#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๘
|
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ขออาศัยเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้ สดุดีผู้กล้าทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจตระเวนชายแดน หรือว่าอาสาสมัครทหารพราน ตลอดจนกระทั่งท่านทั้งหลาย ที่ร่วมมือกันเสียสละทั้งข้าวของเงินทอง ตลอดจนกระทั่งหน้าที่การงานของตนเอง เพื่อสนับสนุนการรบหน้าแนวของพวกเรา จนกระทั่งสามารถที่จะตีโต้กองทัพประเทศกัมพูชาให้ถอยไปได้
แต่ว่าโดยปกติแล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะไว้วางใจเพื่อนบ้านประเทศนี้ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เนื่องเพราะว่าเป็นผู้ที่มักกล่าวเรื่องโกหกหลอกลวงชาวโลกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโฆษกที่เป็นนายพลหญิง หรือแม้กระทั่งองค์กษัตริย์นโรดม สีหมุนี ซึ่งเรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็เกิดจากเหตุ ๒ ประการ ประการแรกก็คือได้รับข้อมูลมาแค่นั้น แล้วเข้าใจว่าเป็นความจริงมาทั้งหมด ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องให้อภัย เพราะว่าขาดข้อมูลที่จะพิจารณาให้รอบคอบรอบด้าน อีกประการหนึ่งก็คือได้รับคำสั่งมาให้พูดแบบนั้น เพื่อสร้างความได้เปรียบในสถานการณ์โลก แต่สมัยนี้บรรดาเทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้สามารถจับโกหกได้ง่ายมาก ต้องบอกว่าใครทำก็คือสร้างความเสียหายให้กับตนเองมากกว่า..! เมื่อคืนนี้หน่วยทหารที่สร้างวีรกรรมจนกระทั่งเป็นที่ยอมรับมากที่สุด ก็คือกรมทหารราบที่ ๓๑ รักษาพระองค์ เนื่องเพราะว่าอยู่ในที่ต่ำ ข้าศึกอยู่บนที่สูง การที่เราจะตีข้าศึกซึ่งอยู่ในชัยภูมิที่ดีกว่า อย่างน้อยต้องทุ่มเทสรรพกำลัง และอาวุธยุทโธปกรณ์ไปไม่น้อยกว่า ๓ เท่า แต่ปรากฏว่าฝ่ายตรงข้ามมีมากกว่าถึง ๔ กองร้อย..! และเป็นหน่วยรบพิเศษที่ทางประเทศกัมพูชาหวงแหนมาก เพราะว่าตั้งใจจะเอาไว้ปกป้องผู้นำประเทศ พวกเราอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องช่วงชิงกันขนาดนั้น ? ทำให้ทหารกล้าของกรมทหารราบที่ ๓๑ รักษาพระองค์พลีชีพไป ๔ นาย บาดเจ็บอีกถึง ๑๒๖ นาย..! ก็เพราะว่าโดยหลักปฏิบัติทั่วโลกแล้ว ถ้ามีสนธิสัญญาหยุดยิง ฝ่ายไหนยึดพื้นที่ได้เท่าไร ถือว่าเป็นของฝ่ายนั้นไปก่อน และถ้าสามารถยึดพื้นที่ได้ ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบในการเจรจาภายหลัง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:05 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องยึดพื้นที่ให้ได้ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพเสียเปรียบถึง ๑ ต่อ ๔ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกองทัพไทยว่า ถึงเสียเปรียบขนาดนั้น แต่เราก็ยังได้รับการสนับสนุนจากเหล่าทัพอื่น อย่างเช่นทหารอากาศนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดช่วยเหลือกัน
ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็แปลว่า สงครามครั้งนี้ฝ่ายที่ขาดทุนยับเยินก็คือกัมพูชา หรือที่เราเรียกง่าย ๆ ว่า "เขมร" เพราะว่าเสียนายพลสำคัญไปแน่ ๆ แล้ว ๒ ราย ส่วนบรรดาผู้บังคับบัญชาระดับรอง ๆ ลงมา ตลอดจนถึงพลทหารนั้น เสียไปมากเท่าไร ฝ่ายเราไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ชัดเจน และฝ่ายกัมพูชาก็ไม่บอกเราแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าทำให้ฝ่ายตนเองเสียขวัญและกำลังใจเอง..! หลายท่านบอกว่า ทำไมไม่ส่งเครื่องบินรบของเราไปถล่มบ้านของสมเด็จฮุนเซนให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย ?! เรื่องพวกนี้ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกเพียงลำพัง บรรดากฎเกณฑ์สนธิสัญญาต่าง ๆ ที่เราจะต้องยึดถือตามหลักสากลนั้นมีอยู่ อย่างเช่นว่าห้ามลอบสังหารผู้นำฝ่ายตรงข้าม ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็จะสงสัยว่ายูเครนรบกับรัสเซียมาเป็นปี ๆ ฝีมือระดับรัสเซียมีหรือที่จะปล่อยประธานาธิบดียูเครนลอยนวลอยู่ได้นานขนาดนั้น ? แต่ในเมื่อมีกฎบัตรสหประชาชาติก็ดี สนธิสัญญาต่าง ๆ ก็ตาม ควบคุมอยู่ในลักษณะแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านมนุษยธรรม อย่างเช่นกฎเกณฑ์ที่ว่า ห้ามทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ห้ามทำลายโรงเรียน โรงพยาบาล เหล่านี้เป็นต้น แต่เราก็จะเห็นว่าทางด้านเขมรไม่สนใจเรื่องนี้ พูดง่าย ๆ ว่าสร้างปัญหาให้กับเราได้มากเท่าไร ถือเป็นข้อได้เปรียบ ส่วนตนเองก็ไป "พลิกลิ้นต่อ" ชาวโลกหน้าตาเฉย จนคนทั้งโลกแทบจะไม่มีใครคบด้วยอยู่แล้ว..! มีกฎเกณฑ์ข้อหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพรับไม่ได้ ตั้งแต่สมัยยังรับราชการทหารอยู่ ก็คือ "ห้ามยิงกำลังพลฝ่ายตรงข้ามที่กำลังกระโดดร่มลงมา" กระผม/อาตมภาพยกมือค้านผู้บังคับบัญชาสุดตัวเลย บอกว่าถ้ากระผม/อาตมภาพเห็นจะยิงทันที ต่อให้ต้องขึ้นศาลทหาร โดนประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิตก็ยอม..! เนื่องเพราะว่าทหารที่จะกระโดดร่มลงหน้าแนวที่กำลังรบกัน ส่วนมากเป็นหน่วยรบพิเศษ ถ้าเท้าแตะพื้นด้วยกัน ๑ ต่อ ๕ เอาเขาไม่อยู่เลย..! แล้วเรื่องอะไรจะปล่อยลงมา..! เรื่องพวกนี้อยู่ที่วิจารณญาณเฉพาะตน ไม่ใช่เรื่องที่คนใดคนหนึ่งจะสามารถทำแล้วรับผิดชอบได้ เพราะว่าขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาด้วย ผิดกฎบัตรกฎหมายระดับโลกด้วย แต่ก็ต้องเสียสละตนเอง เพื่อความปลอดภัยของพรรคพวกเพื่อนฝูงตลอดจนกระทั่งประชาชนของเรา..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : วันนี้ เมื่อ 08:52 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
ดังนั้น..ในเรื่องพวกนี้ที่ท่านทั้งหลายฟังข่าวอยู่ ยังไม่ใช่เรื่องที่จบลงง่าย ๆ ถ้าถือตามหลักเกณฑ์ใน "ตำนานพระพุทธเจ้าเลียบโลก" ทรงตรัสว่า"บรรพบุรุษชนชาตินี้มาจากสัตว์ตะกวด มีลิ้นสองแฉก มักเจรจาหาความเชื่อถือไม่ได้" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องไม่ไว้วางใจ
แต่ตอนนี้ตลอดแนวชายแดน ๔๐๐ กว่ากิโลเมตร ทหารหาญของเราตลอดจนกระทั่งตำรวจตระเวนชายแดน และอาสาสมัครทหารพราน ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ เพราะว่าสามารถยึดชัยภูมิสำคัญได้ทั้งหมด ก็เหลืออยู่แต่การตรวจการณ์ด้วยความระมัดระวัง ถ้าฝ่ายตรงข้ามมีการเคลื่อนย้ายอาวุธหนัก หรือถ้าเขาละเมิดสนธิสัญญาอย่างที่ผ่านมา เราก็ไม่ควรที่จะเกรงใจ ขนมาเท่าไรก็ระเบิดทิ้งให้เกลี้ยงก็หมดเรื่องไป เหลือแต่สากกะเบือตำน้ำพริก ดูสิว่าจะทำอะไรเราได้บ้าง !? เรื่องของประเทศกัมพูชาต้องบอกว่าน่าสงสารมาก เพราะว่าบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ โดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปตั้งแต่สมัยเขมรแดงเรืองอำนาจ ที่เหลืออยู่ต้องบอกว่าเป็นระดับล่าง ๆ ที่มันสมองไม่ค่อยจะมี ข้างบนพูดอะไร ฟังมาแล้วไม่มีการตรวจสอบ มักจะเชื่อเลย ทำให้กลายเป็นตัวตลกของชาวโลกเขามาตลอด แม้กระทั่งองค์กรอาเซียนของเราก็จะขับออกจากสมาชิกแล้ว ก็แปลว่าแค่อยู่ไปนาน ๆ ประเทศนี้ไปไม่รอด อย่างไรเสียก็ต้องพึ่งพาประเทศไทย..! เนื่องเพราะว่าด้านที่ติดกับประเทศลาวและเวียดนามนั้น ส่วนใหญ่เป็นแนวเขาและป่าทึบ ไม่สามารถที่จะส่งสารพัดสินค้าเข้ามาสนับสนุนได้ ยกเว้นมาทางอากาศ ทางเรือก็ต้องผ่านอ่าวไทย ซึ่งกองทัพเรือไทยไม่ยอมให้ผ่านแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้น..การเจรจาถ้าจะให้ได้เปรียบ ก็คือปิดด่านต่อไป ถ้าหากว่าอีกฝ่ายไม่ยอมทำตามสิ่งที่เราต้องการ ยังแกล้งโง่จะใช้แผนที่สมัยฝรั่งเศสทำเอาไว้ ก็ปล่อยให้ทั้งประเทศอดต่อไป..! แต่ว่าเรื่องพวกนี้ กระผม/อาตมภาพมั่นใจในศักยภาพของทหารของเรา ผู้ที่อยู่หน้าแนวย่อมรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะได้เปรียบ ไม่มีอะไรต้องห่วงและต้องแนะนำ ส่วนที่น่าห่วงที่สุดก็คือแนวหลัง โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ ซึ่งมักจะสอดปากสอดเท้าเข้าไปขัดการทำงานอยู่เสมอ เรื่องพวกนี้ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์ก็จะเห็น ไม่ว่าตั้งแต่ยุคจั้นกั๋วที่บรรดาขุนศึก ผู้มีฝีมือและศักยภาพเป็นที่เกรงกลัวของฝ่ายตรงข้าม ท้ายที่สุดก็มักจะโดนยุแหย่จนต้องตายเพราะฝ่ายเดียวกัน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : วันนี้ เมื่อ 06:27 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
แม้กระทั่งตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดอย่าง "ขุนพลเยว่เฟย" หรือที่คนไทยรู้จักในนามของ "งักฮุย" นั่นก็โดนมหาเสนาบดีฉิ่นไกว่ กราบทูลยุยงจนกระทั่งฮ่องเต้ส่ง ๑๒ ป้ายทองเร่งรัดให้กลับทั้ง ๆ ที่การศึกกำลังได้เปรียบ เมื่อกลับมาก็โดนใส่ความจนกระทั่งต้องโทษประหารชีวิต แล้วแผ่นดินจีนช่วงนั้นก็สิ้นชาติ เพราะว่าไม่มีขุนพลที่มีความสามารถอีก..!
ดังนั้น..ในส่วนนี้สิ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันทหารแนวหน้าของเรา ก็คือประชาชนอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี่เอง ถ้าทุกคนให้การสนับสนุน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผู้มีอำนาจที่เห็นแต่ผลประโยชน์ของตนเอง จะทำอะไรก็ต้องคิด เพราะภาษิตจีนบอกชัดแล้วว่า "น้ำสามารถพยุงเรือได้ ก็สามารถล่มเรือได้..!" จะว่าไปแล้ว บ้านเราเมืองเรายังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกมากมาย ที่ช่วยเหลืออยู่ในลักษณะที่น้อยคนจะมองเห็น ที่มีผู้ถามไปในเว็บไซต์วัดท่าขนุนว่า "รบกับเขมร แล้วเราจะสูญเสียแผ่นดินหรือไม่ ?" แล้วกระผม/อาตมภาพตอบไปตั้งแต่เดือนก่อนว่า "ยังไม่เคยเห็นจิ้งจกตัวไหนเขย่าบ้านได้เลย..!" ดังนั้น..พวกเราก็มีหน้าที่อย่างเดียวก็คือ ส่งกำลังใจ ตลอดจนกระทั่งสิ่งสนับสนุนไปให้ผู้ที่ดูแลอยู่ในแนวหน้าของเรา โดยเฉพาะรักและสามัคคีกันแบบนี้ เพื่อที่ไม่ให้เกิดเรื่องเกิดราวภายใน ให้บุคคลที่อยู่หน้าแนวต้องพะว้าพะวง ส่วนเรื่องอื่น ขอให้เชื่อมั่นในศักยภาพของทหารหาญทุกเหล่าทัพ ตลอดจนกระทั่ง ตชด. (ตำรวจตระเวนชายแดน) และ อส.ทพ. (อาสาสมัครทหารพราน) ของเราว่า สามารถที่จะจัดการได้ทุกอย่าง สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:17 |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) | |
อวบอั๋น |
|
|