ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 24-02-2022, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,095 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งมาตอนหลังที่กระผม/อาตมภาพเรียนอยู่ชั้น ป.๓ โดยประมาณ ทางราชการตัดสินใจถล่มป่าตรงนั้นทิ้ง สร้างเป็นสนามบินกำแพงแสน มีพื้นที่ ๑๐,๕๐๐ ไร่ แล้วก็สร้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนอีก ๘,๐๐๐ ไร่ ทำให้โจรหมดไปโดยปริยาย เพราะว่าไม่มีป่าให้อยู่..!

ในช่วงนั้น พอถึงเวลาโจรมาก็จะจับเอาตัวบรรดาพี่ ๆ ซึ่งก็คือลูกของพ่อนั่นแหละ ไปเป็นตัวประกัน บังคับให้คนเป็นพ่อเป็นแม่หาบเสบียงไปส่ง โยมพ่อถึงได้เกลียดชุมโจรนั้นหนักหนา เพราะว่ามาทีไร ข้าวปลาอาหารที่เก็บไว้เลี้ยงลูกก็โดนโจรบังคับให้หาบเอาไปส่ง แล้วก็มาจับลูกไปเป็นตัวประกันด้วย

ดังนั้น...เวลามีพลตระเวนมา โยมพ่อก็รับอาสานำเข้าไปที่ชุมโจร เพราะว่าเคยไปส่งเสบียง รู้จักทางดี ถึงเวลาเข้าใกล้ พวกเวรยามโจรเห็นเข้า ร้องบอกพรรคพวก..ก็ยิงกัน พลตระเวนก็หมอบบ้าง คลานบ้าง โยมพ่อรำคาญ..เสียเวลา แกก็เดินลุยเทิ่ง ๆ เข้าไปเลย แล้วไม่เคยโดนกระสุนแม้แต่นัดเดียว..!

เมื่อถึงเวลามีงานประจำปีที่เป็นงานศาลเจ้า ก็จะมีเจ้ามาเข้าทรง ซึ่งสมัยนั้นถือว่าเป็นการทรงของแท้ เจ้าก็จะมีการแสดงฤทธิ์ อย่างเช่นว่าตัดลิ้นตัวเองออกมาแล้วก็เขียนยันต์ ที่ภาษาจีนเรียกว่า ฮู้ ให้คนที่เลื่อมใสเอาไปติด คุ้มครองป้องกันที่บ้าน พอถึงคิวโยมพ่อไปขอยันต์ทีไร เจ้าไม่เคยให้ บอกว่า "ลื้อมีพระคุ้มครองอยู่แล้ว"

พวกเราต้องมานึกว่าโยมพ่อสวดมนต์ อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ อยู่ทุกวัน สวดด้วยความเลื่อมใสศรัทธาพระธุดงค์รูปนั้น กำลังใจปักมั่นเต็มที่ เพราะเห็นกับตาว่างูใหญ่มหึมาขนาดนั้น พระท่านใช้ทรายแค่กำเดียว สามารถปราบได้

ในเมื่อเกิดความมั่นใจว่ามีคาถาวิเศษ ก็เลยทำให้คาถามีผลมากกว่าคนอื่น ประกอบกับเชื่อพระ ทำตามทุกวันไม่เคยขาด ประมาณทุ่มหนึ่งกลับจากงานไร่มา ก็อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลาแล้ว ก็จัดข้าวปลาอาหารชุดหนึ่งถวายข้าวพระ แล้วอุ้มอาตมาที่หลับแล้วหลับอีกสวดมนต์ทุกวัน เพราะโยมพ่อไม่ได้ถามให้ชัดเจนว่าข้าวพระเขานิยมถวายกันตอนไหน ที่บ้านโยมพ่อก็เลยถวายข้าวพระประมาณทุ่มครึ่ง..! สรุปว่าพระที่บ้านของกระผม/อาตมภาพฉันข้าวเย็นทุกวัน..!!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2022 เมื่อ 03:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา