"ตอนนี้ลูกศิษย์ ๓๗ รูปใน ๑ ห้องเรียน เท่าที่ดูมียึดหลักการอยู่ ๒ รูป ซึ่งถือว่าเยอะมาก เพราะปกติจะเละหมดทั้งห้อง
เขาสอนกันมาเป็นรุ่นต่อรุ่น พยายามผ่อนผันเรื่องศีล อย่างเช่น กินข้าวเย็นได้ ดูหนังฟังเพลงได้ เพื่อเอาใจพวกเณรให้อยู่เรียนกับสำนักนี้ ถ้าเขาเรียนได้มากเท่าไร ตัวเองก็เบิกค่าหัวได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะว่าเงินช่วยเหลือจากส่วนกลางเขาจะมีอยู่ เป็นเงินช่วยในการศึกษา เพราะฉะนั้น..มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราจะได้ข่าวว่ามีสำนักเรียนในกรุงเทพฯ แจ้งยอดนักเรียนเกินเป็น ๗๐๐-๘๐๐ รูป แล้วก็เบิกเงินตามนั้น พอเขาไปตรวจสอบก็บอกว่าไม่มี อ้างว่าสึกไปแล้ว ถ้าเจตนาแบบนั้นมันชัดเกิน ความเป็นพระไม่น่าจะเหลือ
ฟัง ๆ แล้วน่าสลดใจ อาตมาไปสอนนี่ไม่ได้ตั้งใจอะไร ตั้งใจตักน้ำรดหัวตอ มันไม่งอกเอาแค่เปียกก็ยังดี มันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ทำอย่างไม่หวังผล ทำเพราะเป็นสิ่งที่เราต้องทำ เมื่อได้ทำเราทุ่มเทไปแล้วถือว่าเราทำหน้าที่สมบูรณ์ไปแล้ว ผลจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิด เป็นเรื่องของเขาไม่ใช่ของเรา
ค่าบรรยายที่เขาให้ก็ไม่พอค่ารถ ไปกลับเที่ยวหนึ่งก็ ๖๐๐ กว่าบาท บรรยายไปสองชั่วโมงได้มา ๔๐๐ บาท ยังดีที่ไม่ต้องจ่ายฟรี ๖๐๐..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-04-2011 เมื่อ 17:12
|