ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 20-05-2021, 23:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตัวผมเองตอนที่เป็นทหารอยู่นั้น เป็นระยะเวลาที่โดนหนักที่สุด ขึ้นชื่อว่า "ทหาร" ก็รู้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องอบายมุข ครบถ้วนทุกอย่าง แต่ผมไปกับเขาไม่ได้ เพราะว่าไปแค่กรอบของศีล เพื่อนกินเหล้า ผมก็กินกับ เพื่อนเมาหัวทิ่มเดินไม่ไหว ผมก็แบกกลับ บางทีอยู่เวรแล้วแอบกินเหล้าเมาเป็นหมา เจ้านายมาตรวจ ผมก็ต้องไปยืนเวรแทน โดยที่แบกเพื่อนไปซ่อนก่อน

แต่ว่าไม่ว่าจะทำดีขนาดไหนก็ตาม ในส่วนหนึ่งที่เขาเห็นว่าเราไม่ใช่พวก ก็คือละเมิดศีลละเมิดธรรมตามเขาไม่ได้ แม้กระทั่งอยู่ชายแดน ช่วงหน้าฝนไปจับอึ่งอ่างกันมาเป็นถัง น่าจะหลายร้อยตัว เพื่อนก็เอามายัดไว้ใต้เตียงผม เพราะว่ากลัวเจ้านายด่า ถึงเวลาก็โรยเกลือตากแดด ดูแล้วน่าสงสารมาก ผมก็แค่บ่นสั้น ๆ ว่า "บาปตายห่..!" เพื่อนบอกว่า "บาปอร่อย บุญไม่อร่อยหรอก..!"

ฉะนั้น...โอกาสที่จะเสียจึงมีสูงมาก เพราะว่าเพื่อนทั้งกองโรงเรียนไปทางเดียวกันหมด มีแต่เราที่ทวนกระแสอยู่ แต่ช่วงนั้นโชคดีที่ว่า ในเรื่องของสมาธิสมาบัติ ผมเต็มที่และไม่เคยทิ้ง ไม่ว่าการฝึกทหารจะเหนื่อยยากแค่ไหน ผมจะปลีกเวลา แบ่งเวลามาภาวนาอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นแล้วกำลังของเราจะไม่พอสู้กับกิเลสหรือปากคน

แต่พอเราสามารถก้าวขึ้นไปสูงกว่าเดิม ก็คือสมาธิก่อให้เกิดปัญญา คราวนี้สบายขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องไปสู้แล้ว ตอนที่เราใช้สมาธิเข้าสู้ เหมือนกับเข็นครกขึ้นภูเขา ถ้าพลาดหมดกำลังเมื่อไร ครกก็กลิ้งมาทับเราปางตาย แต่ถ้าหากว่าสมาธิก่อให้เกิดปัญญาแล้ว จะแยกแยะออกว่านั่นเป็นแค่คำพูดเท่านั้น ได้ยิน..เราก็สักแต่ว่าได้ยิน

ผมเคยดูใจตัวเองครับ ในช่วงนั้นเหมือนอย่างกับตัวเรานั่งอยู่กลางทุ่งโล่ง รอบข้างว่างเปล่าไปหมด คำพูดหรือการกระทำของคนอื่น ไม่สามารถที่จะกระทบอะไรได้เลย ก่อนหน้านี้เหมือนกับเรานั่งอยู่ในบ้าน อาศัยกำลังสมาธิอย่างเดียว เหมือนมีบ้านอยู่ ใครจะขว้างอะไรมาก็กระทบผนังบ้าน แต่พอปัญญาเกิด สักแต่ว่าเป็นเสียงที่เขาพูด เราก็สักแต่ว่าได้ยิน ถ้าเป็นกิริยาที่เขาทำ เราก็สักแต่ว่าเห็น เหมือนกับตัวเรานั่งอยู่กลางที่โล่ง ใครขว้างอะไรมาก็ไม่กระทบเลย

ถ้าถึงตอนนั้นถือว่าสบาย เริ่มวางลงได้มาก แล้วกำลังใจระดับนั้น ต่อให้พังลงไปก็ฟื้นคืนมาเร็วมาก เพราะว่าเหมือนอย่างกับมีพื้นฐานรองรับ กำลังใจจะตก สมาธิจะตก กรรมฐานจะแตกขนาดไหนก็ตาม จะไม่ต่ำไปกว่าพื้นฐานตรงนั้น และสามารถที่จะฟื้นคืนมาได้เร็วมาก เพราะว่าไม่ค่อยจะไปแบกอะไรมาคิดแล้ว

ส่วนใหญ่ที่เราพังไปนาน เพราะว่ามัวแต่ไปคิด เสียดายเวลา เสียดายความดี ในเมื่อมัวแต่ไปคิดไปคร่ำไปครวญอยู่ ก็จะเสียเวลานาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2021 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา