ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 06-08-2021, 10:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,549
ได้ให้อนุโมทนา: 151,635
ได้รับอนุโมทนา 4,407,511 ครั้ง ใน 34,139 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายลองไปดูในสโคปรายวิชาครับ ที่อาจารย์เขาจะให้ตั้งแต่ชั่วโมงแรก ว่าเราเรียนวิชานี้เพื่ออะไร เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน รู้เท่าทันปัญหา สามารถที่จะแก้ไข แล้วก็มีความรักและปกป้องพระพุทธศาสนาครับ ไม่ได้ให้เราเรียนเพื่อที่จะเอาประกาศนียบัตรเฉย ๆ

พวกเราทุกคนเป็นทหารในกองทัพธรรมครับท่านทั้งหลาย ความรู้ความสามารถทั้งหมดของเรา ควรที่จะใช้ไปเพื่อทำให้พระพุทธศาสนาของเราเข้มแข็ง เพื่อที่ข้าศึกภายนอกจะได้ไม่มาทำลายเราได้ แต่ว่าในส่วนนี้ก็ต้องมีบ้างครับ เพราะว่าคนเราร้อยพ่อพันแม่

ตั้งแต่ปีแรกที่เราบวช ถ้าเรียนนักธรรมชั้นตรี พระธรรมวินัยนี้เปรียบเหมือนกับเส้นด้ายที่ร้อยดอกไม้นานาพรรณ ก็คือพระภิกษุที่บวชมาจากวรรณะต่าง ๆ เพื่อให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย ดูสวยงาม ในเมื่อเป็นในลักษณะอย่างนี้ บรรดาดอกไม้นานาพรรณก็ต้องมีบ้างครับ ไอ้ที่เผลอหลุดออกมาเป็นดอกอุตพิดบ้าง ดอกตำแยบ้าง..!

แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ พระธรรมวินัยของเราชัดเจนอยู่แล้วครับ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเคร่งครัดอยู่ คนแบบนี้ก็จะอยู่ไม่ได้ครับ จะเกิดวิปฏิสาร คือความเดือดเนื้อร้อนใจ ท้ายที่สุดก็ต้องออกไปเอง เหมือนอย่างกับที่อรรถกถาจารย์ท่านเปรียบเอาไว้ว่า พระพุทธศาสนานี้เหมือนอย่างกับคลื่นทะเล ย่อมซัดสิ่งโสโครก ขยะ และซากศพขึ้นสู่ฝั่งเสมอ

ดังนั้น..ในส่วนนี้ที่ท่านทั้งหลายเรียนไป เท่ากับเพิ่มความรู้ความสามารถของเรา ที่จะนำไปใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และบริหารกิจการคณะสงฆ์ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป แต่ความรู้เป็นดาบสองคมครับ
ถ้าหากว่าใช้ไม่ถูกต้อง ดาบสองคมนี้ก็จะบาดทั้งตัวเราเองและบาดคนอื่นด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2021 เมื่อ 10:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา