หลายท่านก็โดนหนามไผ่เกี่ยวบ้าง ขีดบ้าง ข่วนบ้าง ลายไปทั้งตัว เลือดซิบ ๆ นั่นก็ไม่ถือว่าเข้านะครับ โบราณเขาเรียกว่า "ยางบอน" คือเวลาเราตัดต้นบอนหรือใบบอนแล้วจะมียางซึมออกมาจุด ๆ แบบนั้น แต่พวกเรากำลังใจมักจะตก ถ้าลักษณะอย่างนั้น ของดีแค่ไหนก็กันไม่ได้
เราต้องคิดถึงว่า คนโบราณที่รบกัน ถือหอกถือดาบเงาวับ วิ่งเข้าใส่กัน ถ้ากำลังใจไม่มั่นคงจริง ๆ ทำไม่ได้นะครับ เหตุที่กำลังใจมั่นคงก็เพราะว่ามีวัตถุมงคลที่ท่านมั่นใจอยู่กับตัว เพราะฉะนั้น..ความมั่นใจจึงเป็นหลักสำคัญที่สุดของการใช้วัตถุมงคลแต่ละอย่าง ลังเลสงสัยแม้แต่นิดเดียวก็ไม่รอดแล้ว
แบบที่กระผม/อาตมภาพแนะนำหลายท่านไปเรื่องคาถากันฝน พอเห็นเมฆดำย้อยมาจะติดหัว ท่านก็กำลังใจเสียแล้ว ฝนตกเปาะแปะลงมาไม่กี่เม็ดก็ฝ่อแล้วว่าเจ๊งแน่..! ถ้าลักษณะอย่างนั้นไม่มีประโยชน์เลย เพราะกำลังใจของเราไม่มั่นคง แต่กระผม/อาตมภาพยืนยันว่าไม่ตก ถึงเวลาเดินบิณฑบาตตั้งแต่ต้นจนปลาย ก็ไม่เห็นว่าฝนจะตก ก็เพราะว่าความมั่นคงของกำลังใจนั้นต่างกัน
แต่คราวนี้วัตถุมงคลสายหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น ท่านยืนยันว่านอกข้อกันไม่ได้ ก็คือข้อมือข้อเท้าออกมา ก็แปลว่าตั้งแต่ข้อออกมาถึงปลายนิ้ว โดนเมื่อไรก็เรียบร้อยเมื่อนั้น หลายท่านจะเห็นว่าเวลาเดินบิณฑบาต กระผม/อาตมภาพเหยียบเศษแก้วแล้วก็ไปนั่งแคะเป็นประจำ
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวิชาการสายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หรือว่าหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านไม่กันเรื่องมือเท้าให้ หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านให้เหตุผลว่า ลูกศิษย์ท่านส่วนใหญ่มาสายพระโพธิสัตว์ พวกนี้กำลังใจเกินคน ถ้าไม่มีจุดอ่อนไว้บ้าง ก็จะเป็นโจรกันหมด..!
แต่ว่าวิชาการของอีกหลายสาย เขาบอกว่ากันนอกข้อไม่ได้เหมือนกัน ท่านบอกว่านอกข้อมือ ข้อเท้า เป็นส่วนที่พ่อแม่แช่งเอาไว้ ความจริงพ่อแม่ไม่ได้แช่ง แต่คำพูดของพ่อแม่นั้นศักดิ์สิทธิ์มาก "ระวังมีดบาดมือนะลูก" "ระวังหนามตำตีนนะลูก" เรียบร้อย..เท่ากับพ่อแม่ไปเปิดทางให้แล้วว่าสองอย่างนี้ของแหลมของคมต้องเล่นงานได้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-02-2023 เมื่อ 02:25
|