ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 07-12-2021, 23:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนที่กระผม/อาตมภาพเรียนอยู่ บางเรื่องอาจารย์ท่านรู้สู้กระผม/อาตมภาพไม่ได้นะครับ แต่กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้แสดงออกว่า กระผม/อาตมภาพเก่งกว่าอาจารย์ กระผม/อาตมภาพแค่ขอปรึกษาหารือว่า "เรื่องนี้ถ้าหากว่าออกไปในแนวอย่างนี้ จะได้ไหมครับอาจารย์ ?" ทำอย่างไรที่เราจะไม่แบกมานะเข้าไปในการงานทุกอย่าง แม้กระทั่งการทำงานเพื่อชำระใจของตนเอง

เราจะเห็นว่ามีพระบางท่านคิดว่าตนเองเคร่งครัดกว่าผู้อื่น ไม่จับเงิน ไม่ฉันนม ไม่สวมรองเท้า จนกลายเป็นอุปาทาน การยึดมั่นถือมั่น พระพุทธเจ้าเรียกว่า สีลัพพัตตุปาทาน การยึดมั่นในศีลพรต คือหลักปฏิบัติของตัวเองว่าเหนือกว่าผู้อื่น ลักษณะการปฏิบัติในศีลให้ละเอียดเป็นของดี แต่เราต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ให้ศีลนั้นไปส่งเสริมสมาธิให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่ไปแบกศีลเอาไว้ว่า "ศีลกูดีกว่า" ถ้าอย่างนั้นก็ไปไม่รอดครับ..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตรงจุดนี้ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี หรือว่าฆราวาส เราต้องตระหนักรู้ในตนเอง รู้ว่าอะไรเป็นข้อจำกัดของตนเอง โบราณเขาบอกว่า "หากการงานนั้นเหลือกำลังลาก ให้ออกปากบอกแขกช่วยแบกหาม" ไม่ใช่ว่ากลัวคนอื่นรู้ว่าเราทำไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นความโง่เฉพาะตน นอกจากทำงานไม่สำเร็จแล้ว ยังกลายเป็นแบกกิเลสเอาไว้ด้วย เกิดมาต้องรู้จักแพ้ให้เป็น ถ้าแพ้ไม่เป็น ชีวิตนี้จะชนะยาก

ผมเคยยกตัวอย่าง มาร์ตินา ฮินกิส นักเทนนิสหญิง บางงวดก็ได้แชมป์ระดับวิมเบิลดัน เฟรนช์โอเพ่น ออสเตรเลียนโอเพ่น แต่บางทีก็ตกรอบแรก..! แต่ก็ไม่เห็นคุณเธอรู้สึกรู้สาอะไร ตกรอบแรกก็ศึกษาดูว่าตัวเองพลาดตรงไหน แล้วก็แก้ไขใหม่ เดี๋ยวก็ได้แชมป์อีก นั่นคือคนที่แพ้เป็น แพ้แล้วรู้จักแก้ไขข้อบกพร่อง แก้ไขจุดอ่อนของตนเองจนกลับชนะใหม่

เหมือนกับการปฏิบัติธรรมของพวกเราทั้งหลาย ถ้าคุณชนะกิเลสแล้วก็ไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก แต่เพราะว่าแพ้แล้วแพ้อีก แต่ต้องแพ้ให้เป็น ก็คือรู้ว่าพลาดตรงไหน พยายามแก้ไขตรงนั้น จนกว่าที่จะชนะแล้วก้าวผ่านไปได้ แล้วข้อทดสอบใหม่ ๆ ก็จะมาอีก แต่ไม่มามุมนั้นแล้ว เพราะรู้ว่าเราสู้ได้ เพียงแต่ว่าแพ้บ่อย ๆ แล้วอย่าท้อ ต้องสู้กันต่อไปจนกว่าจะลมหายใจสุดท้าย ไม่ใช่แพ้หน่อยก็หมดกำลังใจแล้ว ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็เป็นทาสกิเลสต่อไปอีกนับชาติกันไม่ถ้วน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2021 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา