กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-05-2025, 17:14
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,996
ได้ให้อนุโมทนา: 225,456
ได้รับอนุโมทนา 803,929 ครั้ง ใน 39,535 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-05-2025, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,560
ได้ให้อนุโมทนา: 158,363
ได้รับอนุโมทนา 4,485,546 ครั้ง ใน 36,169 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตั้งแต่เช้าฝนฟ้าก็ไม่อำนวย กระหน่ำหนักลงมาตั้งแต่ตอนทำวัตรเช้า แล้วก็ตกยาวต่อเนื่องไปจนกระทั่งบิณฑบาตเสร็จ ก็แปลว่าวันนี้กระผม/อาตมภาพและพระภิกษุวัดท่าขนุน เปียกกันมะล่อกมะแล่กเป็นลูกหมาตกน้ำ..!

แต่กระผม/อาตมภาพยังมีภารกิจ ก็คือต้องไปบรรยายในงานอบรมพระสังฆาธิการ รุ่นที่ ๕๐ ที่สถาบันพระสังฆาธิการ หมู่ที่ ๘ ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จึงต้องใช้วิธีขี้โกงด้วยการเร่งธาตุไฟขึ้นให้สูงสุด จะได้ไม่เป็นหวัดจนหมดสภาพไปเสียก่อน..!

เมื่อกลับมาฉันเช้าและโยนผ้าผ่อนท่อนสไบเข้าเครื่องซักแล้ว ก็ให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พาวิ่งตรงไปยังจังหวัดราชบุรี ไปถึงสถาบันพระสังฆาธิการก่อนเพลไม่กี่นาทีเท่านั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อแดง - พระเมธีวัชรประชาทร (ประยูร นนฺทิโย), ผศ.,ดร. เจ้าอาวาสวัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๕ ท่านเพิ่งจะบรรยายเสร็จ และกำลังถ่ายรูปหมู่กับบรรดาผู้เข้าฟังการบรรยาย

กระผม/อาตมภาพจึงเข้าไปถ่ายรูปหมู่ร่วมด้วย แล้วขณะเดียวกัน ก็ได้ถวายมุทิตาสักการะ ในโอกาสที่หลวงพ่อแดงเจริญอายุวัฒนมงคล ๗๕ ปี หลังจากนั้นแล้วก็ได้ฉันเพลร่วมกัน

ปรากฏว่าในหมู่พระสังฆาธิการที่มาอบรมนั้น มีหลวงพ่อพระครูสุขุมปัญญากร เจ้าอาวาสวัดทุ่งกฐิน เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ของกระผม/อาตมภาพด้วย ท่านบอกว่าในเขตตำบลนั้นไม่มีใครมาเลย จึงต้องเป็นตัวแทนเข้าอบรม กระผม/อาตมภาพก็ยังชมว่าหลวงพ่อท่านเสียสละมาก นอกจากอายุกาลพรรษามากแล้ว ยังอยู่ไกลถึงจังหวัดสุพรรณบุรี ก็อุตส่าห์เดินทางมาอบรมที่นี่ ซึ่งเป็นการอบรมต่อเนื่องกันถึง ๕ วัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2025 เมื่อ 00:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-05-2025, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,560
ได้ให้อนุโมทนา: 158,363
ได้รับอนุโมทนา 4,485,546 ครั้ง ใน 36,169 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อฉันเพลเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการต่อเครื่องโน้ตบุ๊ก หรือที่ฝรั่งเรียกกันติดปากว่าแล็ปท็อป แปลตรง ๆ ว่าตั้งบนตัก แต่ว่าบ้านเรากลับเอามาใช้ตั้งโต๊ะเสียมากกว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทางด้านข้าวของเครื่องใช้ของสถาบันพระสังฆาธิการ ไม่แม็ตช์กับเครื่องโน้ตบุ๊กของกระผม/อาตมภาพหรืออย่างไร ไม่ว่าจะแก้ไขอย่างไรก็ส่งภาพขึ้นจอไม่ได้ จนต้องใช้เครื่องของสถาบันพระสังฆาธิการแทน

เมื่อถึงเวลา กระผม/อาตมภาพก็แนะนำตัว และบรรยายถวายความรู้เกี่ยวกับการศาสนศึกษา ซึ่งเป็น ๑ ในงาน ๖ ด้านของเจ้าอาวาสใหม่ แต่เป็นที่น่าสงสารและน่าเห็นใจว่า บรรดาพระสังฆาธิการรุ่นนี้นั้น มาอยู่ในช่วงที่ชาวบ้านเสื่อมศรัทธาจากคณะสงฆ์พอดี จะว่าไปแล้ว การเสื่อมศรัทธานั้นเกิดจากชาวบ้านไร้ปัญญา ไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรเป็นตัวบุคคล อะไรเป็นพระพุทธศาสนา

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายลองคิดดูจะเห็นว่า ในสมัยพุทธกาลซึ่งยังมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดำรงชีวิตอยู่ ในสมัยนั้นก็มีพระเทวทัตทำสังฆเภท ยุสงฆ์ให้แตกกัน มีพระอุทายี หรือที่เรียกกันว่าโลลุทายี เป็นต้นบัญญัติในอาบัติสังฆาทิเสสเกือบทุกข้อ เพราะว่าไปยุ่งเกี่ยวเกี้ยวพาราสีกับเมียชาวบ้านเขาเป็นปกติ มีเรื่องของพระฉัพพัคคีย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อน และเป็นต้นบัญญัติศีลนับข้อไม่ถ้วน..! ฯลฯ

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ แม้ในสมัยพุทธกาล เราก็จะเห็นว่ามีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นเป็นปกติ แต่ว่าบุคคลสมัยนั้นท่านมีปัญญา ท่านแยกแยะออกว่าอะไรเป็นเรื่องของตัวบุคคล อะไรเป็นหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แต่บุคคลในสมัยนี้ นอกจากแยกแยะไม่ได้แล้ว ยังมีการกล่าวหาโจมตีว่าร้ายพระพุทธศาสนา อยู่ในลักษณะช่วยกันกระทืบซ้ำเติมอีกต่างหาก ซึ่งมีแต่จะทำให้ศาสนาเสียหายและบอบช้ำยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะพวกที่บอกให้เลิกทำบุญกับวัด ไปทำบุญกับโรงพยาบาล ไปทำบุญกับเด็กกำพร้าดีกว่า กระผม/อาตมภาพอยากจะถามท่านว่า ถึงเวลาแล้วจะให้ทางโรงพยาบาลไปสวดมนต์บ้าน ไปจัดงานมงคล งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ให้หรือไม่ ? หรือว่าจะให้เด็กกำพร้าไปช่วยเผาศพ ช่วยสวดศพให้ท่านหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2025 เมื่อ 00:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-05-2025, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,560
ได้ให้อนุโมทนา: 158,363
ได้รับอนุโมทนา 4,485,546 ครั้ง ใน 36,169 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วอีกประการหนึ่งก็คือในเรื่องของเงินทอง พูดไปก็เป็นของบาดใจ เหตุก็เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสห้ามเอาไว้ แต่พระองค์ท่านก็ประทานอนุญาตไว้ ว่าสิกขาบทไหนที่ไม่เหมาะสมกับยุคสมัย ก็ให้คณะสงฆ์เพิกถอนได้ แต่เพียงแต่คณะสงฆ์ของเราให้ความเคารพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้เพิกถอนสิกขาบทเหล่านี้ จึงทำให้พระภิกษุสามเณรต้องหน้าด้านหน้าทนรับเงินไป เพราะว่าไม่ว่าจะเดินทางไปไหน จะทำการทำงานอะไร ก็ล้วนแต่ต้องใช้เงินทั้งสิ้น แม้แต่อยู่วัดก็ยังมีค่าน้ำค่าไฟ มีค่าบูรณปฏิสังขรณ์

เพียงแต่ว่าพวกเราถ้าหากว่าแกล้งโง่ ก็จะไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่พระทั้งหลายทำ ไม่เห็นว่าโรงพยาบาลต่าง ๆ มีตึกสงฆ์อาพาธ ก็เพราะว่าหลวงปู่หลวงพ่อท่านเมตตาสละทรัพย์ช่วยเหลือเอาไว้ ไม่เห็นว่าหน่วยงานต่าง ๆ มีสถานที่จัดงาน มีผลงาน ก็เพราะว่าอาศัยวัดวาอารามช่วยเหลือทั้งสิ้น

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านทั้งหลายยังจะกล่าวหาอยู่ในลักษณะให้ร้ายพระสงฆ์ ให้ร้ายพระพุทธศาสนา โดยที่แยกไม่ออกว่าอะไรดีอะไรชั่ว ประมาณว่าครูบาอาจารย์ไม่ดี เราก็อย่าให้ลูกหลานไปโรงเรียนเลย แล้วบุคคลที่โง่คือใคร ? ก็คือลูกหลานของท่านที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายก็เลือกเอาเองว่าสิ่งที่ท่านพูดกับสิ่งที่ท่านทำนั้น สมควรกันแล้วหรือไม่ ?

อีกประเภทหนึ่งก็กล่าวถึงเรื่องของสมณศักดิ์ เรื่องของนิตยภัต หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า "เงินเดือนพระ" ว่าควรที่จะยกเลิกให้หมด กระผม/อาตมภาพก็เห็นด้วย แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่พระสงฆ์หรือว่าญาติโยมจะกำหนดได้ เนื่องเพราะว่าเป็นพระราชศรัทธาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการให้พระสงฆ์ช่วยกันดูแล ความสุขความทุกข์ของญาติโยม ของพสกนิการแทนพระองค์ท่าน จึงได้มอบภาระธุระให้ แล้วก็ถวายกำลังใจด้วยการมอบสมณศักดิ์ ตลอดจนกระทั่งนิตยภัตให้

จะว่าไปแล้วที่ท่านทั้งหลายเรียกว่า "เงินเดือนพระ" กระผม/อาตมภาพอยากจะให้ท่านทั้งหลายคิดเสียใหม่ เงินเดือนอะไรที่ได้น้อยนิดขนาดนี้ ? กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่เงินเดือน ๕๐๐ บาท แล้วก็เพิ่มขึ้นมาเป็น ๑,๕๐๐ บาท ปัจจุบันนี้อยู่ที่ ๑,๘๐๐ บาท ถ้าไม่มีสมณศักดิ์ เงินเดือนก็ตายสนิทอยู่แค่นี้..! แล้วถ้าเป็นท่านทั้งหลายคิดว่าเงินแค่นี้จะ "พอยาขี้ฟัน" หรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2025 เมื่อ 01:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-05-2025, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,560
ได้ให้อนุโมทนา: 158,363
ได้รับอนุโมทนา 4,485,546 ครั้ง ใน 36,169 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายไว้ให้เป็นค่าภัตตาหาร ก็คือเป็นค่าอาหารพระ ไม่ใช่เงินเดือน ถึงได้เรียกว่า "นิตยภัต" คือ "ค่าอาหารประจำ" สำหรับพระที่พระองค์ท่านเรียกใช้งาน ที่พระองค์ท่านถวายภารธุระในพระพุทธศาสนาให้ แต่พวกเราก็แกล้งโง่ ไม่เห็นในพระราชศรัทธายังไม่พอ ยังเห็นว่าเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาเสียอีก ทั้ง ๆ ที่ไม่พอที่จะใช้งานเลยแม้แต่น้อย..!

ในขณะเดียวกัน เรื่องของสมณศักดิ์ก็เป็นพระราชศรัทธา บุคคลที่ท่านเข้าใจถึงความเป็น "ยศช้าง ขุนนางพระ" ก็จะทราบว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายสมณศักดิ์ให้ เพื่อความสะดวกในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ แต่บุคคลที่ขาดสติก็จะไปหลงยึดในสมณศักดิ์นั้น ๆ จนกระทั่งมีการอยู่ในลักษณะถือตัวถือตนขึ้นมา นั่นก็ต้องแล้วแต่กิเลสในใจ ว่าของแต่ละคนใครมีมากมีน้อยกว่ากัน

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่เรื่องที่ท่านทั้งหลายจะไปก้าวล่วงในพระราชอำนาจ ซึ่งพระของเรา แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดเจนว่า "อนุชานามิ ภิกฺขเว ราชูนํ อนุวตฺติตุํ" แปลเป็นใจความว่า "ดูก่อน..ภิกษุทั้งหลาย เราให้คล้อยตามพระราชา"

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พระเรานอกจากปฏิเสธพระราชศรัทธาไม่ได้แล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วที่รู้ลึก รู้จริง ยังเห็นว่า
การประกาศพระศาสนานั้นจะสะดวกขึ้น ก็ต่อเมื่อได้รับการอุปถัมภ์จากผู้ปกครอง ก็คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กลับกลายเป็นข้อที่ท่านทั้งหลายเอามาโจมตีโดยไม่ลืมหูลืมตา ก็ได้แต่หวังว่าท่านทั้งหลายจะไม่โดนมาตรา ๑๑๒ ในฐานะที่ก้าวล่วงพระราชอำนาจก็แล้วกัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2025 เมื่อ 01:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว