งานนี้เมื่อมาตรวจการณ์แล้วก็เห็นว่า มีการสร้างรูปท่านปู่ท่านย่า ซึ่งถ้าหากว่าเป็นสายหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็จะทราบดีว่าท่านปู่ท่านย่านั้นเป็นใคร แต่ถ้าหากว่าเป็นสายอื่นได้ยิน ก็อาจจะงง ๆ อยู่บ้าง
ท่านปู่ก็คืออดีตชาติของพระเจ้าพังคราชแห่งเมืองโยนกเชียงแสน ท่านย่าก็คือพระนางพังครานี พระราชินีแห่งนครโยนกเชียงแสน ซึ่งทั้ง ๒ สองท่านนั้น ในอดีตชาติเคยเป็นบิดามารดาของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงมาก่อน
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อเกิดมาชาตินี้ ท่านไปสบายอยู่ข้างบน จึงให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์ต่อหลวงพ่อฤๅษีฯ ตลอดมา แล้วก็มาถึงลูกหลานของหลวงพ่อฤๅษีฯ อย่างพวกกระผม/อาตมภาพหรือว่าพระอาจารย์มหาเอด้วย
ดังนั้น..การสร้างรูปท่านปู่ท่านย่าขึ้นมาบูชา นอกจากเป็นเทวตานุสติแล้ว ก็ยังถือว่าเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทิตา จากการที่ท่านให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์มาโดยตลอด ลูกหลานจะได้มีรูปของท่านเอาไว้กราบไหว้บูชา
โดยเฉพาะการสร้างครั้งที่แล้ว ซึ่งตอนที่พระอาจารย์มหาเอท่านมอบรูปท่านปู่ท่านย่าให้ เมื่อถ่ายรูปออกมาก็มีภาพปาฏิหาริย์ ที่รูปท่านปู่ท่านย่าสว่างไสวกว่าปกติจนเห็นได้ชัด แต่ว่าองค์นั้น กระผม/อาตมภาพได้มอบให้กับหลานรัก ก็คือลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ไปแล้ว
อีกส่วนหนึ่งที่เห็นก็มีรูปหล่อของพระอนุรุทธเถระ ซึ่งพระอนุรุทธเถระนั้นจะว่าไปแล้ว ท่านเป็นพระผู้เป็นเอตทัคคะในทางทิพจักขุญาณ
แต่ว่าส่วนหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้เลยก็คือ พระอนุรุทธเถระนั้น ท่านเป็นต้นตำรับของการอธิษฐานว่า "ขอให้ความไม่มีจงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" จนกระทั่งชาติต่อ ๆ มาที่ท่านเกิดมา มีความสมบูรณ์บริบูรณ์พร้อมทุกอย่าง แม้กระทั่งมาเกิดเป็นอนุรุทธราชกุมารในศากยวงศ์ ก็ไม่เคยประสบความขาดแคลนแม้แต่ประการเดียว ไม่รู้แม้กระทั่งว่าอาหารนั้นเกิดขึ้นที่ไหน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2024 เมื่อ 13:51
|