ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 06-10-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,451
ได้รับอนุโมทนา 4,406,249 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ อย่างที่พวกท่านทั้งหลายซึ่งอยู่ที่วัดท่าขนุนนี้ได้เห็น ก็คือผ้าไตรกบินกองเป็นกำแพงเมืองจีนเลย..! น่าจะเกิน ๑,๓๐๐ ผืนไปแล้ว

ในเรื่องของผ้าไตรกฐิน ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของกองกฐิน เพราะว่าผ้ากว้างคืบยาวคืบขึ้นไป ในบาลีเรียกว่าผ้าจีวร สามารถนำมาเย็บต่อกันจนเป็นผืนจีวรสำหรับใช้งาน ซึ่งผู้ออกแบบก็คือหลวงปู่พระอานันทเถระ ซึ่งถ้าใครอ่านพระไตรปิฎกก็เจออยู่ตลอดว่า "ดูก่อน..อานนท์" นั่นแหละ เพราะฉะนั้น..ทุกเรื่องท่านจะดูทีหลังใครไม่ได้ ต้องดูก่อนไว้เสมอ...!

ท่านเป็นผู้ออกแบบจีวร ซึ่งต้องเก็บเอาผ้าเก่าจากกองขยะบ้าง จากที่เขาทิ้งบ้าง มาซัก ตัด เย็บ ย้อม จนกระทั่งกลายเป็นจีวรอย่างที่เห็นในปัจจุบัน จัดว่าเป็น "แฟชั่นนิสต์" ที่ไม่เคยเสื่อมความนิยมมาตลอด ๒,๖๐๐ ปี โดยลักษณะของจีวรก็เลียนแบบ "ตารางนา" ของแคว้นมคธสมัยนั้น

คราวนี้ถ้าหากว่าใครเรียนนักธรรมโท นักธรรมเอกก็จะมีหลักสูตรการทำจีวร สมัยนี้ยังทำหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ทุกท่านจะเห็นว่าจะมีจีวรกระทงใหญ่ จีวรกระทงเล็ก มีตัวคั่นยาว ตัวคั่นสั้น แล้วก็มีขอบ กระทงใหญ่เขาเรียกว่า มณฑล กระทงเล็กเรียกว่า อัฑฒมณฑล ตัวคั่นแนวยาวเรียกว่า กุสิ ตัวคั่นแนวสั้นเรียกว่า อัฑฒกุสิ

ถ้าหากว่าเป็นผ้าเย็บเก็บขอบ เขาเรียกว่าอนุวาต แล้วยังประกอบไปด้วยรังดุมและลูกดุม ซึ่งถ้าเป็นพระมหานิกายไม่ค่อยได้ใช้ แต่พระสายวัดป่ายังใช้อยู่ รังดุมกับลูกดุมก็ไม่ได้มีอะไรวิลิศมาหรามาก เป็นการใช้ด้ายมาเย็บติดชายด้านหนึ่งให้เป็นห่วง ก็คือรังดุม

ส่วนลูกดุม หรือที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า "ลูกกระดุม" นั่นก็คือการเอาด้ายมาม้วนให้เป็นก้อนแล้วก็เย็บปลายติด เอาด้านที่เป็นก้อนไปขัดกับด้านที่เป็นห่วง ซึ่งเป็นรังดุมก็จบแล้ว มีไว้เพื่อเก็บชายจีวรให้เรียบร้อย

ส่วนใหญ่แล้วรังดุมจะอยู่ปลายด้านล่าง ลูกดุมจะอยู่แถวประมาณต้นคอของเรา ถึงเวลาถ้าหากว่าชายจีวรจะลากพื้นก็ตลบขึ้นมา แล้วก็เอาลูกดุมขัดไว้ ฟังดูแล้วแปลก ๆ เพราะว่าพวกท่านไม่เคยทำกัน สมัยนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นจีวรสำเร็จรูป ความขี้เกียจของโรงงาน ทำให้ไม่ได้ใส่รังดุมกับลูกดุมมาด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2022 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา