กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-12-2024, 17:18
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,936
ได้ให้อนุโมทนา: 225,200
ได้รับอนุโมทนา 800,228 ครั้ง ใน 39,355 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-12-2024, 22:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,259 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้เป็นวันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ทั้งสิ้นเดือนและสิ้นปีภายในวันเดียวกัน อากาศช่วงเช้าอยู่ที่ ๑๘ องศาเซลเซียส กระผม/อาตมภาพออกไปนำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรุ่นที่ ๑/๒๕๖๘ เจริญพระกรรมฐานกันตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง

ส่วนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ ญาติโยมส่วนใหญ่จะรอกันแบบใจจดใจจ่อว่า "เมื่อไรหลวงพ่อจะมานำเสียที" ซึ่งตรงจุดนี้นั้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใช้ความเพียรพยายามในการปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง คาดว่าคงจะสามารถยืนหยัดเป็นหลักแก่ผู้อื่นไปนานแล้ว เนื่องเพราะว่าบางท่านที่รู้จักกันมาเกิน ๓๐ ปี ก็ได้ชื่อว่าเป็นคน "สายวัด..สายบุญ" ปฏิบัติธรรมมาแต่เล็กแต่น้อย แต่เหตุที่ไม่ไปไหนเลยก็คือ ทำไปเท่าไรก็ยังเหมือนเดิม..! ก็เนื่องเพราะว่ายึดติดในตัวบุคคล ถ้าหากว่า "ไม่ใช่วัดนี้ เราไม่ปฏิบัติธรรม" "ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อรูปนี้ เราไม่ปฏิบัติธรรม" ทั้ง ๆ ที่การปฏิบัติธรรมนั้น ผู้ที่ได้ประโยชน์เป็นคนแรกก็คือตัวเอง

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าทางวัดท่าขนุนของเรานั้น เมื่อถึงเวลาแล้วจะไม่มีการรอใคร เนื่องเพราะว่า
การปฏิบัติธรรมนั้น เป็นเรื่องของใครทำใครได้ ทำแทนกันไม่ได้ จึงไม่มีการที่จะมารีรอขอความพร้อมเพรียงใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อถึงเวลา กระผม/อาตมภาพก็จะนำการปฏิบัติในทันที ท่านใดมาช้า ก็ถือว่าเสียประโยชน์ของตนเองไป..!

เมื่อทำวัตรเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพต้องรอจนได้เวลา ค่อยนำพระออกบิณฑบาตตามปกติ สำหรับวันนี้ต้องแจ้งแก่ผู้ที่ใส่บาตรเป็นประจำว่า "
ในวันพรุ่งนี้ของดบิณฑบาตตามปกติเป็นเวลา ๑ วัน" เนื่องเพราะว่าเรามีการสวดมนต์ข้ามปี จากนั้นก็เป็นงานบิณฑบาตสร้างกุศลรับปีใหม่ ถ้าหากว่าออกบิณฑบาตตามปกติก็จะซ้ำซ้อนกัน แล้วญาติโยมก็ไม่รู้ว่าจะแบ่งใจไปด้านไหนดี ทางวัดจึงตัดสินใจแทน ด้วยการงดบิณฑบาตตามปกติไป ๑ วัน

วันนี้มีนักท่องเที่ยวมากันมากมาย จนกระทั่งที่จะจอดรถก็ไม่มีเช่นเดิม มีสองส่วนที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ส่วนแรกก็คือ
รถยนต์หลายต่อหลายคันนั้น จอดในที่ห้ามจอดชนิดที่ไม่สนใจอะไรเลย ขอให้ตนเองมีที่จอดก็แล้วกัน ถ้าหากว่าท่านมักง่ายในลักษณะแบบนี้ ต่อไปก็จะติดเป็นนิสัย หรือไม่ก็คนรุ่นหลังเห็นแล้วทำตาม ความมีระเบียบซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติของเราก็จะค่อย ๆ สูญหายไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-01-2025 เมื่อ 01:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-12-2024, 22:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,259 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่สองก็คือญาติโยมส่วนหนึ่งก็ยังทำตัวเหมือนเดิม จะใส่บาตรแต่ว่าไม่ยอมถอดรองเท้า ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็จะเดินเลยไปอยู่เสมอ จนกระทั่งบางท่านกว่าจะรู้ตัว กระผม/อาตมภาพก็เดินเลยไปไกลแล้ว ถ้าหากว่าท่านถอดรองเท้าทันก็ใส่ทางตรงกลางแถว หรือว่าท้ายแถว ถ้าหากว่าถอดรองเท้าไม่ทันก็ไม่ต้องใส่บาตร..!

เมื่อกลับมาฉันเช้าเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ห่มดอง พาดสังฆาฏิ ลงไปที่ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน สนทนาธรรมกับญาติโยมทั้งหลายก่อนที่จะนำปฏิบัติธรรมช่วงสายของวัน ซึ่งการนำปฏิบัติธรรมช่วงเช้าประการหนึ่ง และการสนทนาธรรมก่อนเริ่มการปฏิบัติช่วงต่าง ๆ อีกประการหนึ่ง จะเป็นช่วงที่ญาติโยมมักจะได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะพยายามชี้ทางออกบอกทางถูกให้กับหลาย ๆ ท่าน บางอย่างถ้าท่านไปปฏิบัติเองอาจจะติดอยู่หลาย ๆ ปี แต่ในเมื่อได้ฟังการ "บ่น" ของกระผม/อาตมภาพเข้า ก็อาจจะผ่านไปได้ง่าย ๆ โดยไม่เสียเวลาเลย

ครั้นมอบหมายให้กับพระวิปัสสนาจารย์ประจำสำนักปฏิบัติธรรมวัดท่าขนุนนำญาติโยมปฏิบัติธรรมแล้ว กระผม/อาตมภาพเองก็ต้องมารีบจัดการกับงานต่าง ๆ โดยเฉพาะรายจ่าย เนื่องเพราะว่าเป็นช่วงสิ้นเดือน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน หรือว่าค่าแรงต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งบัญชีก็ประเดประดังมามากมาย ยังไม่ทันที่งานจะเสร็จเรียบร้อย เสียงกลองเพลก็ดังขึ้นมาแล้ว แต่ว่าวัดท่าขนุนของเรานั้น กลองเพลมีไว้สำหรับเป็นสัญญาณบอกเวลาเท่านั้น เพราะว่ากระผม/อาตมภาพกำหนดให้ทางพระภิกษุสามเณร ตลอดจนแม่ชีวัดท่าขนุน ฉันเพลกันในเวลา ๑๑ โมงครึ่ง

เนื่องเพราะว่าบางวันติดงาน อย่างเช่นว่า "งานวันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" ก็ดี หรือว่า "งานหิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ก็ตาม ถ้าหากว่าเจอนักท่องเที่ยวมาก ๆ บางทีกว่าจะกลับมาฉันเช้าได้ ก็ตก ๘ โมงกว่า ยังไม่ทันไรก็ต้องมาฉันเพลอีกมื้อหนึ่ง ก็ดูท่าว่าจะไม่ไหว กระผม/อาตมภาพเมื่อขอเสียงจากพระภิกษุสามเณรส่วนใหญ่แล้ว ทุกคนมีความเห็นร่วมกันว่าให้เลื่อนเวลาฉันเพลออกไปเป็น ๑๑.๓๐ น. จะดีกว่า

ครั้นเมื่อฉันเพลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ฟังเสียงตามสายจากหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งกระผม/อาตมภาพให้เปิดเป็นประจำทุกวัน ตอนเช้ามืด คือเวลาตี ๔ หนึ่งรอบ ตอนกลางวันคือเวลา ๑๒.๐๐ น. หนึ่งรอบ ตอนเย็นคือเวลา ๑๖.๐๐ น. หนึ่งรอบ และตอนค่ำเวลา ๒๐.๐๐ น. อีกหนึ่งรอบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-01-2025 เมื่อ 01:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-12-2024, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,259 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อจบเสียงตามสาย กระผม/อาตมภาพก็สนทนาธรรมเพื่อโยงจิตใจให้ญาติโยมทั้งหลายเข้าสู่การปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย หลังจากนำสมาทานพระกรรมฐานแล้ว ได้มอบถวายหน้าที่ให้กับพระวิปัสสนาจารย์วัดท่าขนุน นำญาติโยมทั้งหลายปฏิบัติธรรมต่อไป

ตัวกระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ได้นำเอาอาหารที่เหลือจากการฉันเพลส่วนหนึ่ง วิ่งไปยังบ้านวังรังกา ซึ่งเป็นเส้นทางบิณฑบาต ห่างจากวัดท่าขนุนเกือบ ๕ กิโลเมตร เพื่อที่จะไปเลี้ยงหมาแม่ลูกอ่อน ซึ่งคลอดลูกเอาไว้ทั้งหมด ๘ ตัวด้วยกัน แต่ปรากฏว่าโดนคนอุ้มไปแล้ว ๓ ตัว ซึ่งส่วนใหญ่ที่โดนอุ้มไปก็คือบรรดาตัวที่ดูแล้วว่าแข็งแรงน่ารักที่สุด

บรรดาลูกหมา ๕ ตัวที่เหลือนั้น เริ่มหัดกินอาหารแล้ว กระผม/อาตมภาพเอาขนม ตลอดจนกระทั่งหมูปิ้งไปฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ป้อนให้บรรดาลูกหมาเหล่านั้น เมื่อแม่หมาเห็นก็รีบวิ่งมาด้วยความดีใจ เนื่องเพราะว่าเวลากระผม/อาตมภาพออกบิณฑบาต แม่หมาก็มักจะผูกสัมพันธไมตรีด้วยการวิ่งตาม ซึ่งกระผม/อาตมภาพก่อนหน้านี้เห็นว่าแม่หมาท้องแก่ จึงได้ถามว่า "เมื่อไรจะคลอด ? ถ้าคลอดแล้วให้บอกกันด้วยนะ จะได้หาอะไรมาเลี้ยง" ปรากฏว่าช่วงเช้าที่บิณฑบาต แม่หมาวิ่งมาส่งข่าวว่าคลอดแล้ว แล้วแถมยังทวงสัญญาเสียด้วย..!

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าสัตว์ก็คือคน เพียงแต่ว่าเขาโดนจำกัดอยู่ในภพภูมิของเดรัจฉาน ความรู้สึกก็คือคนดี ๆ นี่เอง สิ่งที่เขาสื่อสารออกมานั้นชัดเจนมาก ๆ เพราะว่าสัตว์มีทั้งภาษากาย ก็คือทำท่าทำทางต่าง ๆ ให้เรารู้ว่าเขาต้องการอะไร มีภาษาเสียง คือสามารถที่จะส่งเสียงสื่อสารตามปกติของมนุษย์และสัตว์ทั่ว ๆ ไป แล้วยังมีภาษาใจ คือการที่ส่งกำลังใจมาถึงพวกเราโดยตรง

ต้องบอกว่าแม่หมาตัวนี้ฉลาดมาก อาศัยบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์จากคำพูดประโยคเดียวที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ถ้าคลอดลูกเมื่อไรให้บอกด้วย จะเอาอาหารมาเลี้ยง" เมื่อเจอหน้าก็รีบวิ่งมาบอก แต่ตอนบิณฑบาต กระผม/อาตมภาพไม่มีอาหารที่จะแบ่งให้
เนื่องเพราะว่าอาหารบิณฑบาตนั้น ยังไม่ใช่ของเหลือจากพระภิกษุสามเณรฉันแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-01-2025 เมื่อ 01:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 31-12-2024, 22:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,259 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทางวัดท่าขนุนของเรา เมื่อหลังเพลแล้วก็จะ "โละ" ข้าวปลาอาหารทั้งหมดของวัน ไม่ให้เหลืออะไรไว้เลย นำไปแจกจ่ายให้กับทหารตำรวจตามด่านตรวจบ้าง ผู้ป่วยติดเตียงบ้าง ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ บ้าง ซึ่งได้กระทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่กระผม/อาตมภาพยังเป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน มาถึงตอนนี้ก็เกิน ๒๐ ปีแล้ว

ครั้นเลี้ยงแม่หมาลูกหมาเสร็จเรียบร้อย เทน้ำเอาไว้ให้เขาในภาชนะแล้วก็ได้เดินทางกลับ เพื่อที่จะมามอบเงินในการบูรณปฏิสังขรณ์ห้องน้ำห้องส้วมใหม่ให้โรงเรียนวัดไร่ป้า ซึ่งทาง ผอ.ตูน (นางวารุณี พรมฝ้าย) ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้นำคณะเด็ก ๆ มารอรับเงินงวดสุดท้ายจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งถ้าหากว่านับรวมทั้ง ๓ งวดที่ว่ามาก็ ๓๐๐,๐๐๐ บาทพอดี

ปกติแล้วกระผม/อาตมภาพจะไปเป็นประธานจัดงานวันเด็กให้กับโรงเรียนนั้น ๆ ด้วย แต่ปีนี้พอดีกำหนดการไปยังเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น คร่อมกับเวลาซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคม ๒๕๖๘ พอดี กระผม/อาตมภาพจึงมอบหมายให้กับไอ้ตัวเล็ก (นางสาวพัชรีภรณ์ หยกอุบล) ประธานชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทย ไปทำหน้าที่เป็นประธานในการจัดงานแทน

เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่ก็คือค่าบูรณปฏิสังขรณ์ จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาทนั้น กระผม/อาตมภาพมอบงวดนี้ให้ก็ครบถ้วนแล้ว ส่วนที่เหลือก็คือที่ญาติโยมทั้งหลายทำบุญมา ไม่ว่าจะเป็นข้าวของหรือว่าเงินทองต่าง ๆ ซึ่งได้ทยอยกันขนส่งไปยังโรงเรียนบ้านไร่ป้าเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอเวลาอย่างเดียวว่า ถึงเวลาวันเด็กเมื่อไรก็ได้ไปเฮกันที่นั่นอีกที

แล้วกระผม/อาตมภาพก็มาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน อยู่ที่สำนักงานเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เนื่องเพราะว่าในช่วงเย็นนี้ยังต้องไปร่วมงานถนนคนนั่งยองทองผาภูมิปี ๒๕๖๗ เพราะว่าบรรดาเด็ก ๆ ที่กระผม/อาตมภาพสนับสนุนให้ฝึกฝนการแสดงนาฏศิลป์ การละครต่าง ๆ รอให้หลวงตาของเขาไปแจกรางวัล จึงต้องมาบันทึกเสียงให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วเวลางานติดพันขึ้นมาอาจจะหลงลืมได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแต่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-01-2025 เมื่อ 04:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว