกานตามสำเนียงพม่า หรือที่คนไทยเรียกว่าเมืองพุกามนั้น ถึงกับเคยสร้างพระเจดีย์ใหญ่ ๆ เล็ก ๆ รวมกันแล้วหลายพันองค์ จนกระทั่งเมืองพุกามกลายเป็นพื้นที่กึ่งทะเลทรายไปเลย..!

กระผม/อาตมภาพวิเคราะห์แล้วว่า เกิดจากการที่ขุดดินไปปั้นเป็นอิฐ แล้วก็ตัดไม้มาเผาอิฐเพื่อสร้างพระเจดีย์ จึงทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของหน้าดินหมดไป ตลอดจนกระทั่งป่าไม้ก็หมดไปด้วย กลายเป็นพื้นที่แห้งแล้งกึ่งทะเลทราย มีพืชที่ขึ้นได้อยู่ก็เป็นไม้จำพวกทนแล้งไม่กี่อย่างเท่านั้น..!

ถึงมาอยู่เมืองไทยแล้ว พี่น้องมอญพม่าก็ยังนิยมสร้างเจดีย์ แม้แต่ที่วัดท่าขนุน พระพุทธเจติยคีรีบนยอดเขาวัดท่าขนุนนั้น ก็เป็นพระเจดีย์ทรงมอญ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่ามีสถานที่ให้ บรรดาพี่น้องมอญพม่าก็จะร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเงินทอง สิ่งของ ตลอดจนกระทั่งข้าวปลาอาหาร ดังนั้น..ทางวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) เท่ากับได้พระเจดีย์ขึ้นมาแบบไม่ต้องเสียอะไรเลย ยกเว้นว่าถึงเวลาแล้วยอมให้เขามีงานรื่นเริง ประมาณว่าละครพม่า อะไรเหล่านั้นเป็นต้น

ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงปล่อยให้เขาทำอย่างเต็มที่ โดยที่ตนเองทำการบวงสรวง แล้วบรรจุยอดฉัตรเจดีย์จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อย โดยที่ท่านพระครูกาญจนปริยัติคุณนั้น ได้นำเอาธงมหาพิชัยสงครามของวัดท่าซุง และพระยอดธง ๘๐ ปี พระเทพเมธากร ที่กระผม/อาตมภาพสร้างถวายหลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ - พระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทฺโธ ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนารามแห่งนี้ บรรจุพร้อมกับแก้วแหวนเงินทองต่าง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2025 เมื่อ 01:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-05-2025, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,560
ได้ให้อนุโมทนา: 158,363
ได้รับอนุโมทนา 4,485,608 ครั้ง ใน 36,169 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ขออนุญาตลา เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังอีกงานหนึ่ง ก็คือการไปร่วมรดน้ำศพคุณแม่บุญธรรม นนท์แก้ว โยมแม่ของท่านเจ้าคุณประไพ - พระสุพรรณวชิราภรณ์, ดร. (ประไพ ปุญฺญกาโม ป.ธ. ๓) เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเรียนของกระผม/อาตมภาพมา ตั้งแต่สมัยประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาพุทธศาสนา ปริญญาโทพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการเชิงพุทธ แล้วหลังจากนั้น ท่านก็แยกไปเรียนปริญญาเอกต่างหาก บอกว่าเดินทางมาเรียนทางวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ไม่ไหว ค่าใช้จ่ายมากไปหน่อย

แต่ก็ยังคบหาสมาคมกันมา ตั้งแต่ท่านเป็นพระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี มาเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้อำนวยการวิทยาสงฆ์สุพรรณบุรี ศรีสุวรรณภูมิ จนกระทั่งขึ้นมาเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และขึ้นเป็นพระราชาคณะที่พระสุพรรณวชิราภรณ์

ท่านสละเวลาในแต่ละวัน ไปดูแลโยมแม่ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ พูดง่าย ๆ ว่าขยับร่างกายไม่ได้ไปซีกหนึ่ง ไปพูดคุย ไปช่วยเข็นรถเข็น ให้โยมแม่ได้เห็นวิวทิวทัศน์นอกบ้านอยู่ทุกวัน กระผม/อาตมภาพยังเห็นว่าโยมแม่บุญธรรมนั้น สุขภาพจิต สุขภาพกายดีขึ้นมาก แล้วล่าสุดวันก่อน ท่านก็ยังส่งคลิปมาให้ดู กำลังล้อเล่นกับโยมแม่ว่า "ขอไปทำงานคณะสงฆ์ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเอาหัวหงอก ๆ มาให้โยมแม่ดูใหม่" เนื่องเพราะโยมแม่ได้แซวท่านว่า เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่นึกว่าจะได้เห็นลูกหัวหงอกกับตา ปรากฏว่าเช้าวันนี้ ท่านบอกว่าพี่สาวจะไปปลุกให้โยมแม่กินข้าว ไม่ทราบเหมือนกันว่าสิ้นลมไปตอนไหน ? เพราะว่าตอนไปเรียกก็แข็งเย็นไปทั้งตัวแล้ว..!

เมื่อท่านส่งข่าวมา กระผม/อาตมภาพก็วิ่งไปถึง ปรากฏว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่สมบุญ - พระครูสุวรรณธรรมานุยุต วัดลำพันบอง ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ อายุ ๑๐๔ ปี มาถึงสถานที่นั้นก่อน เมื่อกราบหลวงปู่สมบุญแล้ว ก็ได้นั่งคุยกับท่านเจ้าคุณประไพ ในเรื่องของอดีตท่านเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) ว่า "เราทุกคนเห็นเหมือนกันหมดว่า อดีตท่านเจ้าคุณแย้มนั้นไม่ทราบว่าไปคิดผิดอีท่าไหน ต้องเสียเงินให้เขามากมายขนาดนั้น..!"

กระผม/อาตมภาพมีความเห็นตรงกับท่านเจ้าคุณประไพว่า "ถ้าพวกเราต้องเสียเป็นแสนเป็นล้าน ตูก็ทำให้ตายคาที่ไปทั้งคู่
ทั้งเขาและเรานั่นแหละ..!" ไม่มีหรอกที่จะยอมตายคนเดียว ด้วยการหาเงินมาให้เขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งท่านเจ้าคุณประไพก็บอกว่า "ก็ท่านไม่ยอมบอกใคร ถามอะไรก็ไม่บอก เก็บเอาไว้เครียดอยู่คนเดียว เที่ยวไล่ยืมเงินคนโน้นคนนี้ จนกระทั่งผมต้องไปช่วยยืมให้ด้วย..!"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจว่า คนเราถึงเวลาก็มีโอกาสคิดผิด ตัดสินใจผิดได้เหมือนกัน ถ้าหากว่ายอมเสียหายให้เขาเปิดคลิปประจาน ก็เท่ากับว่าฝ่ายหญิงประจานตัวเอง เพราะว่าเป็นฝ่ายอาบน้ำแล้วถ่ายคลิปก็ส่งไปให้ท่าน หลังจากที่ท่านรับแล้วถามกลับมา ก็แคปหน้าจอเอาไว้ บอกว่าจะส่งออกไปให้สาธารณชนดู ท่านเองก็มัวแต่ไปกลัวเสียหาย ก็เลยกลายเป็นเครื่องปั๊มเงินให้กับเขาไป..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2025 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-05-2025, 20:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,560
ได้ให้อนุโมทนา: 158,363
ได้รับอนุโมทนา 4,485,608 ครั้ง ใน 36,169 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อคุยกันจนกระทั่งหลวงพ่อเจ้าคุณสะอิ้ง - พระเดชพระคุณพระธรรมพุทธิมงคล (สะอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ. ๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ วรวิหารมาถึง กระผม/อาตมภาพเข้าไปช่วยประคองคนแก่ ท่านยังบอกว่า "เป็นอย่างไรบ้างหลวงพ่อเล็กผู้มีฤทธิ์ ?" กระผม/อาตมภาพเรียนถวายว่า "มีฤทธิ์ไม่จริงแล้วครับหลวงพ่อ ช่วงที่ผ่านมาผมป่วยเกือบตาย..!" ท่านยังบอกว่า "เรื่องของการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องปกติธรรมชาติของมนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนาม"

แล้วท่านก็ไปกราบหลวงปู่สมบุญ บอกว่า "นิมนต์อยู่ ๑๒๐ ปีนะครับหลวงปู่" กระผม/อาตมภาพได้ยินก็หัวเราะก๊ากเลย บอกว่า "หลวงพ่อครับ..คนนิมนต์ต้องอยู่เป็นเพื่อนกันนะครับ..!" เล่นเอาท่านบอกว่า "เฮ้ย..เอาแค่อยู่ได้ก็แล้วกัน" หลังจากนั้นก็ชวนกันไปรดน้ำศพคุณแม่บุญธรรม เสร็จแล้วกระผม/อาตมภาพมอบปัจจัยไทยธรรมร่วมบุญงานศพของคุณแม่บุญธรรม เมื่อท่านเจ้าคุณประไพรับเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทางกลับ เพราะว่าฝนฟ้ามืดไปหมด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะไปเจอฝนหนักกลางทางเมื่อไร..!?

โดยเฉพาะช่วงนี้ถนนหนทางจากสุพรรณบุรี - ตลิ่งชันเส้นนั้น ได้ซ่อมเป็นระยะทางที่ยาวเหยียดมาก ๆ แล้วช่วงบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้ คนสุพรรณซึ่งกลับบ้านมา ก็เริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อที่จะเตรียมทำงานในวันพรุ่งนี้ ปะเหมาะเคราะห์ดีไปตามรถ ๑๐ ล้อ หรือ ๑๘ ล้อสักสองคันเท่านั้น ชีวิตนี้ก็เป็นอันว่าอับเฉาแน่นอน..! เพราะว่าต้องค่อย ๆ คลานตามกันจนกว่าจะพ้นเขตก่อสร้าง ซึ่งเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตร..!

เมื่อไปกราบลา หลวงพ่อสะอิ้งท่านก็ยังดึงเอาไว้ว่าให้ถ่ายรูปหมู่ด้วยกันก่อน แล้วกระผม/อาตมภาพถึงขอตัวเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก มาถึงแล้วก็รีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน หลังจากนี้ก็จะรีบสรงน้ำ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่รายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2025 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว