ดูแบบคำตอบเดียว
  #50  
เก่า 05-08-2020, 21:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ส่วนบ้านเราที่ใส่หมวก ส่วนใหญ่เพราะว่าทำงานกลางแจ้ง ดังนั้น..คนไทยเราจะมีงอบ คนจีนมีหมวกกุยเล้ย ซึ่งจะเป็นหมวกใบใหญ่ กันแดดกันฝน แล้วคนไทยเรายังเก่งตรงที่ว่า ทำรองในสำหรับสวมศีรษะ แล้วถึงจะเป็นตัวงอบอยู่ด้านบนเพื่อกันแดดกันฝน การทำเช่นนี้ทำให้ไม่อบจนกระทั่งเหงื่อออกเปียกไปทั้งหัว แบบนี้เป็นการใส่หมวกเพื่อประโยชน์จริง ๆ ที่ไม่ใช่หมวกแฟชั่น

ส่วนของทหารที่ใส่หมวก เป็นหมวกเหล็ก เอาไว้กันสะเก็ดระเบิด หรือกระสุนปืนที่ไม่ได้โดนจัง ๆ เวลากระทบหมวกเหล็กก็จะแฉลบไป แต่ถ้าโดนตรง ๆ หมวกเหล็ก ๒ ใบ ๓ ใบก็กันไม่ได้ อาวุธสงครามยิงด้วยความเร็วสูง ๒,๕๐๐ ฟุตต่อวินาที อาตมาเคยทดลองกับหมวกเหล็ก ๓ ใบ ทะลุหมดเลย..! เพียงแต่ว่าถ้าโดนเฉียด ๆ ประมาณว่าหัวจะแหว่ง ก็ช่วยกันให้ไม่ถึงตาย แค่บาดเจ็บสาหัส ถ้ามีหมวกเหล็กอยู่ กระสุนหรือสะเก็ดระเบิดก็จะแฉลบ ไปไม่เข้าเนื้อ ไม่โดนหัว

พอใส่หมวกเหล็กออกรบ ด้วยความเคยชิน พออยู่ในที่ตั้งก็เอาหมวกเหล็กออก เหลือแต่รองใน แล้วคราวนี้การที่จะใส่หมวกรองในก็ไม่ค่อยสะดวก เขาก็เลยเปลี่ยนเป็นหมวกผ้าที่เรียกว่าหมวกแก๊ป ซึ่งก็คือหมวกปีก คนไทยเราบางทีก็ลืมคำเรียกเก่า ๆ กันหมดแล้ว ไปเรียกตามฝรั่งว่าหมวกแก๊ป ซึ่งก็คือหมวกสวมหัวที่มีปีกไว้กันแดดส่องเข้าตา ดังนั้น..การที่จะใช้หมวกเพื่อประโยชน์ในการกันแดดกันฝนจริง ๆ ก็จะเป็นทางด้านเอเชียของเราที่ฤดูร้อน-ฤดูฝนดุเดือดหน่อย ส่วนฝรั่งเขาใส่หมวกกันเป็นแฟชั่น หรือใส่กันหนาว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2020 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา