ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 07-12-2021, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,450 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ จากเมื่อสักครู่ที่บอกเรื่องทำวัตรค่ำว่า การสวดมนต์เราจะเอาแต่จังหวะของเราไม่ได้ ต้องเป็นจังหวะของส่วนรวม ไม่ใช่เราสบายใจที่จะสวดจังหวะนี้ แล้วก็ลากเพื่อนทั้งวัดให้สวดจังหวะนี้ไปด้วย

ถ้าหากว่ากล่าวกันอย่างถึงแก่นเลยก็คือ มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ทำอะไรต้องดู "ทีม" ก็คือพรรคพวกเพื่อนฝูงด้วย ไม่ใช่เอาแต่ตัวรอดคนเดียว การทำงานทุกอย่าง ถ้าเราเอาตัวรอดคนเดียว ก็ได้คนเดียว คนเก่งมักจะเอาตัวรอดได้ แต่หาเพื่อนยาก แต่คนนิสัยดี ไม่เก่ง จะมีเพื่อนช่วยเหลือเยอะ แล้วท้ายที่สุดการทำงานจะยั่งยืนกว่าคนเก่ง เพราะว่ามีหลายคนหลายหัว ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ

ในเรื่องของคนนั้น พระพุทธเจ้าแยกออกไว้ชัดเจนที่สุด ว่าบุคคลมี ๔ ประเภท

อุคฆฏิตัญญู ฟังหัวข้อธรรมก็บรรลุเลย คนเก่งประเภทสุดยอดแบบนี้ ในหน่วยงานถ้ามีถึง ๑๐ เปอร์เซ็นต์นี่ยุ่งฉิบหา..เลย..! เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วคนเก่งมักจะแบกมานะมาด้วย ภาษาฝรั่งเขาว่ามี "อีโก้" สูง ไม่ค่อยลงให้ใคร อเมริกาเคยทำโครงการไอน์สไตน์น้อย เอาเด็กที่มีไอคิว ๑๑๐ ขึ้นไปมาเรียนด้วยกัน โครงการล้มไม่เป็นท่าเลย เพราะว่าทุกคนเอาตัวกูของกูเป็นใหญ่ ท้ายสุดไปกับคนอื่นไม่ได้

บุคคลประเภทที่สองคือ วิปจิตัญญู ต้องอธิบายขยายความถึงจะเข้าใจ แล้วก็ทำงานนั้นได้ บุคคลประเภทนี้อยู่ในหน่วยงานมากเท่าไรก็ดีเท่านั้น แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วมีไม่เกิน ๓๐ เปอร์เซ็นต์ รวม ๒ ประเภทนี่ก็ว่าไปแล้ว ๔๐ เปอร์เซ็นต์

บุคคลประเภทที่สามคือ เนยยะ ต้องปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไชได้ทุกวัน งานเรื่องเดียวกัน ทำวันนี้ผ่านไป พรุ่งนี้ทำอย่างเดิมก็ต้องถามต้องบอกกันอีกแล้ว ประเภทนี้เยอะมาก น่าจะถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์

แล้วอีก ๑๐ เปอร์เซ็นต์เป็นใคร ? พวกปทปรมะ พวกนี้เก่งเกินไป ไม่ใช่คนโง่ เก่งแล้วไม่ยอมรับความคิดคนอื่น เอาอะไรกรอกใส่หัวไม่ได้ทั้งนั้นแหละ กูไม่เอาด้วย เวลาทำงานกับคนอื่นก็ "มึงไร้ฝีมือ..กูไม่ทำด้วย" ไปทางด้านโน้นก็ "กูแนะนำอะไรมึงไม่ทำตาม..กูไม่ทำด้วย" สรุปก็คือเก่งอยู่คนเดียว คนประเภทนี้ถ้าหากว่ามีเยอะ หน่วยงานฉิบหา..หมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2021 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา