เรื่องของวัตถุมงคล ใครเล่นอย่าโลภ เพราะว่าเรื่องของวัตถุมงคลไม่ใช่ว่ามีเงินก็จะหาได้ วัตถุมงคลหลายองค์เลือกเจ้าของจริง ๆ ดังนั้น..บุคคลที่เล่นวัตถุมงคล ใครเล่นก่อนได้เปรียบ มีโอกาสหาของสวยได้ง่าย
กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะรู้ความ พี่ชายคนโตก็นั่งอยู่ใน ที่สมัยก่อนเรียกก็คือ "สภากาแฟ" วัน ๆ ก็ควักวัตถุมงคลออกมาส่องมาอวดกัน ดูไปดูมา กระผม/อาตมภาพจำได้หมด อาศัยว่าเป็นเด็กความจำดี แล้วได้เห็นของจริงของแท้มามาก สามารถที่จะแยกแยะออกได้ง่าย
ถ้าหากว่าพวกท่านทั้งหลายจะศึกษาก็คงต้องอีกหลายยก เพราะว่าวัตถุมงคลเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อโลหะสารพัด เราต้องรู้ว่าเนื้อทั้งหลายเหล่านี้ของใหม่เป็นอย่างไร ของเก่าเป็นอย่างไร ยิ่งเก่านานจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
วัตถุมงคลบางชุดในสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังแก้ผ้าวิ่งอยู่ เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ในยุคนั้นหากันสุดชีวิต ยิ่งกว่าพระสมเด็จวัดระฆัง กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่าในสมัยนั้นพระสมเด็จวัดระฆังองค์ละแค่สองสามพันบาท ที่เขาซื้อขายกันองค์ละสี่ห้าสิบล้านสมัยนี้นั่นแหละ..!
แต่ว่าพระชุดนี้ราคาแพงกว่าสมเด็จวัดระฆังหลายเท่า เขาเรียกว่า "ชุดกิมตึ๋ง" เป็นพระกรุโบราณ ๆ ซึ่งเขาจับมาเรียงเข้าชุดกัน ไม่ว่าจะเป็น "สี่กร มอญแปลง ประคำรอบ ปรกชุมพล" อะไรก็ตาม สมัยนี้หายเข้ากลีบเมฆหมด เพราะว่าคนสะสมก็เก็บตายไปเลย แล้วพระชุดนี้ก็หาที่สวยสมบูรณ์ยากมาก กระผม/อาตมภาพยังโชคดี ได้เห็นเป็นบางองค์ ไม่ได้เห็นครบชุด
แต่สมัยนี้ค่านิยมเปลี่ยนไป เขาไม่ได้เล่นวัตถุมงคลเพื่อศาสตร์และศิลป์เหมือนคนรุ่นก่อน เป็นการเล่นเพื่อการพาณิชย์ ก็เลยทำให้ราคาวัตถุมงคลสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไปกระทั่งประเทศจีน แห่กันมาบูชาวัตถุมงคลในเมืองไทย แล้วพวกนี้เขาเงินใหญ่กว่าเรา โดยเฉพาะเซียนทางสิงคโปร์ เงินเขาใหญ่กว่าเราตั้ง ๒๐ กว่าเท่า เขาเน้นหาที่ชนะเลิศการประกวด แล้วก็โกยกลับบ้านตัวเอง มีหลายท่านศึกษาจนถึงขนาดเปิดร้านจำหน่ายวัตถุมงคลเอง..!
ชื่อเสียงเกียรติคุณของวัตถุมงคลเมืองไทยโด่งดัง ถึงขนาดประเทศจีนสั่งห้ามพระไทยเข้าประเทศ กว่าที่กระผม/อาตมภาพจะขอวีซ่าเข้าไปได้ ต้องใช้กำลังภายในไปเกือบหมดตัว เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าประเทศจีนกลัวมาก ในเรื่องของการที่ประชาชนโดนมอมเมาด้วยศาสนา จนกระทั่งไม่ทำมาหากิน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2022 เมื่อ 03:06
|