ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-11-2009, 07:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,209 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติทั้งหมดนั้น สำคัญตรงที่ทำกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่วนใหญ่แล้วพวกเราทำกันอย่างไม่ต่อเนื่อง ไม่จริงจัง จึงทำให้กำลังของเราไม่เพียงพอที่จะก้าวล่วงอำนาจกิเลสได้ ถ้าเราปฏิบัติไปแล้ว อารมณ์ใจทรงตัวเท่าไหร่ สามารถประคับประคองให้อารมณ์นั้นอยู่กับเราได้ เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี ยิ่งดี ถ้าทำได้อย่างนี้ จิตใจจะมีสภาพผ่องใสมาก จะมีปัญญาเห็นช่องทาง ว่าจะระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้ความชั่วเข้ามาอย่างไร และจะสร้างความดีขึ้นมา ตลอดจนรักษาเอาไว้ได้อย่างไร ดังนั้น..การทำให้จริงจังและต่อเนื่อง จึงเป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับปัจจุบัน

หลายต่อหลายท่าน บางทีก็มาบ่นว่าปฏิบัติมาตั้งนานแล้ว ยังไม่เห็นอะไรเลย ยังไม่ได้ผลบ้างเลย สาเหตุส่วนใหญ่ เกิดมาจากการที่เราทำแล้วทิ้ง ไม่มีการรักษาอารมณ์ให้ต่อเนื่อง ไม่มีความพยายามอย่างแท้จริงในการปฏิบัติ กลัวลำบาก กลัวเหนื่อย ถ้าหากว่าเรายังกลัวลำบาก กลัวเหนื่อยอยู่ โอกาสที่จะเอาดีก็ยาก ดังนั้นนอกจากว่าเราจะปฏิบัติกรรมฐานแล้ว เรายังต้องรักษาอารมณ์นั้นให้อยู่นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ และท้ายที่สุด อย่าลืมพิจารณาให้เห็นจริง ว่าสภาพร่างกายของเราก็ดี สภาพร่างกายของคนอื่นก็ดี มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ มีความเป็นทุกข์เป็นปกติ และท้ายสุดก็เสื่อมสลายตายพังไป ไม่สามารถยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ ถ้าเรากำหนดรู้เห็นอย่างชัดเจน จิตใจก็จะปลดออกจากการยึดเกาะในร่างกายนี้ ปลดจากการยึดเกาะในโลกนี้ เราก็มีสิทธิ์ที่จะก้าวล่วงความทุกข์ทั้งหลาย เข้าสู่พระนิพพานได้

ในระหว่างที่ปฏิบัตินั้น ให้พวกเราพยายามทบทวนดูว่า ศีล ๕ หรือศีล ๘ ตลอดจนศีล ๑๐ หรือศีล ๒๒๗ ตามสภาพของเรานั้น มีส่วนใดส่วนหนึ่งที่บกพร่องบ้าง ถ้าพบเห็นข้อบกพร่องเมื่อไร เป็นฆราวาสให้ตั้งใจใหม่ทันที ว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ถ้าหากว่าเป็นพระ ก็ให้แสดงคืนอาบัติ แล้วตั้งใจปฏิบัติรักษาต่อไป ถ้าเป็นสามเณรก็ให้ขอศีลใหม่ แล้วตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ต่อไป

ในเรื่องของศีลนั้น เป็นพื้นฐานของความดีทั้งปวง เป็นบันไดให้ก้าวล่วงไปสู่พระนิพพาน นักปฏิบัติถ้าหากว่าไม่รักษาศีลให้สมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ยากยิ่ง เพราะศีลเป็นพื้นฐานก่อให้เกิดสมาธิ ทั้งศีลและสมาธิจะเป็นพื้นฐานก่อให้เกิดปัญญา เมื่อปัญญาเกิดแล้ว ก็จะไปควบคุมเรื่องของศีลและสมาธิให้ทรงตัวอีกทีหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2009 เมื่อ 15:18
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา