บันทึกการเดินทาง "ฮักนะ..เมืองลาว"

[ตัวเล็ก]

บันทึกการเดินทาง "ฮักนะ..เมืองลาว"
วันที่ ๑๔ - ๑๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
ณ ประเทศลาว


เวลา ๐๓.๓๐ น. พบกันที่ประตู ๑ อาคาร ๓ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง


มะรุมมะตุ้มรับเอกสาร ติดบัตร กรอกใบผ่านแดน


รวมน้ำลิตรครึ่งและหนังสือ ๒ เล่มแล้ว กระเป๋าหนักตั้ง ๕ กิโลกรัม..!




คณะใหญ่ต้องเช็คอินแต่เนิ่น ๆ


ผ่าน ตม. ผ่านเครื่องเอ๊กซเรย์


ประตู ๕ กรุณาดำดิน..!


ขึ้นลงบันไดไม่ไหวเมื่อไหร่ก็จะเลิกเดินทาง..!


รอไปเลย..ชั่วโมงครึ่ง


ต้องเป็นคนใจพิการ..เพราะว่าโทรศัพท์ชาร์จได้เฉพาะจุดนี้เท่านั้น..!


ถ่ายรูปหมู่ก่อนขึ้นเครื่อง


เวลา ๐๕.๕๐ น. เรียกขึ้นเครื่อง ต้องขึ้นรถบัสไปก่อน


ภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ได้ ๓ จบกว่าจะมาขึ้นเครื่อง..!


ที่นั่ง F แต่ติดหน้าต่าง ไม่ค่อยชิน ปกติเจอแต่ A หรือ J ที่ติดหน้าต่าง

[ตัวเล็ก]

อาทิตย์อุทัย สัญลักษณ์แห่งชีวิตที่รุ่งเรืองยั่งยืน


ตอกบัตรรอรับอาหารเช้า


เป็นข้าวมันไก่ปิ้ง ไก่ย่าง (เดิน) กินบ่ได้


เวลา ๐๗.๓๐ น. มาถึงสนามบินนานาชาติวัดไต สปป.ลาว


รอผ่าน ตม.ไปเถอะ มีเจ้าหน้าที่แค่คนเดียว..!






ไม่มีกระเป๋าสักใบ แต่ผ่านออกมาก่อนก็เลยต้องมาช่วยเขายกกระเป๋า..!


๔๐ นาที กว่าที่จะมารับกระเป๋าได้ครบทุกคน

[ตัวเล็ก]

ครูบาแก้ว สนฺติโก เจ้าอธิการวัดท่าช้าง มาต้อนรับ


เดินไปลานจอดรถ


นางไก่ ไกด์ท้องถิ่น หญิงลาวใช้ "นาง" ตั้งแต่ "ประสูติ" บ่มี เด็กหญิง นางสาว


เวลา ๐๘.๓๐ น. ออกเดินทางไปไหว้พระธาตุหลวงเวียงจันทน์




อ้าว..มาพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว ซึ่งมีต้นหำงัว (มะฮอกกานี) ขึ้นเรียงรายตลอดแนวกำแพง


ถ่ายรูปหมู่


รูปปั้นตัวแทนคนลาวยกประเทศให้ฝรั่งเศส ตอนนี้ต้องตัดรูปคนฝรั่งเศสทิ้ง..!


แม่หญิงไก่เข้าไปยืนแทนคนฝรั่งเศส


ไหหิน จากทุ่งไหหิน เมืองเชียงขวาง


รูปหมู่หน้าโบสถ์พระแก้ว ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว

[ตัวเล็ก]

พระพุทธรูปสัมฤทธิ์งาม ๆ รอบอาคารพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว

[ตัวเล็ก]

เดินไปวัดศรีสะเกษที่ไกลมาก ต้องข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน..!




ถ่ายรูปหมู่แล้วเข้าไปกราบสักการะพระประธานภายในโบสถ์

[ตัวเล็ก]

พระพุทธรูปเก่า ๆ งาม ๆ ที่ระเบียงคดรอบโบสถ์ไม่ห้ามถ่าย ไปห้ามถ่ายแค่ในโบสถ์..!








พระประธาน เสาหลักเมือง นางศรีเมือง และกลองหลวง


ห้องน้ำวัดศรีเมือง สะอาดน่าใช้มาก

[ตัวเล็ก]

มากินอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร "แม่ของ ๑"


ทำกับข้าวเอาใจคนไทยสุด ๆกะเลยบ่ค่อยแซ่บ..!


ใครคิดถึงบ้านก็ว่ายน้ำข้ามไป เหยียบฝั่งหนองคายแล้วรีบกลับมา..!


เวลา ๑๑.๓๕ น. เดินทางไปซื้อเครื่องกันบูด ถ้าไม่มีกลับไปคนทางบ้านจะหน้าบูด..!


ร้านขายเครื่องกันบูด "จินตนาหัตถกรรม"
















เชิญละลายทรัพย์ได้ตามอัธยาศัย

[ตัวเล็ก]

โดนปรับโปรแกรมสักการะพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ไปช่วงบ่าย บ้านข้างที่จอดรถก็งามอยู่นะ


รูปหมู่แบบเร่งด่วน ก่อนที่จะละลาย..!


จอมคนแห่งกัมโพช ยึดบัลลังก์อย่างเหนียวแน่นอยู่ที่เดิม..!




ปล่อยไปละลายทรัพย์ เผลอทำเงินแสนหล่นอยู่ข้างพระธาตุหลวงนี่เอง..!

[ตัวเล็ก]

โฮงแฮมยังอนามัย (ทำความสะอาด) บ่แล้ว เพิ่นต้องพาไปไหว้พระต่อ


ถึงแล้ว..วัดองค์ตื้อมหาวิหาร


งามสุด ๆ ไม่มากราบนี่แม่ตีตายเลย..!


รูปหมู่กับของแถมสุดพิเศษจาก "เติมเต็ม ทราเวล"


กลับไปเข้าโรงแรมจ้า..!


ถึงแล้ว Muong Thanh Luxury Vientiane ระดับ ๕ ดาว


เจ้านี่ซุ่มรอเขมือบลูกค้าอยู่ในพุ่มไม้หน้าโรงแรม..!


รับกุญแจที่ล็อบบี้ แล้วขึ้นไปชั้น ๑๙ นี่ยังไม่ใช่ชั้นสูงสุด..


หัวค่ำนอนเตียงนอก เที่ยงคืนนอนเตียงกลาง ใกล้รุ่งนอนเตียงในสุด..!










ระบบไฟฟ้ารวมศูนย์อยู่ที่กล่องเล็กใบนี้

[ตัวเล็ก]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘

[ตัวเล็ก]

วันเสาร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘


อากาศยามเช้าที่โรงแรม เขตศรีสัตตนาค นครหลวงเวียงจันทน์ อยู่ที่ ๒๑ องศาเซลเซียส




















เวลา ๐๕.๕๐ น. ภัตตาคารดอกจำปาเปิดให้ตามสัญญา เอาใจลูกค้าแบบสุด ๆ มีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปรุงสดให้ด้วย


ก่อนกินผู้ที่ชื่อยาวที่สุดในคณะขอถวายสิ่งของก่อน..!




ได้แค่นี้ก็จุกแล้ว..!


การตกแต่งทุกขั้นเอาใจคนจีนไว้ก่อน


เวลา ๐๗.๐๐ น. ออกเดินทางไปวัดท่าช้าง


ทางซื่อ ๆ มุ่งลงใต้ไปฮอดปากเซพู้น..!




อีกสิบกว่าหลักจะถึงวัดท่าช้างแล้ว

[ตัวเล็ก]

ไปถึงวัดก็ต้องไปกราบพระประธานองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศลาวก่อน


ครูบาแก้วจัดสถานที่ต้อนรับไว้อลังการทีเดียว






ทำบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัยขออนุญาตหล่อพระพุทธรูปเงินก่อน


พี่น้องลาวไทยถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก
















แล้วไปอธิษฐานจิตสมโภชหลวงพ่อทองคำ ๑ องค์ หลวงพ่อนาก ๒ องค์


















แล้วมาเป็นประธานหล่อหลวงพ่อเงิน น้ำหนัก ๑๐๘ กิโลกรัม


นำอุทิศส่วนกุศล กล่าวสัมโมทนียกถา ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วแยกย้ายกันกลับ




อาหารกลางวันท่วมโต๊ะ




แม่นางปูเป้ตามมาจากเมืองฮาร์บิน มีแม่นางมีมี่ตามมาด้วย


ทีมงานเติมเต็มทราเวลขอรูปก่อนเดินทางกลับที่พัก


กลับเพื่อไปซื้อเครื่องกันบูด..!


ผ่านไปครึ่งชั่วโมงหลุดออกมาถนนลาดยางเสียที..!

[ตัวเล็ก]

แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มหัวบั่วใหญ่ (หอมหัวใหญ่)




"บิ๊กก๊อด ช่องเม็ก" เอารถตู้มารับไปชมพิพิธภัณฑ์เปิดใหม่


ปล่อยคณะไปหาซื้อ "เครื่องกันบูด" กันเอง


ประมาณบ่ายโมงครึ่งมาถึงหนองเซือม บ้านนา ที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะลาว


ย่างไปประมาณ ๔๐๐ เมตร




บ่อนขายปี้ คนลาว ๑๐ หมื่นกีบ ต่างซาด ๒๓ หมื่นกีบ (ในป้ายว่า ๒๒ หมื่น..!)






ได้ "ปี้" แล้วยังต้องเดินไปอีกไกลลิบกว่าจะถึงที่ฝากร่ม




สองข้างทางขึ้นพิพิธภัณฑ์ยังมีเรือไฟรูปพญานาคและหงส์อยู่ด้วย










ผ่านกลองหลวง ระฆังหลวงเข้าไป เจอ "มอม" ๒ ตัวเฝ้าประตูเข้าพิพิธภัณฑ์อยู่

[ตัวเล็ก]

ห้องโถงแรกเป็นแผ่นไม้แกะสลักรูปนูนต่ำของนางอัปสราแบบขอม มีนกอินทรีย์สยายปีกแปลกปลอมอยู่ ๑ ตัว


ห้องนี้ยังไม่เสร็จ..ห้ามเข้า


















ห้องต่อไปประมาณศูนย์กลางจักรวาล มีรูปแกะสลักไม้จำนวนมาก

[ตัวเล็ก]

จากศูนย์กลางจักรวาลเลี้ยวซ้ายไป เป็นห้องพระพุทธรูปเก่าแก่ เล็ก ๆ ใหญ่ ๆ ที่งดงามสมบูรณ์จำนวนมาก

[ตัวเล็ก]

แล้วตรงไปห้องกลางด้านล่างต้องลงบันไดเลื่อน มีงานแกะสลักไม้ส่วนใหญ่เป็นปุ่มต้นไม้จำนวนมาก
ฝีมือไม่ถึงกับดีเลิศ จนรู้สึกเสียดายวัสดุซึ่งหายากและราคาแพงมาก


ห้องนี้ยังไม่เสร็จ..ห้ามเข้า

[ตัวเล็ก]

ห้องล่างซ้ายส่วนใหญ่เป็นงานแกะสลักจากปุ่มไม้ทั้งสิ้น ดูแล้วน่าเสียดายวัสดุมาก


ห้องล่างขวาก็ยังมีส่วนที่ไม่เสร็จ..ห้ามเข้า

[ตัวเล็ก]

แม้ฝีมือยังไม่เข้าระดับเลิศ แต่จิตใจที่ยอมทุ่มเทวัสดุแสนแพงเพื่องานศิลปะนั้นยิ่งใหญ่มาก..!

[ตัวเล็ก]

น้องปูเป้และน้องมีมี่ทำตัวเป็น FC ขนานแท้ ติดตามมาอย่างเหนียวแน่น

[ตัวเล็ก]

กลับขึ้นมาชั้นบน เข้าห้องซ้ายมือขาขึ้น เป็นงานเลียนแบบศิลปะไทย แต่แข็งทื่อ ไร้จิตวิญญาณ






ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก มารับการทำบุญ แล้วแยกย้ายกันกลับ




มาถึงโรงแรมก็เผ่นขึ้นห้องพัก โปรแกรมที่เหลือปล่อยให้ญาติโยมไปจัดการกันเอง