"มีอยู่ปีหนึ่ง นานมากแล้ว นิมิตเห็นคนจำนวนหนึ่งไปเที่ยวชายทะเลที่สวยงามมาก มีแหลมทอดยาวลงไปในทะเล คนก็ไปเดินเล่นกัน ส่วนอาตมามองเห็นแล้วใจหาย เพราะว่าแหลมที่ทอดยาวลงไปในทะเลคือจระเข้ตัวใหญ่มหึมา ใหญ่ขนาดคนเห็นเป็นแหลมที่ทอดลงไปในทะเล ใครเดินเข้าใกล้ปากก็โดนงับไปทีละคน ๆ ที่เหลือก็ยังไม่มีใครรู้ ยังคงเดินใกล้ปากไปเรื่อย
อาตมาตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้งก็ไม่มีใครฟัง เขาว่าทิวทัศน์บริเวณนั้นสวยงามที่สุด น่าถ่ายรูปที่สุด เมื่อเอามาประมวลรวมกันว่าพระพุทธเจ้าเกิดความขวนขวายน้อย ไม่อยากแสดงธรรม ก็เพราะว่าคนส่วนมากไม่สนใจที่จะฟังนั่นเอง
การที่คนส่วนหนึ่งเกาะวัตถุมงคล ซึ่งก็ยังดีกว่าเกาะวัตถุอัปมงคล อย่างน้อย ๆ ก็มีเครื่องยึด ถ้ากำลังใจเขาเข้มแข็งขึ้น ปัญญามีมากขึ้น เขาก็จะรู้ว่าของดีกว่านั้นยังมีอยู่ คือ เรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา แล้วก็มาประมวลกับนิมิตหลายปีก่อนที่เห็นคนไปเที่ยวชายทะเล หลงอยู่กับทิวทัศน์อันสวยงาม โดยไม่ได้เห็นว่าจุดที่ตัวเองเดินลงไปเพื่อถ่ายรูปนั้นเป็นจระเข้ที่คอยจับคนกิน
อาตมายังว่าจระเข้ตัวนั้นร้ายกาจมาก หันหลังขึ้นชายหาด ส่วนหัวยื่นออกไปอยู่ในน้ำ ถึงเวลาแล้วมีดิน มีต้นไม้ มีอะไรขึ้น ก็เหมือนอย่างกับเป็นแหลมที่ยื่นลงไปในทะเล"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:54
|