คราวนี้ด้วยความที่ฝึกฝนญาณ ๘ มาครบถ้วน ทำให้บางทีการใช้ก็เร็วจนกระทั่งตนเองลืมไปว่าใช้ไปในลักษณะอะไร ต้องบอกว่าญาณ ๘ นั้น หลัก ๆ เลยคือทิพจักขุญาณ เมื่อได้ทิพจักขุญาณแล้ว
ถ้าหากว่าท่านใช้ในการดูอดีต เขาเรียกว่า อตีตังสญาณ
ถ้าใช้ในการดูอนาคต เขาเรียกว่า อนาคตังสญาณ
ถ้าใช้ในการดูปัจจุบันว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่ไหนในทุกมุมโลก หรือว่าในภพภูมิอื่น ๆ เขาเรียกว่า ปัจจุปปันนังสญาณ
ถ้าใช้ในการระลึกชาติเรียกว่า ปุพเพนิวาสานุสติญาณ
ถ้าใช้ในการดูว่าคนและสัตว์ ก่อนเกิดมาจากไหน ถ้าตายแล้วจะไปไหน เรียกว่า จุตูปปาตญาณ
ถ้าหากว่าใช้ในการพินิจพิจารณาดูว่า คนและสัตว์แต่ละรายสร้างกรรมอะไรไว้ ถึงเวลาจะได้รับผลกรรมอย่างไร เขาเรียกว่า ยถากัมมุตาญาณ
ซึ่งในส่วนของญาณ ๗ อย่างนี้ก็คือทิพจักขุญาณทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเปลี่ยนวิธีการใช้ไปเท่านั้น
กระผม/อาตมภาพเมื่อกระจ่างแจ้งแล้ว ก็ยังวอนหาไม้เท้าด้วยการถามต่อไปว่า "แล้วการดูหวยละครับ ?" พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาตอบว่า "เป็นการใช้ทิพจักขุญาณในอนาคตังสญาณ แกจะดูไปนานกี่งวด ก็ระบุให้ชัดเจนด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วมีโอกาสโดนหลอกสูงมาก อย่างเช่นถามว่า หวยจะออกอะไร สมมติท่านบอกว่า ๓ แล้วเราเองไปแทง ปรากฏว่าผิด..! ก็เพราะเราไม่รอบคอบ ไม่ได้ระบุชัดว่าเป็นหวยของงวดไหน วัน เดือน ปี อะไร เหล่านี้เป็นต้น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-09-2022 เมื่อ 23:18
|