กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-07-2024, 17:23
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-07-2024, 23:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพต้องไปเป็นตัวแทนหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ในพิธีเปิดการอบรมพระคิลานุปัฏฐาก ซึ่งคำนี้สำหรับญาติโยมทั้งหลายอาจจะฟังไม่เข้าใจ คำว่า คิลานะ เป็นภาษาบาลี แปลว่าป่วยไข้ อุปัฏฐาก คือ การดูแลรักษาช่วยเหลือ พระคิลานุปัฏฐาก คือ พระที่คอยดูแลผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย

ทางศูนย์อนามัยที่ ๕ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร่วมกับโรงพยาบาลทองผาภูมิ และสาธาณสุขอำเภอทองผาภูมิ ทำโครงการอบรมในครั้งนี้ขึ้นมา โดยที่ต้องใช้เวลาอบรมภาคทฤษฎีประมาณ ๓๐ ชั่วโมง แล้วที่เหลือก็เป็นภาคปฏิบัติ ๔๐ ชั่วโมง โดยทางคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้นพยายามที่จะคัดบุคคลเข้ารับการอบรมแบบรอบคอบที่สุด

คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้นแบ่งออกเป็น ๑๐ ตำบลทางคณะสงฆ์ เนื่องเพราะว่าตำบลทางราชการมีแค่ ๗ ตำบลเท่านั้น แต่ว่าตำบลที่ใหญ่มาก ๆ อย่างเช่นว่าตำบลชะแล ตำบลลิ่นถิ่น ตำบลท่าขนุน ทางคณะสงฆ์แบ่งออกเป็น ลิ่นถิ่นเขต ๑ ลิ่นถิ่นเขต ๒ ท่าขนุนเขต ๑ ท่าขนุนเขต ๒ ชะแลเขต ๑ และชะแลเขต ๒ ดังนั้น ตำบลทางคณะสงฆ์จึงมี ๑๐ ตำบลด้วยกัน

ทางคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิคัดเลือกให้เลขานุการเจ้าคณะตำบลทุกตำบลต้องเข้าอบรม เพื่อเป็นตัวหลักให้กับตำบลนั้น ๆ และคัดพระภิกษุที่เหมาะสมในตำบลนั้นอีกตำบลละ ๑ รูป ก็แปลว่าหมดไปแล้ว ๒๐ รูป มอบให้คณะสงฆ์ธรรมยุต ๙ รูป เป็น ๒๙ รูป อีก ๘ รูปที่เหลือนั้น พวกเราคัดเลือกพระที่มีเชื้อสายมอญ กะเหรี่ยง พม่า เหล่านี้เป็นต้น เพื่อว่าถึงเวลาถ้าหากว่าบุคคลที่เจ็บไข้ได้ป่วย แล้วเป็นพระภิกษุหรือว่าสามเณรเชื้อสายนั้น ๆ ไม่สามารถที่จะสื่อสารด้วยภาษาไทยให้เข้าใจชัดเจนได้ ก็จะได้มอบให้พระคิลานุปัฏฐากของเชื้อสายนั้น ๆ เข้าไปดูแล

ส่วนวัดท่าขนุนนั้น กระผม/อาตมภาพกลายเป็น "ผู้มาก่อนกาล" ก็คือได้ส่งพระเข้าอบรมพระคิลานุปัฏฐากกับทางศูนย์สุขภาพพระสงฆ์วังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี แล้วยังส่งพระเข้ารับการอบรมจากโรงพยาบาลสงฆ์อีกต่างหาก ก็แปลว่าในจำนวนพระคิลานุปัฏฐาก ๙ รูปของอำเภอทองผาภูมิ ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทางฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์ไทยนั้น เป็นพระวัดท่าขนุนแทบทั้งสิ้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-04-2025 เมื่อ 20:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-07-2024, 23:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็น "ผู้มาก่อนกาล" แต่ว่าครั้งนี้โครงการอบรมมาถึงในเขตของตนเอง ก็คือ ทางศูนย์อนามัยที่ ๕ จังหวัดราชบุรี สำนักงานสาธารณสุขกาญจนบุรี มาจัดงานจนถึงที่แล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สะดวกด้วยประการทั้งปวง แต่ว่าเราจะเห็นแก่ตัวโดยการเอาเฉพาะพระวัดท่าขนุนลงไปอบรมก็ไม่ได้ จึงต้องแบ่งสันปันส่วนกัน ตามที่ประชุมได้กำหนดเอาไว้ด้วยความรอบคอบที่สุดแล้ว

หลังจากนี้ถ้าหากว่ามีการอบรมครั้งต่อ ๆ ไปก็จะได้ทำการคัดเลือกบุคคลในลักษณะแบบนี้อีก ก็คือคัดเลือกในลักษณะเดียวกับการอบรมครั้งนี้ เพื่อที่จะได้มีความยุติธรรม และขณะเดียวกันก็กระจายผู้รับผิดชอบออกไปให้ทั่วพื้นที่ ถ้าไม่เพียงพอยังสามารถที่จะขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากวัดท่าขนุน ซึ่งมีพระคิลานุปัฏฐากมากที่สุดได้อีกด้วย

เมื่อถึงเวลา หลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติท่านก็มอบหมายให้กระผม/อาตมภาพ เป็นผู้ให้โอวาทแก่พระภิกษุทั้งหมดที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ โดยท่านบอกว่า "หลวงพ่อรอง ฯ วัดท่าขนุน ถนัดเรื่องนี้มากกว่ากระผม" ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ นำเอาคำให้โอวาทมา แต่กระผม/อาตมภาพวางเอาไว้เฉย ๆ แม้แต่เปิดดูก็ไม่ได้เปิด ให้โอวาทว่า "พระภิกษุทุกรูปเป็นผู้ที่ประกอบไปด้วยบุญญาธิการอันใหญ่ยิ่ง จึงได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมครั้งนี้

เนื่องเพราะว่าถ้าดูในพระธรรมบทเรื่องพระปูติคัตตติสสะ คำว่า ปูติคัตตะ ก็คือ ร่างกายอันเน่าเปื่อย ท่านมีชื่อว่าติสสะ แต่เนื่องจากว่าติสสะนั้นมีหลายต่อหลายรูปด้วยกัน จึงต้องมีฉายาต่อท้าย พระปูติคัตตติสสะท่านน่าจะป่วยเป็นมะเร็ง เพราะในบาลีบอกว่าเกิดต่อมขึ้นกับร่างกาย ตอนแรกก็โตเท่าเม็ดถั่วเขียว แล้วหลังจากนั้นก็โตขึ้นเท่าลูกสมอ โตขึ้นเท่าผลมะตูม แตก เน่า มีแต่น้ำเลือดน้ำเหลืองไหลโทรมไปทั้งกาย ในเมื่อเป็นหลาย ๆ ต่อมเข้า ผู้คนก็รังเกียจไม่มีใครดูแล ปล่อยท่านนอนจมน้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่อย่างนั้น..!

องค์สมเด็จพระภควันบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อทราบเข้าก็เสด็จไปหา ทรงต้มน้ำ ซักจีวร เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ท่านติสสะด้วยตนเอง เมื่อท่านติสสะร่างกายผ่อนคลายสบายแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ตรัสบาลีว่า
"ดูก่อน..ติสสะ อะจิรัง วะตะยัง กาโย ปะฐะวิงอะธิเสสสะติ ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ นิรัดถ้ง วะ กะลิงคะรังฯ" ซึ่งในปัจจุบัน คณะสงฆ์ของเราใช้ในพิธีบังสุกุลเป็น แปลความว่า "ดูก่อน...ติสสะ ร่างกายนี้เมื่อปราศจากวิญญาณแล้ว ก็ถูกทิ้งนอนกลิ้งอยู่กับแผ่นดิน เหมือนกับขอนไม้ฉะนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2024 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-07-2024, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระติสสะเมื่อร่างกายสบาย จิตใจโปร่งเบา มองเห็นทุกข์เห็นโทษของร่างกายที่มีแต่ความเจ็บไข้ได้ป่วย จิตก็ไม่ยึดเกาะในร่างกายนี้อีก มองเห็นร่างกายมีค่าเป็นแค่ขอนไม้ที่ต้องทิ้งกองอยู่กับแผ่นดิน เมื่อสภาพจิตไม่ยึดเกาะร่างกายอีกแล้ว ก็บรรลุอรหัตผล กลายเป็นอริยบุคคลสูงสุดในพระพุทธศาสนา แล้วก็มรณภาพเลย

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า "ภิกขเว..ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอทั้งหลายเป็นผู้ปราศจากเรือนแล้ว ปราศจากญาติพี่น้อง ถ้าเธอทั้งหลายไม่ดูแลกันเองแล้วผู้ใดจะดูแล ? บุคคลใดปรารถนาจักอุปัฏฐากตถาคต ก็จงอุปัฏฐากดูแลภิกษุไข้เถิด การอุปัฏฐากดูแลภิกษุไข้นั้น มีอานิสงส์เช่นเดียวกับการอุปัฏฐากตถาคต"

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าอานิสงส์นี้ยิ่งใหญ่มาก ผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด ถือว่าเป็นผู้ที่ประกอบด้วยบุญญาธิการอันใหญ่ยิ่ง ที่จะได้ทำหน้าที่สำคัญในการผ่อนทุกข์บำรุงสุขให้กับเพื่อนพระภิกษุของเรา ซึ่งเจ็บไข้ได้ป่วย ปราศจากคนดูแล แล้วท่านทั้งหลายยังจะต้องกลายเป็นต้นแบบ เนื่องเพราะว่ายังจะมีการอบรมเพิ่มเติมขึ้นอีก ท่านต้องถวายคำแนะนำให้กับรุ่นต่อ ๆ ไป

แล้วทางฝ่ายสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์ไทย ซึ่งนำโดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามนั้น ท่านยังมีการกำหนดแผนการต่าง ๆ โดยที่จะเพิ่มเป็นอโรคยาศาลา หรือถ้าเป็นสมัยนี้ก็คือ สุขศาลาในการรักษาโรค เพิ่มเป็นสถานชีวาภิบาล สำหรับดูแลภิกษุป่วย หรือว่าเพิ่มเป็นศูนย์สุขภาพพระสงฆ์อย่างที่ท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านได้ทำเอาไว้

แล้วยังจะต้องมีการปรับปรุง พัฒนา ตลอดจนกระทั่งต่อยอดไปเพื่อบูรณาการ ก็แปลว่าท่านทั้งหลายนอกจากที่จะเป็นผู้ดูแลภิกษุไข้แล้ว ยังต้องประสานกับทางราชการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลประจำอำเภอ หรือว่าคณะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อที่จะบูรณาการงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2024 เมื่อ 01:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-07-2024, 23:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก่อนหน้านี้ทางคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้น ท่านหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอก็ดี ตัวกระผม/อาตมภาพก็ตาม ก็ได้แต่ไปอนุเคราะห์สงเคราะห์ด้วยการหาข้าวของเครื่องใช้จำเป็น และมอบปัจจัยเอาไว้สำหรับดูแลพระผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งส่วนใหญ่ก็อายุมาก ๆ ทั้งสิ้น แล้วก็ไม่ทราบว่าท่านหมดเวรหมดกรรมหรืออย่างไร หลังจากที่เข้าไปดูแลแล้ว ท่านมีกำลังใจผ่อนคลาย ลักษณะเดียวกับหลวงพ่อติสสะหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ? ส่วนใหญ่ก็มรณภาพไปตาม ๆ กัน พวกกระผม/อาตมภาพยังตามไปเป็นเจ้าภาพในการฌาปนกิจศพ ให้กับบรรดาหลวงปู่หลวงตาทั้งหลายเหล่านั้นอีกด้วย..!

บัดนี้ท่านทั้งหลายซึ่งมีหน้าที่โดยตรง ขอให้ตั้งใจศึกษาให้รู้รอบ รู้จริง และปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถ จะได้ไม่เสียชื่อในการเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส แต่ว่าการกระทำทุกอย่างนั้นต้องมีแรงกระทบเสียดทานจากภายนอก ทุกท่านจะลืมการภาวนาไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ถ้าหากว่ากำลังใจของเรามีสมาธิที่มั่นคง ท่านทั้งหลายก็สามารถที่จะสู้งานหนักได้อย่างสบาย แต่ถ้าหากว่าขาดสมาธิ เมื่อเจอแรงกระทบ ท่านทั้งหลายก็อาจจะต้องน้อยอกน้อยใจ ดีไม่ดีก็เสียอกเสียใจ จนกระทั่งเลิกทำงานไปเลยก็มี เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เราต้องระวังให้มากเข้าไว้

ขออำนวยอวยพรให้ทุกท่านได้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถ และเจริญพรขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันจนกระทั่งเกิดโครงการดี ๆ นี้ขึ้นมา ขอให้มีความสุขความเจริญโดยถ้วนหน้ากัน" เมื่อทำพิธีเปิดเสร็จสรรพเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็เดินทางต่อ เพื่อที่จะไปยังภารกิจต่อ ๆ ไปของตน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2024 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว